11 ม.ค. เวลา 13:00 • ธุรกิจ

ยืมเงินยายเปิดร้านน้ำแข็งไสแต่ดันล้มเหลว

จุดเริ่มต้นของ Mixue แฟรนไชส์ไอศกรีม และเครื่องดื่มราคาหลักสิบ บริษัทมูลค่าแสนล้านบาท
2
* Zhang Hongchao เปิดร้านน้ำแข็งไสชื่อ Coldsnapในปี 1997 จากเงินที่ยืมคุณยายมาประมาณ 15,000 บาท แต่ไม่ประสบความสำเร็จ เพราะช่วงหน้าหนาวขายไม่ดี สุดท้ายต้องปิดตัวไป แต่ไม่ยอมแพ้ กลับมาเริ่มต้นใหม่อีกครั้งในปี 1999 ด้วยชื่อ Mixue Bingcheng (“sweet snow palace" หรือ "วังหิมะอันแสนหวาน" ) และขายไอศกรีม ชาไข่มุก น้ำมะนาว และกาแฟ ในราคาถูกสุดๆ แล้วทีนี้ก็เริ่มขายดีมากขึ้นเรื่อยๆ
* Hongfu น้องชายของ Hongchao เข้าร่วมบริษัทในปี 2007 ในฐานะ CEO แล้วปรับระบบการบริหารและจัดการให้เป็นมาตรฐาน นำไปสู่โมเดลแฟรนไชส์อันแข็งแกร่ง ปัจจุบัน 99.8% ของสาขาเป็นแฟรนไชส์
* ปัจจุบัน Mixue มีสาขากว่า 36,000 สาขา (มีสาขามากกว่า Dunkin’ Donuts ถึงสองเท่า!) บริษัทมีรายได้และกำไรสุทธิเพิ่มขึ้น 46% และ 48% ในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2023 มูลค่าบริษัทอยู่ที่ประมาณ 2,900 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 100,000 ล้านบาท โดย Forbes รายงานว่าสองพี่น้องตอนนี้เป็นเศรษฐีพันล้าน (Billionaire) ไปแล้วเพราะถือหุ้นบริษัทอยู่คนละ 42.8%
* Mixue มีจุดเด่นที่ราคาถูก จนได้รับฉายาว่า "Pinduoduo of bubble tea" (Pinduoduo คือ แพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซมุ่งเน้นไปที่การขายสินค้าราคาถูก ดึงดูดผู้บริโภคที่มองหาสินค้าราคาประหยัด) ผลิตภัณฑ์เริ่มต้นมีราคาตั้งแต่ 3 หยวน (ราว 15 บาท) หรืออย่างชานมมุกก็ 7 หยวน (ราว 35 บาท) ซึ่งถูกกว่าร้านชาไข่มุกอื่นๆ มาก
1
* บริษัทสามารถรักษาต้นทุนต่ำได้ด้วยการควบคุมห่วงโซ่อุปทานทั้งหมด ตั้งแต่การจัดหาและผลิตวัตถุดิบ ไปจนถึงการขนส่ง การวิจัยและพัฒนา และการควบคุมคุณภาพ
2
* ทั้งสองพี่น้องยังคงพัฒนาผลิตภัณฑ์ออกมาอย่างต่อเนื่อง พวกเขาเปิดร้านกาแฟ Lucky Cup ในปี 2017 และขยายแบรนด์ Mixue ไปยังไทย เวียดนาม อินโดนีเซีย ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ และแคนาดา
* Mixue ยื่นเอกสารเตรียมตัวเข้าสู่ตลาดหุ้นฮ่องกงด้วยเป้าหมายการระดมทุนที่ราวๆ 1,000 ล้านเหรียญ (35,000 ล้านบาท) แต่ตลาดหุ้นฮ่องกงผันผวนในช่วงปีที่ผ่านมา ทำให้มีความเสี่ยงที่ IPO อาจจะไม่ประสบความสำเร็จ โดยตั้งเป้าว่าใช้เงินที่ระดมทุนมาขยายกิจการและพัฒนาแบรนด์ต่อไป
* Mixue ขายเครื่องดื่มได้ราว 5,800 ล้านแก้วทั่วโลกในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2023 เป็นผู้ขายเครื่องดื่มที่ทำสดใหม่รายใหญ่เป็นอันดับ 2 รองจากแค่ Starbucks เท่านั้น
* นอกจากความนิยมของชาไข่มุกในหมู่คนรุ่นมิลเลนเนียลและ Gen Z ในเอเชียและสหรัฐฯ ที่ช่วยผลักดันให้แบรนด์นี้ประสบความสำเร็จอย่างมากในช่วงที่ผ่านมา เศรษฐกิจจีนเองที่ผู้บริโภคเลือกซื้อของถูกมากกว่าแต่ก่อนก็เป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่มีผลอย่างมากเช่นเดียวกัน
#aomMONEY #Business #Shorts #การเงิน #ธุรกิจ #Mixue #เรื่องราว
โฆษณา