12 ม.ค. เวลา 09:31 • นิยาย เรื่องสั้น

15

อีกด้านหนึ่งของตัวตึกร้าง สายลมยังคงพัดละอองฝนปลิวผ่านช่องตึกมากระทบใบหน้าสายสืบบีอยู่เป็นระยะๆ แม้รอบตัวเขาจะเต็มไปด้วยความเปียกชื้น แต่ความว้าวุ่นในใจนั้นร้อนรุ่มยิ่งนัก เขาต้องทำภาระกิจนี้ให้สำเร็จ ก่อนที่ทุกอย่างจะสายเกินแก้
ตลอดเวลาที่เข้ารับราชการตำรวจ ไม่มีวันไหนที่ทำให้เขาว้าวุ่นใจเท่ากับวันนี้เลย ทุกนาทีคือการเดิมพัน
สาวิตรี แฟนสาวของเขากำลังอยู่นสถานการณ์อันตราย คนพวกนั้นจับเธอไว้เป็นตัวประกัน และขู่ไม่ให้เขาแจ้งหน่วยงานต้นสังกัด ถ้าเขาทำงานนี้สำเร็จ สาวิตรีจะปลอดภัย แม้ว่า….จะเชื่อใจคนพวกนี้ไม่ได้เลย แต่สายสืบบีไม่มีทางเลือกอื่น นอกจากทำตามที่พวกมันบอก
วันนี้ทั้งวัน พวกมันส่งคลิปแฟนสาวของเขามาทางไลน์ให้ชมสภาพความเป็นอยู่ และ คำขู่ที่ค่อยๆ เพิ่มเลเวลความโหดร้ายขึ้น
รุ่นพี่ในหน่วยฝึกพิเศษ เคยเตือนเขาแล้ว ว่าหากรักงานนี้อย่าพยายามผูกพันและสร้างห่วงโซ่ความรู้สึกกับคนอื่น มันจะทำให้เกิดเป็นจุดอ่อน….
สายสืบบีรู้ดี แต่ความรู้สึกรักมันห้ามกันไม่ได้นี่ซิ
แล้ววันหนึ่ง….พวกมันก็หาจุดอ่อนของเขาเจอ…
สิ่งที่ปวดใจลำดับต่อมาก็คือ… เขาต้องปิดบังเรื่องที่ต้องทำ กับคู่หูที่เป็นเหมือนคนในครอบครัว ต้องจำยอมหักหลังเพื่อนรักสายสืบที่ฝึกฝนมาด้วยกัน สายสืบบีจำเป็นต้องทำในสิ่งที่…. หากคู่หูเขาเกิดรู้ความจริงขึ้นมา คงไม่มีวันที่จะให้อภัยได้
“เฮ้อ.อออ…” สายสืบบีถอนหายใจยาว… แล้วมองตรงไปยังป้าแกร็บฟู้ดที่ตัวเองเฝ้าสังเกตุการณ์อยู่…ภาพตรงหน้าทำให้เขาเห็นว่า ไม่ว่าคนเราจะดีหรือร้าย ล้วนมีมุมที่อ่อนโยน เด็กชายคงจะเหนื่อย หรือไม่อาจจะเบื่อกับการที่ต้องรอคอยให้เวลาเดินผ่านไปโดยไม่ได้ขยับร่างกายไปไหน ความง่วงจึงพาให้เด็กชายนอนหลับหัวหนุนตักป้าคนหนึ่งที่พึงรู้จักได้ไม่นาน
ป้าแกร็บฟู้ดคนนั้น กำลังลูบหัวเด็กชาย คล้ายว่ากำลังกล่อมให้หลับไหลในฝันดี
สายฝนยังคงส่งละอองฝนปนมาในอากาศ สายสืบบีรู้สึกว่า เหมือนเวลาจะหยุดเดินไปชั่วคครู่ สถานการณ์ที่ไม่เดินหน้า และถอยหลัง คือช่วงเวลาเหมือนว่าเขาจะได้พักผ่อน…..
