Khao Yai Art Museum (1).. เสพงานศิลป์ที่เขาใหญ่
ศิลปะเปรียบเสมือนน้ำ .. น้ำใสเย็นที่ไหลไป สะท้อนเรื่องราวผ่านกาลเวลา ผสมผสานจนเรียงร้อยออกมาเป็นความงามผสมจินตนาการของศิลปินผู้ถ่ายทอด ออกสู่สายตาผู้พบเห็น เป็นบทบันทึกที่อยากจะบอกเล่าความในใจ ..
.. ใครบางคนกล่าวไว้เช่นนั้น
สำหรับคนที่ชอบเสพงานศิลปะ คงไม่มีอะไรดีต่อใจมากไปกว่าการได้เห็นผลงานต้นฉบับด้วยตาตัวเอง .. และสิ่งที่พิเศษสำหรับเราในการมาเยือน เขาใหญ่อาร์ตมิวเซียม (Khao Yai Art Museum) แห่งนี้ คือการได้ มาดูความงดงามของศิลปะที่สร้างขึ้นโดยคนไทย
เราไม่ค่อยคุ้นเคยกับงานศิลปะสมัยใหม่ หรือว่าศิลปะไทยแบบประเพณี ไม่ค่อยคุ้นกับพวกลายไทยต่างๆ .. งานศิลปะร่วมสมัยแบบ Contemporary Art จึงดูได้เพลิดเพลิน แม้บางภาพเราจะไม่รู้ถึงแรงบันดาลใจในการสร้างสรรค์ของศิบปิน หรือรายละเอียดของภาพก็ตาม
เขาใหญ่อาร์ตมิวเซียม .. เป็นเป็นหอศิลป์ที่จัดแสดงผลงานศิลปะและลานประติมากรรมกลางแจ้ง อันเป็นชิ้นงานศิลปะที่ คุณพงษ์ชัย จินดาสุข ผู้บริหาร จินดาสุขกรุ๊ป ใช้เวลาสะสมมานานหลายสิบปี แบบ Private Collection .. ตั้งอยู่บนพื้นที่กว่า 20 ไร่ ในอำเภอปากช่อง จังหวัดนครราชสีมา
พิพิธภัณฑ์แห่งนี้ มีการจัดแสดงผลงานของศิลปินระดับแนวหน้าของเมืองไทยจำนวนหลายร้อยชิ้น ที่ถูกนำมาจัดแสดงให้ชมฟรี ในพื้นที่หอศิลป์ที่ได้รับการจัดการอย่างเป็นระบบ ทั้งในอาคารที่เป็นหอศิลป์ และสวนประติมากรรมกลางแจ้ง
พื้นที่ทั้งหมดประกอบด้วยแกลลอรี่ขนาดใหญ่กว่า 1,700 ตารางเมตร .. ซึ่งงานศิลปะของทั้งหมดเปิดให้นักท่องเที่ยวได้เยี่ยมชมโดยไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆทั้งสิ้น
.. วัตถุประสงค์หลัก คือการใช้เป็นแหล่งเรียนรู้ทางศิลปะ เพื่อพัฒนาแนวความคิด และกระตุ้นให้ผู้เข้าชมผลงานเกิดความสนใจทางศิลปะมากขึ้น ท่ามกลางสภาพแวดล้อมร่มรื่นที่ได้รับการดูแลอย่างงดงามใจกลางขุนเขา
การเข้าเยี่ยมชม จะมีเจ้าหน้าที่ให้คำแนะนำสิ่งที่เราควรจะรู้และปฏิบัติระหว่างการชม .. ในบริเวณนี้ เราประทับใจกับประติมากรรมรูปพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 ที่วิจิตรงดงามมาก
.. มีรายละเอียดที่มากมาย
เขาใหญ่อาร์ตมิวเซียม แบ่งห้องแสดงผลงานออกเป็น 3 ห้อง ตามสไตล์ของงานศิลป์ .. โดยเรียกว่าห้อง A B และ C ตามลำดับ ..
