14 ม.ค. เวลา 08:05 • ข่าวรอบโลก
รัฐสภาแห่งใหม่

จี้ กมธ.วิสามัญฯ พิจารณาตัดงบโครงการป้องกันชายฝั่ง 2567

นายอภิศักดิ์ ทัศนี ผู้ประสานงานกลุ่ม Beach for life เเละนางสาวเฉลิมศรี ประเสริฐศรี มูลนิธิศูนย์ข้อมูลชุมชน ได้เดินทางไปยื่นหนังสือต่อคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2567 โดยมีนายนิติพล ผิวเหมาะ กรรมาธิการวิสามัญฯ พรรคก้าวไกล รับเรื่องร้องเรียนให้มีการตัดงบประมาณ โครงการป้องกันการกัดเซาะชายฝั่งของกรมโยธาธิการเเละผังเมือง เเละกลุ่มจังหวัด
หลังร่างงบประมาณปี 2567 ผ่านการลงมติวาระแรกด้วยเสียงเห็นด้วย 311 ต่อ 177 และกำลังอยู่ระหว่างการพิจารณาของคณะกรรมาธิการวิสามัญฯ กลุ่ม Beach For Life Thailand ได้สำรวจและรวบรวมงบประมาณโครงการป้องกันการกัดเซาะชายฝั่งจากงบประมาณปี 2567 เพื่อคลี่ให้เห็นรายละเอียดโครงการต่างๆ ที่ถูกจัดสรรไปสู่หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
โดยพบว่า งบโครงการป้องกันการกัดเซาะชายฝั่งถูกจัดสรรไปสู่ 4 หน่วยงานหลัก ด้วยงบประมาณรวมทั้งสิ้น 761,604,500 บาท คือ
1. กรมโยธาธิการเเละผังเมือง 501,984,000 บาท
2. กรมเจ้าท่า 153,830,000 บาท
3. กรมทรัพยากรทางทะเลเเละชายฝั่ง 70,060,000 บาท
4. กลุ่มจังหวัด (ปัตตานี) 35,730,000 บาท คิดเป็น
จากข้อมูลดังกล่าว Beach For Life ซึ่งเป็นกลุ่มภาคประชาสังคมที่ติดตามและขับเคลื่อนงานด้านป้องกันชายฝั่งมายาวนาน ได้ตั้งข้อสังเกตไว้ 3 กรณี ดังนี้
- กรณีที่ 1 งบประมาณโครงการเขื่อนป้องกันตลิ่งริมทะเล พร้อมปรับปรุงภูมิทัศน์ (ระยะที่ 3) พื้นที่ชายฝั่งหาดมหาราช เทศบาลตำบลสทิงพระ อำเภอสทิงพระ จังหวัดสงขลา ความยาว 555 เมตร โครงการนี้ตั้งงบประมาณปี 2563 - 2567 วงเงินทั้งสิ้น 76,862,000 บาท โดยขอรับงบประมาณในปี 2567 จำนวน 15,000,000 บาท ของบประมาณโดยกรมโยธาธิการและผังเมือง
ปัจจุบัน โครงการนี้ศาลปกครองสงขลา ได้มีคำสั่งเมื่อวันที่ 12 ธันวาคม 2566 ระงับการดำเนินโครงการไว้เป็นการชั่วคราว จนกว่าศาลจะพิพากษาหรือมีคำสั่งเป็นอื่น โดยศาลเห็นว่า พื้นที่โครงการมีสภาพเป็นชายหาดที่สมบูรณ์ ไม่มีการกัดเซาะชายฝั่ง ประชาชนใช้ประโยชน์พื้นที่ชายหาดในการจอดเรือและขนถ่ายอุปกรณ์ประมง
อีกทั้งกรมโยธาธิการและผังเมืองไม่สามารถแสดงหลักฐานยืนยันได้ว่า กำแพงกันคลื่นจะสามารถป้องกันการกัดเซาะชายฝั่งได้แท้จริง และได้ผลดีจริงโดยไม่สร้างความเสียหายต่อชายหาด อีกทั้งหากให้ดำเนินการแล้วเสร็จจะส่งผลกระทบ ต่อทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมได้
