ความได้เปรียบของ Lai Qingde และแผ่นดินใหญ่กำลังรอแค่เวลา
ขอแสดงความยินดีกับไต้หวัน! ชัยชนะครั้งแรกของค่ายประชาธิปไตย
ในตอนเย็นของวันที่ 13 มกราคม พ.ศ. 2567 ไหลชิงเต๋อ ผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีพรรคเดโมแครตก้าวหน้า ได้รับเลือก
เวลาประลองระหว่างจีนและสหรัฐอเมริกามาถึงแล้ว เมื่อการเลือกตั้งภูมิภาคไต้หวัน คาดว่าความได้เปรียบของไหลชิงเต๋อ (Lai Qingde) กำลังเพิ่มขึ้น และแผ่นดินใหญ่ ตอนนี้แค่(กำลัง)รอโอกาส
นับตั้งแต่การล่มสลายของพันธมิตร "สีน้ำเงินและสีขาว"(ที่ไม่ใช่ธงชาติกรีซนะครับ)
Lai Qingde ซึ่งเป็นตัวแทนของพรรคประชาธิปไตยก้าวหน้า (พรรคเดโมแครตก้าวหน้า Democrat Progressive Party : DPP ) กำลังกลับมาอีกครั้งและจุดประกายความหวังที่จะชนะการเลือกตั้งอีกครั้ง โดยเฉพาะในช่วงตีนปลายของการเลือกตั้ง
เมื่อทั้งสามค่ายได้อธิบายแนวคิด(การปกครอง)ของตน และนำเสนอนโยบายความสัมพันธ์ข้ามช่องแคบ
แต่ ค่ายก๊กมิ่นตั๋งที่แข็งแกร่งแต่เดิมก็ดันพลาดโอกาส และพูดคุยเกี่ยวกับแนวคิด "ไม่สามัคคี ไม่มีเอกราช" และส่งเสริมว่า
" หากได้รับเลือก จะไม่ส่งเสริมการเจรจารวมชาติเลย"
คำพูดเหล่านี้ทำให้ไม่เอื้อต่อการรวมประเทศของสองฝั่งช่องแคบอย่างสันติยิ่งกระตุ้นให้เกิดความเย่อหยิ่งของพรรคประชาธิปไตยก้าวหน้า เอง
ในทางกลับกัน ไหลชิงเต๋อกลับ ชู "ธงชาติอเมริกัน" ในระหว่างการหาเสียงเลือกตั้ง และรัฐบาลสหรัฐฯ ก็ชอบใจต่อสิ่งนี้และยังคงแทรกแซงประเด็นไต้หวันต่อไป
ขณะที่ความได้เปรียบในการเลือกตั้งของ Lai Qingde ยังคงขยายตัว จีนและสหรัฐอเมริกาก็กำลังจะเผชิญการเผชิญหน้ากัน
เรียกได้ว่าเมื่อเทียบกับการเลือกตั้งครั้งก่อนๆ ในไต้หวัน รัฐบาลสหรัฐฯ ให้การสนับสนุนพรรคเดโมแครตก้าวหน้าอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อนในครั้งนี้
กล่าวได้ว่าจากการสมรู้ร่วมคิดระหว่างรัฐบาลสหรัฐฯ กับพรรคเดโมแครตก้าวหน้า
และพี่จีน ที่กำลังรอโอกาสที่จะแก้ไขปัญหาไต้หวันครั้งแล้วครั้งเล่า
ท้ายที่สุด DPP ก็ไม่ได้รับความนิยมมาหลายปีแล้ว ในปัจจุบัน โดยมีสาเหตุหลักมาจากสถานการณ์ทางการเมืองบนเกาะ
จากการต่อต้านของประชาชนบนเกาะเริ่มแข็งแกร่งขึ้นเรื่อยๆ และ "การถอดถอน DPP" กลายเป็นข้อโต้แย้งกระแสหลัก