ทั้ง 3 ห้องมีชิ้นงานที่นำมาจัดแสดงหลายร้อยชิ้น ซึ่งเป็นการรวบรวมศิลปะจากศิลปินระดับแนวหน้าหลายท่าน ไม่ว่าจะเป็น อ.เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์ อ.ถวัลย์ ดัชนี อ.ช่วง มูลพินิจ อ.ชลูด นิ่มเสมอ อ.ประเทือง เอมเจริญ อ.ประหยัด พงษ์ดำ อ.ปรีชา เถาทอง เป็นต้นค่ะ อีกทั้งยังมีผลงานของศิลปินรุ่นใหม่อีกด้วย
.. การที่มีผลงานของศิลปินชั้นครู ระดับศิลปินแห่งชาติ และระดับแนวหน้าหลายท่าน เป็นอีกหนึ่งการันตีว่า พิพิธภัณฑ์แห่งนี้เปี่ยมคุณภาพ และคุ้มค่าที่จะเข้ามาชม เติมความรื่นรมย์ให้กับคนที่มีหัวใจอาร์ต
Art Space A .. ห้องจัดแสดงห้องแรก ซึ่งเป็นห้องที่มีพื้นที่มากที่สุดใน 3 ห้องจัดแสดง
บรรยากาศด้านหนึ่งภายใน Art Space A ในภาพกว้าง ..
ประติมากรรม และภาพวาด พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 .. พระผู้สถิตย์อยู่ในเบื้องลึกของหัวใจคนไทย จากนี้ตราบนิรันดร
ผลงานชุด “ประติมากรรมชนบท” ของ อาจารย์ชลูด นิ่มเสมอ
.. สะดุดตา สะดุดใจอย่างจัง ความพิเศษของงานชิ้นนี้ คือการเลือกสิ่งของของชาวบ้านมาที่มีการใช้งานจริงๆ มารวมไว้ในชิ้นงาน ซึ่งในชีวิตจริงปัจจุบันอาจจะหาดูยากแล้ว .. แนวคิดและการรังสรรค์งาน น่าทึ่งมาก
ชิ้นงานโดดเด่น ที่น่ากล่าวถึง ..
"ขลุ่ยทิพย์" .. โดย อาจารย์ เขียน ยิ้มศิริ ศิลปินชั้นเยี่ยม สาขาประติมากรรม ผู้ซึ่งเป็นนักประติมากร เป็นศิลปินที่บุกเบิก ในการนำเอา คุณค่าลักษณะแนวไทยประเพณีลักษณะตรงตามอุดมคติ มาเป็นรูปแบบในการสร้างสรรค์ผลงาน การพัฒนาการ ที่ คลี่คลายมาสู่ประติมากรรม แบบร่วมสมัย
.. ที่แฝงความเป็นไทยอยู่ในเนื้อหาของการแสดงออก คือ การใช้เส้นที่ดูอ่อนช้อยละเมียดละไม ให้ความรู้สึกถึงความงามของเส้น ที่เคลื่อนไหวประสานสัมพันธ์กัน อย่างสมบูรณ์ ประสานกับจังหวะท่าทาง ในเชิงองค์ประกอบศิลป์
"ขลุ่ยทิพย์" .. ประติมากรรมผู้ชายกำลังเป่าขลุ่ย รูปแบบเป็นการแสดงออกตามอุดมคติ ที่คลี่คลายมาจาก ภาพจิตรกรรมฝาผนังของไทยโบราณ
… ท่วงท่าของร่างกายที่ดูอ่อนช้อย นุ่มนวล สอดคล้องประสานสัมพันธ์กับจังหวะการเป่าขลุ่ย จะเห็นได้จากท่าทางของนักดนตรีที่เอียงตัว แขน นิ้วมือ นิ้วเท้า ที่แสดงลีลาเคลื่อนไหวอยู่โดยตลอด ทำให้เกิดความรู้สึกราวกับว่า ได้ยินเสียงขลุ่ยออกมาจริง ๆ ตามท่าทางที่บ่งบอกของนักดนตรี
ภาพวาดที่เป็นฉากหลัง .. The Horror Forest : oil on canvas
ประติมากรรมเรียบๆอีกชิ้นงาน .. สวยด้วยเส้นสายที่ดูออกว่าเป็นร่างกายของมนุษย์ ... แต่มีความโดดเด่นด้านประติมากรรม