สายสืบบีละสายตาจากป้าแกร็บฟู้ดและเด็กชายคนนั้น ก้มหน้า หลับตานิ่ง…
ทันใดนั้นเขารู้สึกว่า มีอะไรบางอย่างมากระทบที่หัว มันถูกกดไว้ที่ผิวเส้นผม พร้อมกับเสียงที่คุ้นเคย….
“มึงเป็นใครวะ" กำนันส่งเสียงคำถามสู่ให้ชายแปลกหน้า…. ความสงสัยในรอยเท้าห้องคลังแสงเมื่อครู่ทำให้เขาเดินสำรวจรอบตึกแห่งนี้ จนกระทั่งมาเจอชายคนนี้ที่กำลังนอนหมอบ คล้ายกับกำลังทำอะไรบางอย่างที่ไม่เป็นการดีต่อเขา
เพราะเหตุการณ์ตรงหน้า คนคนนี้กำลังเฝ้ามอง คือ ลูกชายของเขาเอง
สายสืบบี ยกสองมือขึ้น เป็นสัญลักษณ์บอกว่า…เขายอมจำนนต่อปลายกระบอกปืนที่จ่อหัวอยู่ แล้วค่อยๆหันหน้ามาทางกำนัน…
ครืน..นนนนน…… เสียงฟ้าร้องคำราม
จู่ๆ สายฝนที่รินไหลก็เทแรงร่วงหล่นจากฟ้า รวดเร็ว ละอองฝนเมื่อครู่กลายตัวเป็นน้ำเม็ดใหญ่ ปล่อยเสียงซ่า..ทั่วบริเวณ เสียงแวดล้อมจากแรงฝน เหมือนจะแบ่งพื้นที่โดยรอบให้ขาดหายจากกัน
เปรี๊ยง..งงงงง เกิดเสียงฟ้าผ่า…จากด้านนอกตัวตึก มันกระทันหันจนกำนันสะดุ้ง องศาปืนที่จ่อหน้าผากสายสืบบี เอียงเล็กน้อย แต่นั่นมันทำให้จังหวะเสี้ยววินาทีต่อมา เป็นของสายสืบบี
ปั๊บ!!!!!!. สายสืบบีเตะตัดข้อเท้ากำนันอย่างแรง กำนันถึงกับเซลงไปกองที่พื้น เขาเจ็บจนต้องปล่อยปืนออกจากมือแล้วหันมาจับข้อเท้าตัวเอง ความปวดวิ่งเข้าสู่ความรู้สึกอย่างรวดเร็ว หน้ากำนันเหย่เก ร้องโอ้ย….ออกมาอย่างลืมตัว เขากลิ้งตัวไปมาบนพื้น หวังว่าความปวดจะหายไป
นาทีต่อมากำนันตั้งสติได้ ความปวดทุเลาลง เขามองหาปืนที่เคยถือ..ปรากฎว่า…มันหายไปพร้อมกับชายแปลกหน้าเมื่อครู่
เสียงฝนยังดังรบกวนบรรยากาศโดยรอบ ครืน…นนนนนน ตามมาด้วยเสียงฟ้าร้องคำราม
กำนันมอง ซ้าย ขวา หน้า หลัง แล้วหันกลับมามอง ภาพตรงหน้าอีกที เขาพบแต่ความว่างเปล่า….รู้สึกเหมือนเหมือนนาทีเมื่อครู่ ไม่มีอยู่จริง
“ เชี่ย…เอ้ย..อะไรวะ “ กำนันสบถออกมาให้ตัวเองได้ยิน เขาหัวเสียกับเหตุการณ์เมื่อครู่ นอกจากเจ็บตัวแล้วยังเจ็บใจอีก
“คนหรือ ผีวะเนี่ย เร็วชิทหาย" กำนันยังบ่นพร้อมมองออกไปรอบตัวอีกครั้ง… แรงลมจากฝนที่หนาตัวทำให้พื้นที่โดยรอบทัศนะวิสัยไม่ดี กำนันทำอะไรไม่ได้นอกจากนั่งทรุดลงกับพื้น….
