11 ม.ค. เวลา 03:59 • ปรัชญา
โอ้โห คำถามนี้ เป็นคำถามที่ช่างชวนคิดชวนคุยซะจริงๆเลยนะครับ
สมมุติว่าเรากำปลายเชือกอีกด้านหนึ่งไว้ และปลายอีกฝั่งยาวออกจากมือเราไปเรื่อยๆไม่มีสิ้นสุด
คำถามก็คือ
ถ้าเราใช้กรรไกรตัดเชือกไปเรื่อยๆอย่างไม่รู้จบ คิดว่าเชือกนั้นจะหมดหรือเปล่า
คำตอบเชิงวิเคราะห์ คือ
คำถามก็บอกอยู่ว่า เชือกยาวออกไปเรื่อยๆไม่รู้จบ ราวกับว่าเปรียบเสมือนเป็นจักรวาลที่กำลังขยายตัวอย่างไม่มีที่สิ้นสุด มันคือผลลัพธ์ที่เปรียบเสมือนเป็นจุดทศนิยม ที่ไม่รู้จบ 0.111111 ไปเรื่อยๆ นั่นเท่ากับว่ามันคือความเป็นอนันต์ ที่ไร้ขอบเขต
แต่ถ้าเราใช้กรรไกรตัดไปเรื่อยๆ
ตัดแบบไม่รู้จบเหมือนกัน
มันก็เท่ากับว่าเป็นการขยายตัวทั้งสองฝ่าย ทั้งกรรไกรที่เคลื่อนที่ไปข้างหน้าจากการตัด และเชือกที่ยาวออกไปเรื่อยๆและขยายตัวไปเรื่อยๆพร้อมๆกัน จึงเป็นการทำงานแบบระบบโดยไม่มีที่สิ้นสุด
แต่พระพุทธองค์ตรัสว่า
ทุกสิ่งทุกอย่างมีจุดเริ่มต้นและจุดจบเสมอ
ก็ต้องดูว่าจุดจบของมันจะมาเมื่อไหร่ ก็แสดงว่าจะต้องมีเชือกอีกเส้นหนึ่ง ที่ทำงานเหมือนกัน ยาวออกไม่สิ้นสุดเหมือนกัน วิ่งมาชนกัน จึงเกิดการผสมยุ่งเหยิง จนไม่สามารถที่จะยาวออกไปอีก จึงเกิดการผสมรวมชนกัน คล้ายกับทฤษฎีอนุภาพชนกันของ galaxy ที่มีความยิ่งใหญ่ทั้ง 2 galaxy วิ่งชนกัน จึงเกิดเป็นการสูญสิ้นและก่อกำเนิดหลุมดำมวลยิ่งยวดเป็น galaxy ใหม่อีกครั้ง นั่นจะนับว่าเป็นจุดสิ้นสุดได้หรือไม่
1
โฆษณา