ประติมากรรมอรหันต์ - รูปหัวคนมีปีกเป็นนก
รูปทรงของชิ้นงานได้มาจากจิตรกรรมฝาผนังวัดสุทัศน์เทพวรารามราชวรมหาวิหาร
อรหันต์มีศีรษะเป็นมนุษย์หรือยักษ์ ส่วนล่างศีรษะและอกลงมา มีปีกผสมแขน มีแข้งขา และมีกรงเล็บ ภาพรวมทั้งหมดเห็นเป็นรูปนก
... เป็นจินตนาการจากรูปทรงที่กระตุ้นความเพ้อฝันที่จะบิน ทำให้จิตล่องลอยอยู่เหนือความเป็นจริงตามธรรมชาติ มีที่มาจากเรื่องในไตรภูมิ เป็นสัตว์ที่อาศัยในดินแดนหิมพานแบบอุดมคติที่อยู่เหนือแดนมนุสสภูมิ
งานอรหันต์สื่อถึงอุดมคติที่เหนือความจริง แต่มาปรากฏในยุคสมัยที่ความคิดฝันสามารถเป็นความจริงได้โดยการเชื่อมโยงคติ ความเชื่อกับพฤติกรรมของมนุษย์ในสังคมปัจจุบัน
.. เช่น การมีหูตาทิพย์สามารถพูดคุยและเห็นกันแม้จะอยู่ต่างภาพต่างดินแดน เหมือนกับการใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่ในโปรแกรมเฟซไทม์
นอกจากนี้ งานอรหันต์ยังแสดงถึงความเพ้อฝัน อยากได้ อยากมี อยากเป็น บันดาลให้ร่างกายเปลี่ยนรูปไปตามจิตเนรมิต สะท้อนถึงผู้คนในสังคมไทยยุคนี้ที่มีการตกแต่งประดับประดา ศัลยกรรมร่างกายตามความพึงพอใจและความนิยม แสดงความต้องการด้านความงามของมนุษย์ที่เกี่ยวเนื่องกับเรื่องทางเพศที่เกินธรรมชาติ
.. ใช้กรรมวิธีการสร้างสรรค์เชิงประติมากรรมที่เชื่อมโยงกับการหลอมรวมและผสานรูปทรงด้วยแนววิธีอุดมคติแบบไทย
ประติมากรรม หลง .. เป็นประติมากรรมในชุดโลกียธรรม ซึ่ง คุณ ธงชัย ศรีสุขประเสริฐ ได้สะท้อนแก่นแกนของกิเลส ผัสสะ ความรัก ความไคร่ ฯลฯ ซึ่งเกิดจากวินิจฉัยธรรมอันเป็นธรรมชาติของชีวิต มาบอกเล่าในรูปแบบ ‘ธรรมศิลป์’
.. เพื่อเตือนสติคนดีว่า เวลาดูรูปประติมากรรมต้องมีสติก่อน พอสติมาจึงเกิดสัมปะชัญญะ มีครบหมดแล้วค่อยสำรวจจิตใจตัวเอง
Impermanent of Truth โดย ปัญญา วิจินทนสาร : Acrylic on canvas 2008
ปัญญา วิจินธนสาร เป็นศิลปินแห่งชาติ ผู้บุกเบิกงานศิลปะไทยประเพณีแบบร่วมสมัยให้เป็นที่รู้จักในระดับสากล เป็นศิลปินที่สร้างชื่อเสียงจากการผลงานสร้างสรรค์และพัฒนางานศิลปะไทยแบบประเพณีให้มีความก้าวหน้าร่วมสมัยและมีความเป็นสากล แบบ Thai Neo Traditional Art จนกลายเป็นที่ยอมรับทั้งในและต่างประเทศ
Impermanent of Truth .. สะท้อนวิถีชีวิต ความรู้สึก นึกคิด ความเชื่อ ความศรัทธา แรงบันดาลใจจากพุทธศาสนา และปรัชญาแห่งตะวันออก ซึ่งฝังรากลึกอยู่ในความเป็นคนไทยและผู้คนตะวันออก
ผลงานศิลปะล้วนสะท้อนวิถีชีวิตของยุคสมัย ทัศนะ ความคิด อุดมคติ และความเป็นไปของเหตุการณ์ในสังคม .. ภาพที่สะท้อนความหลากหลายในปัจเจกภาพทางความคิด ความเชื่อของคนไทย ค่านิยมทางสังคม