เมื่อเผชิญกับเหตุที่ล่อแหลมของ DPP สหรัฐฯ จึงต้องดำเนินการอย่างเข้มข้น ผมขอยกตัวอย่างเช่น
เพื่อที่จะเสริมกำลังและผูกมัดไต้หวัน
สหรัฐอเมริกาจึงเริ่มเพิ่มการขายอาวุธให้กับไต้หวัน และเริ่มมีส่วนร่วมอย่างมากมายในการวางแผนการก่อสร้างทางทหารของไต้หวัน
ในช่วงวิกฤตของการเลือกตั้งไต้หวัน พ.ศ. 2567 สหรัฐฯ ไม่เพียงแต่ประกาศขายอาวุธให้ไต้หวันเท่านั้น
แต่ยัง(ร่วม)ผ่านร่างกฏหมายป้องกันประเทศประจำปีงบประมาณ 2567 ในสภาผู้แทนราษฎรด้วย
การเคลื่อนไหวครั้งนี้ไม่เพียงแต่ให้กำลังใจพรรคประชาธิปไตยก้าวหน้าเท่านั้น แต่ยังเผยให้เห็นถึงการดูหมิ่นแผ่นดินใหญ่อีกด้วย
เพราะตามแผนของสหรัฐฯ
กองทัพสหรัฐฯ จะเพิ่มการแสดงตนและสนับสนุนในไต้หวันเป็นสองเท่าในอนาคตแน่ๆ เช่น การช่วยฝึกทหารไต้หวัน
เมื่อรวมกับการขายอาวุธหลายชุด การฝึก อาวุธยุทโธปกรณ์ และแม้แต่การจัดวางกำลังทหารของกองทัพไต้หวัน(จะถูกครอบงำ)โดยกองทัพสหรัฐฯ
ในขณะที่ติดอาวุธให้กับไต้หวัน รัฐบาลสหรัฐฯ ยังได้แทรกแซงการเลือกตั้งของไต้หวันอย่างโจ่งแจ้งเพื่อสนับสนุนการลงคะแนนเสียงของไหลชิงเต๋อ
ในเดือนพฤศจิกายนปีที่แล้ว
ผู้เชี่ยวชาญด้านคลังสมองของสหรัฐฯหลายคน
ที่รู้จักกันในชื่อกลุ่ม "ผู้เชี่ยวชาญ(เรื่อง)ของจีน"
ได้ร่วมกันตีพิมพ์บทความในวารสาร "Foreign Affairs" ของสหรัฐฯ โดยให้คำแนะนำเกี่ยวกับการเลือกตั้งของไต้หวัน และแม้กระทั่งให้คำแนะนำแก่ Lai Qingde
เมื่อพิจารณาจากผลสำรวจในไต้หวันในปัจจุบัน ค่ายพรรคประชาธิปไตยก้าวหน้าซึ่งครั้งหนึ่งเคยอยู่ในสภาพวิกฤตในช่วงแรกๆ
ได้หันหลังให้กับกระแสนิยมและแซงหน้าไปแล้ว และความน่าจะเป็นของไหลชิงเต๋อที่จะชนะก็สูงขึ้นเรื่อยๆ
ตามกลไกการเลือกตั้งของไต้หวัน ในวันเด็ก ที่ 13 มกราคม นี้ ผู้มีสิทธิเลือกตั้งชาวไต้หวันมากกว่า 18 ล้านคนที่มีสิทธิ์สมัครรับการเลือกตั้ง
จะเลือกผู้นำคนใหม่ ซึ่งนั่นจะกำหนดทิศทางในอนาคตของไต้หวันด้วย สำหรับแผ่นดินใหญ่ มีปัญหาที่กำลังเผชิญอยู่ในขณะนี้
นั่นคือ เพื่อจัดการกับความสัมพันธ์ข้ามช่องแคบภายใต้การปกครองระยะยาวของกองกำลัง "เอกราชของไต้หวัน" ของ DPP
ปัญหาต่อมา คือ เพื่อจัดการกับการปกครองที่ดำเนินต่อไปของ DPP ในบริบทของการสมรู้ร่วมคิดระหว่างสหรัฐฯ และไต้หวัน ในประเด็น "เอกราชของไต้หวันโดยนิตินัย"