ช่วงเวลานี้..ความจริงอาจกำลังจะบอกเขาว่า…”พักก่อน…. “หลังจากที่นั่งลง กำนันกลับมาปวดข้อเท้าอีกครั้ง เขาใช้เวลานี้..นั่งบีบนวดมันเพื่อหวังว่าอาการปวดจะคลายตัวลง….
เวลาแห่งช่วงเยียวยาตัวเองผ่านไปนานหลายนาที กระทั่งสายฝนเมื่อครู่เบาตัวลง แต่ยังคงส่งเสียง ครืน.นนนนนน ออกมาให้ได้ยิน
เมื่อฝนซา….. ละอองน้ำและสายลมจางหาย กำนันมองไปตรงหน้า ภาพที่เขาเห็นทำให้เกิดความรู้สึกในใจยากบรรยายออกมาได้ ป้าขายผลไม้ที่เขารู้จักและไม่สู้จะไว้ใจนัก กำลังกอดลูกชายคนเดียวของเขา หลับไหลซบอกพักพิงกันและกัน
กำนันถามตัวเองว่า ควรรู้สึกอย่างไรกับภาพนี้ดี…ยังไม่ทันที่จะได้คำตอบ เขาก็ส่งรอยยิ้มออกมาแล้ว….หากรอบตัวเขามีกระจกเงา กำนันคงได้รู้ตัวเองว่า….รอยยิ้มนี้ทำให้เขากลายเป็นกำนันคนเดิม คนที่ไม่มีความโลภเข้าครอบงำ แม้รอยยิ้มนี้…จะส่งออกมาจากความรู้สึกพึงใจโดยฉับพลันก็ตามแต่
พลึ๊บ.บบบบบบ
ภาพตรงหน้ากำนันมืดลงทันที รอยยิ้มของเขาหายไปโดยพลัน กำนันรู้สึกหายใจติดขัด เขาพยายามสะบัดหัวให้หลุดจากความอึดอัดนี้...ใครบางคนใช้ถุงดำคลุมหัวเขา “ ต้องเป็นไอ้หนุ่มเมื่อครู่แน่ๆ มึงเตะกูแล้วยังมาทำแบบนี้อีกหรอ…. แน่จริงเปิดหน้าสู้กันตัวต่อตัวสิวะ “ กำนันคิดในใจ แต่เขาไม่กล้าตะโกนออกไป เพราะคิดว่าระยะห่างประมาณนี้ ลูกชายเขาอาจจะตื่นขึ้นมาเจอภาพที่ไม่ควรเห็นก็เป็นได้
ตุ๊บ….บ!!!!!!!ความจุกวิ่งจากท้องเข้าสู่ความรู้สึกทั่วร่างกาย ชายคนนี้คงต่อยเข้าที่ท้องเขาแน่ๆ กำนันพยายามเกร็งท้อง เพื่อรับแรงกระแทกอีกครั้ง แต่เขาคิดผิด
ปั๊บบบบบบ!!!!!! กำนันถูกเตะตัดขาเป็นครั้งที่สอง ครั้งนี้ เขายอมแพ้ ความเจ็บทำให้เขาต้องทรุดตัวลงไปนอนกองที่พื้น…
กำนันพลิกตัว หงายใบหน้าขึ้น…พยายามเหลือกตามองผ่าน ถุงพลาสติดสีดำ บางทีเขาอาจจะเห็นภาพไอ้คนที่มันทำแบบนี้กับเขาแบบลางๆก็ได้ มันเป็นคนเดียวกัน ที่เคยเอาปืนจ่อหัวหรือไม่ แต่ความมืดทำให้เขายอมแพ้ นอนแผ่หล่าบนพื้น….
ทันใดนั้น…กำนันรู้สึกได้ว่ามีผ้ามาปิดปากและจมูก….
นาทีต่อมาเขาก็รู้สึกว่า….โลกทั้งใบ เป็นสีดำ
ก่อนสติจะจากไป กำนันได้ยินเสียง ครื้น…นนนนนนน ดังก้องในหัว
โฆษณา