ศิลปะร่วมสมัยอีกแบบหนึ่ง .. เป็นการนำแนวคิดเกี่ยวกับศิลปะในยุคก่อนมาใส่สี แต่งกลิ่นผ่านภาษาแห่งความงาม อารมณ์และความคิดที่สามารถสะท้อนเหตุการณ์ และสัมผัสได้ ณ ช่วงเวลาหนึ่ง
.. อาจจะเป็นภาพล้อเลียนพฤติกรรมของคนในสังคมปัจจุบัน ที่มีบางส่วนผิดเพี้ยนไปจากแนวมาตรฐานที่ยอมรับในอดีต
Art Space B .. ส่วนใหญ่เป็นการจัดแสดงผลงานของศิลปินรุ่นใหม่
ถวัลย์ ดัชนี ... เป็นศิลปินที่เรียกได้ว่า ไม่มีใครเหมือน ในความเฉลียวฉลาดลึกซึ้ง รอบรู้ไปหมดในทุกด้าน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องศิลปะวัฒนธรรม ศาสนา วรรณกรรม
.. เป็นผู้ที่มีความแหลมคมทางภาษา ที่แต่งแต้มไปด้วยอารมณ์ขันและความงดงามวิจิตรพิสดารไม่มีที่สิ้นสุด รวมถึงเป็นคนสมถะ เต็มไปด้วยจินตนาการ
งานเขียนสีแดงโดดเด่น ของอ.ถวัลย์ ดัชนี เจ้าของผลงานเปี่ยมเอกลักษณ์ เป็นที่ยอมรับในระดับโลกว่าเป็นงานแสดงถึงปรัชญาตะวันตกและพุทธปรัชญาตะวันออก มีทั้งปริศนาธรรม
.. ภาพของศิลปินท่านนี้ มีพลังที่เฉียบคม เส้นสายกร้าว ลุ่มลึกและทรงพลัง
ภาพ Wat Xiengthong โดย Preecha Thaothong
Acrylic on canvas (ภาพด้านตรงขอบด้านซ้ายสุด)
In the Embrace of Ravana โดยศิลปิน Watchara Klakhakhai
Oil on canvas
สำหรับคนในแวดวงศิลปะ ชื่อของ ธงชัย ศรีสุขประเสริฐ คงเป็นที่รู้จักคุ้นเคยกันดี เพราะท่านเคยเป็นทั้งอาจารย์ประจำภาควิชาศิลปะไทย คณะจิตรกรรม ประติมากรรมและภาพพิมพ์ มหาวิทยาลัยศิลปากร และศิลปินที่สร้างผลงานศิลปะไทยร่วมสมัยได้โดดเด่นอยู่ในระดับหัวแถวเมืองไทย
มหาวิเนษกรมณ์ โดย ธงชัย ศรีสุขประเสริฐ
แนวคิดและแรงบันดาลใจในการสร้างสรรค์ชิ้นงาน เกิดจากความประทับใจในงานพุทธศิลป์อันมีรากฐานมาจากความศรัทธาในพระพุทธศาสนา
เนื้อหาของภาพได้หยิบยกเอาเหตุการณ์สำคัญในพุทธประวัติ คือตอนที่องค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้าเสด็จออกผนวช ซึ่งเป็นจุดที่แสดงถึงการตัดสินใจที่ยากยิ่ง เพราะจะต้องสละซึ่งทรัพย์สฤงคาร ความสุข ความมั่งคั่งทุกอย่างที่ทรงมี เพื่อออกเดินทางค้นหาความสุขและสงบแห่งจิตใจ
องค์ประกอบในภาพ ถ่ายทอดเนื้อหาพุทธประวัติเป็นลำดับเรื่องราว ตั้งแต่ทรงเสด็จออกจากวังพร้อมนายฉันนะและม้ากัณฐกะ จนเสด็จมาปลงผมออกผนวชที่ริมฝั่งแม่น้ำอโนมา เป็นเหตุให้ปลุกพญามุจลินท์นาคราชจากใต้บาดาลให้ตื่นขึ้นมา