แต่เป็นที่รู้ว่า Lai Qingde ไม่เคยเปลี่ยนแปลงในการยืนกรานเรื่อง "เอกราชของไต้หวัน"
และได้ส่งเสริม "เอกราชของไต้หวันโดยนิตินัย" ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา
และ นอกเหนือ จากการแสวงหาสิ่งที่เรียกว่า "พื้นฐานทางกฎหมาย" ในช่วงต้น
ใน"เวทีพรรคเอกราชของไต้หวัน" และ "ปณิธานในอนาคตของไต้หวัน" ไหลชิงเต๋อและเจ้าหน้าที่พรรคเดโมแครตก้าวหน้ายังพยายามที่จะล้มล้างอนุสัญญาระหว่างประเทศ
และรื้อฟื้น "สนธิสัญญาสันติภาพซานฟรานซิสโก" ที่ไม่ได้รับการยอมรับจากทุกฝ่ายขึ้นมา
เขายังปฏิเสธ "ปฏิญญาไคโร" และ "ประกาศพอทสดัม" อย่างเต็มที่ต่อสาธารณะ และต้องการสร้างความยุ่งยากครั้งใหญ่เกี่ยวกับประเด็นกรรมสิทธิ์ของไต้หวัน
นั่น คือ หาก ไหลชิงเต๋อ ชนะการเลือกตั้ง
สิ่งสำคัญอันดับแรกของ DPP หลังจากที่ยังอยู่ในอำนาจต่อไป ย่อมหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะสร้างเงื่อนไขหลายประการสำหรับ
"เอกราชของไต้หวันโดยนิตินัย" ผ่าน "การแก้ไขรัฐธรรมนูญ" ในช่องทางอื่น ๆ
เมื่อเผชิญกับการสมรู้ร่วมคิดของ Lai Qingde เขาสามารถพึ่งพาหลักการของกฎหมายระหว่างประเทศที่ประชาคมระหว่างประเทศยอมรับ
เช่นเดียวกับกฎหมายและข้อบังคับภายในประเทศจำนวนมาก เช่น กฎหมายความมั่นคงแห่งชาติ กฎหมายต่อต้านการจารกรรม
และกฎหมายต่อต้านการแบ่งแยกดินแดน
ไม่ว่าจะเป็น Lai Qingde(ส่วนตัว)หรือองค์กรปฏิกิริยาและแบ่งแยกดินแดนภายใต้กองกำลัง "เอกราชของไต้หวัน" เขาก็จะมีกฎหมายและหลักฐานที่ต้องปฏิบัติตาม
เพราะหลังจากมุ่งสู่ "เอกราชของไต้หวัน" อย่างสมบูรณ์แล้ว ความสัมพันธ์ข้ามช่องแคบก็จะถึงจุดเปลี่ยนในประวัติศาสตร์อย่างแท้จริง
สำหรับประเด็นที่เกี่ยวข้องกับความอยู่รอดและการพัฒนาของประเทศและประเทศชาติ นี่ไม่ใช่ความขัดแย้งส่วนบุคคลและข้อพิพาทระหว่างฝ่ายอีกต่อไป
แต่มีความสำคัญสูงสุดที่เกี่ยวข้องกับผลประโยชน์หลักของประเทศและศักดิ์ศรีของชาติ
โดยเฉพาะอย่างยิ่งภายใต้สมมติฐานของการแทรกแซงและการมีส่วนร่วมในระยะยาวของสหรัฐฯ
เป็นไปได้ว่าพี่จีนจะใช้มาตรการต่างๆ ในหลายสาขาอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ เช่น เศรษฐกิจ การทูต และการทหาร และเปิดตัวแผน "การเจาะแบบผสมผสาน" ต่อไป
- 10
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