โดยศิลปินนำมาถ่ายทอดในรูปแบบใหม่ แฝงความเป็นประติมากรรมซ้อนอยู่ในภาพจิตรกรรม นับเป็นการสร้างรูปแบบใหม่ของการทำงานที่ยากและท้าทาย ตัดขาดจากอัตตาตัวตนดั้งเดิม เปรียบเปรยคล้ายดังความยากลำบากที่องค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้าตัดสินใจออกผนวชเพื่อเดินทางสู่เส้นทางแห่งความสงบ
ประติมากรรม หนึ่งในผลงานชุดโลกียธรรม .. ต้องการสื่อถึงการเหยียบพื้นยันตนเองให้สูงขึ้นไม่ให้ต่ำเตี้ย ด้วยรูปร่างแขนขาที่แกร่งกำยำจากการผสมผสานหลอมรวมรูปร่างส่ำสัตว์ เพื่อสร้างความงามด้านความขัดแย้ง และมุ่งให้เกิดความหมายตามจินตนาการของแต่ละบุคคล
Dream in Awake ความใฝ่ฝันที่ซ่อนเร้น
ศิลปินวาดรูปผู้หญิง เป็นรูปภาพที่ชัดเจน และภาพผู้ชายเลือนหายไปในอากาศ .. สื่อว่า อะไรที่ลวงตา มันลวงที่ใจเราเองก่อน ศิลปินมองไปที่ใจตนเองก่อน
ภาพ เสมือนเป็นการหลับขณะฝัน ตื่นขณะฝัน .. แม้ตื่นขึ้นมาก็ยังอยากให้ความรู้สึกนั้นยังคงอยู่
.. ความฝัน เราต้องเพียงกระซิบ ฝันนั้นจึงจะอยู่กับเรา
เหล่าสาวงามแห่งเขาใหญ่ อาร์ต มิวเซียม
นอกจากนั้นยังมีงานของศิลปินรุ่นใหม่ๆ ในห้องนี้ด้วยอย่าง พัชรพงษ์ มีศิลป์, วราวุธ ชูแสงทอง
Art Space C .. จัดแสดงงาน ของ อาจารย์ เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์ ศิลปินแห่งชาติ สาขาทัศนศิลป์ (จิตรกรรม) ประจำปี 2554 ชิ้นงานที่จัดแสดงเป็นงานพุทธศิลป์
อาจารย์ เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์ มักจะเป็นรู้จักกันโดยทั่วไปในผลงานด้านพุทธศิลป์ อันเป็นภาพที่แสดงให้เห็นถึงบทสรุปของตัวศิลปิน ที่เข้าถึงและเข้าใจธรรมะมุ่งสู่การหลุดพ้น . แต่ผลงานของศิลปินท่านนี่ที่จัดแสดงที่หอศิลป์แห่งนี้ต่างออกไป
ห้องนี้มีงานประติมากรรมที่งดงาม เปี่ยมเอกลักษณ์ ที่เสมือนลายเซ็นต์ของศิลปินท่านนี้อยู่หลายชิ้น
ไฮไลท์ ผลงานของอ.เฉลิมชัย ... ภาพลายเส้นที่อาจารย์ใช้เวลาวาดเพียง 8 นาที เป็นการแสดงความชำนาญชั้นครูของศิลปิน
“จิตแห่งความมุ่งมั่น” .. ภาพปลาอานนท์กับดอกบัวแห่งความหลุดพ้น ปลาหิมพานต์ในพุทธตำนานแหวกว่ายท่ามกลางมหาสมุทร ดอกบัวเป็นสัญลักษณ์แห่งการตื่นรู้และการรู้แจ้งในพุทธธรรม
ประติมากรรม พระพิฒเนศว์ .. ถือว่าเป็นผลงาน Master Piece ของศิลปินท่านนี้เลยทีเดียว ซึ่งมีต้นแบบจากภาพวาดสมัยที่เริ่มสร้างวัดร่องขุ่นได้ไม่กี่ปี จากนั้นท่านก็มาหล่อเป็นพระพิฒเนศว์ชนิดคล้องคอ
.. ในเวลาใกล้ๆกัน ท่านก็มาสร้างเป็นพระพิฒเนศว์แบบนี้ ซึ่งเป็นงานหล่อบรอนซ์ปกติ 99 ชิ้น และงานชิ้นพิเศษอีก 9 ชิ้น ดังที่เห็นการจัดแสดงในห้องนี้
.. ส่วนพระพิฒเนศว์ที่ตั้งอยู่ในบริเวณลานจัดแสดงกลางแจ้ง เป็นขนาดขยายให้ใหญ่ขึ้นขนาดหน้าตัก 2.50 เมตร ซึ่งทั้งหมดมี 3 องค์ และหนึ่งในนั้นอยู่ที่หอศิลป์แห่งนี้ค่ะ
ปฏิมากรรม “ความเพียรไปสู่ความสำเร็จ” ของศิลปินแห่งชาติ อาจารย์เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์ .. ประติมากรรมสู่ความสำเร็จทั้งทางโลกและทางธรรม
.. ทางโลก คือ การพากเพียรไปสู่ความสำเร็จของชีวิต ครอบครัว การงาน
.. อีกด้านหนึ่ง เป็นความเพียร เพื่อไปสู่พระนิพพาน .. ดวงตาหมายถึงศีลธรรม หลักธรรมต่างๆที่คนมุ่งปรารถนาที่จะนำไปสู่ความหลุดพ้น
ชิ้นงานศิลปะ ผลงานของคุณเฉลิมชัย โฆษิตพิะัฒน์
ร้านขายเครื่องดื่ม .. หลังจากเดินชมงานศิลปะมาหลายชั่วโมง ก็แวะนั่งพักจิบกาแฟ หรือเครื่องดื่มที่คาเฟ่ที่ชั้น 2 ซึ่งมีลานตรงกลางซึ่งเชื่อมต่อจากทางขึ้น
ประติมากรรมมนุษย์
ผลงานที่มาที่มาแนวคิดถึงเรื่องของ ‘ความตาย’ ของมนุษย์ .. โดยสร้างเป็นรูปโลง มีรูปวิญญาณแปลงส่ำสัตว์เกาะเกี่ยวอาศัย สะท้อนถึงพื้นฐานวิสัยของมนุษย์ที่ไม่พึงปรารถนาความตาย
จึงเกิดคติความเชื่อบางอย่างขึ้นมาเพื่อหลอกตัวเอง โดยเชื่อว่าจะยื้อความตายได้ด้วยพิธีกรรมต่าง ๆ เช่น พิธีสืบชะตา ที่เป็นเคล็ดความเชื่อที่ทำให้อายุยืน หรือการจัดหาโลงให้ตัวเองไว้ก่อนเป็นกุศโลบาย ซึ่งในทางพระพุทธศาสนาที่แท้นั้นเป็นมรณานุสติ ให้มองเห็นความตายเป็นเรื่องธรรมดา จะได้หมดกังวลในสังขาร
.. เมื่อเข้าไปสู่บริเวณคาเฟ่ จะเห็นมีประติมากรรมรูปร่างแปลกตา และเคาเตอร์ขายเครื่องดื่ม อยู่ถัดจากประตูทางเข้า เราสามารถสั่งเครื่องดื่มหลากหลายเมนูมานั่งดื่มได้ชิล ชิล และยังมองออกไปด้านนอกสู่บริเวณพื้นที่สีเขียวที่รายล้อมอยู่เต็มพื้นที่
บริเวณด้านในร้านเครื่องดื่ม ยังมีการจัดวางงานศิลปะสวยๆ เป็นนิทรรศการหมุนเวียนให้ชมเพลินๆ มีมุมถ่ายรูปสวยๆหลายมุมทีเดียว
พิพิธภัณฑ์ศิลปะร่วมสมัยแห่งนี้ เป็นหนึ่งในความภาคภูมิใจของชาวไทย .. ด้วยการนำเรื่องของศิลปะให้มาเป็นเรื่องใกล้ตัว เป็นหนึ่งในในไลฟ์สไตล์ ที่คุณสามารถแต่งตัวสบายๆ มาชิลล์กินกาแฟกับเพื่อน เดินดูรูปกันชิลชิล ก็ได้
สำหรับท่านที่อยากได้รับแรงบันดาลใจดีๆ จึงไม่ควรพลาดในการหาเวลามาเยี่ยมชม และเดินช้าเพ่งพิศ งานศิลปะแต่ละชิ้น .. ถึงแม้ว่าบางผลงานเราอาจจะไม่เข้าใจทั้งหมด แต่รู้สึกได้ถึงพลังอันยิ่งใหญ่จริงๆ
สำหรับผู้ที่รักและหลงใหลในงานศิลปะแล้ว ที่แห่งนี้อาจมีคำตอบอะไรบางอย่างให้กับคุณ หากหาเวลาว่างลองแวะมาเยี่ยมชม
- 2
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