ศาลจึงมีคำสั่งระงับโครงการไว้ก่อน (คดีหมายเลขดำที่ ส.1/2563 ศาลปกครองสงขลา) ดังนั้น เมื่อ จึงไม่มีความจำเป็นต้องจัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2567 ให้แก่กรมโยธาธิการและผังเมืองอีกต่อไป และควรเรียกคืนงบประมาณในส่วนก่อนหน้าที่กรมโยธาธิการและผังเมืองได้ของบประมาณไปก่อนแล้วด้วย เนื่องจากยังไม่มีการดำเนินโครงการแต่อย่างใด
- กรณีที่ 2 งบประมาณของกรมโยธาธิการและผังเมือง กระทรวงมหาดไทย ระบุการขอรับงบประมาณเพื่อ ‘การจ้างออกแบบและศึกษาการป้องกันชายฝั่ง’ จำนวน 6 โครงการ แบ่งเป็น โครงการผูกพันต่อเนื่องจากงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2566 จำนวน 4 โครงการ และโครงการตั้งใหม่ในงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2567 จำนวน 2 โครงการ รวมงบฯ 29,332,000 บาท
กลุ่ม Beach For Life ตั้งข้อสังเกตว่า โครงการเหล่านี้ระบุพื้นที่ศึกษาและออกแบบแต่อย่างใด ระบุแต่เพียงระยะโครงการ และระบบกลุ่มหาด ซึ่งมีขอบเขตที่กว้างมาก จึงทำให้ไม่สามารถทราบได้ว่าเป็นการศึกษาออกแบบเพื่อการแก้ไขปัญหาการกัดเซาะชายฝั่งพื้นที่ใด ซึ่งการตั้งงบประมาณลักษณะนี้อาจเป็นการทำให้เกิดการสุ่มหาพื้นที่เพื่อดำเนินการก่อสร้างกำแพงกันคลื่นหรือโครงสร้างป้องกันชายฝั่งโดยไม่มีความจำเป็นเหมืออย่างที่ผ่านมาหรือไม่อย่างไร ซึ่งอาจทำ ให้เกิดความขัดแย้งในพื้นที่ดังเช่นที่ผ่านมา
ดังนั้นเพื่อการใช้งบประมาณอย่างคุ้มค่ามากที่สุด เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ และเกิดการแก้ไขปัญหาได้อย่างแท้จริง Beach For Life เสนอว่า คณะกรรมาธิการวิสามัญฯ ควรให้หน่วยงานผู้ขอรับงบประมาณ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ชี้แจงถึงรายละเอียดโครงการทั้ง 6 โครงการดังกล่าว
- กรณีที่ 3 งบประมาณกลุ่มจังหวัด (ปัตตานี) ได้ขอรับงบประมาณ 2 โครงการ รวมแล้ว 35,730,000 บาท เมื่อตรวจสอบข้อเท็จจริง พบว่า ทั้งสองโครงการยังไม่ผ่านความเห็นชอบของคณะทำงานเพื่อพิจารณากลั่นกรองและให้ข้อเสนอแนะ ข้อคิดเห็นต่อโครงการ มาตรการ ระเบียบ หลักเกณฑ์และแนวทางปฏิบัติสำหรับการป้องกันและแก้ไขปัญหาการกัดเซาะชายฝั่งใน ภาพรวมและเชิงพื้นที่ ตามพระราชบัญญัติส่งเสริมบริหารจัดการทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง พ.ศ. 2558 ก่อนที่จะเสนอโครงการไปยังสำนักงบประมาณแต่อย่างใด
Beach For Life จึงเสนอให้มีการตัดงบประมาณโครงการดังล่าว เนื่องจากไม่ปฏิบัติตามขั้นตอน ของหน่วยงาน ที่กำหนดให้ปฏิบัติในการเสนอขอรับงบประมาณ
ทั้งนี้ การขอรับงบประมาณประจำปี 2567 เพื่อการป้องกันการกัดเซาะชายฝั่ง ที่มีการตั้งข้อสังเกตทั้ง 3 กรณีนั้น อาจมีความไม่ชอบด้วยกฎหมายเเละไม่สอดคล้องกับขั้นตอนที่กำหนดให้หน่วยงานปฏิบัติก่อนการขอรับงบประมาณเพื่อการป้องกันการกัดเซาะชายฝั่ง ซึ่งปล่อยให้เกิดการตั้งงบประมาณในปี 2567 อาจทำให้เกิดปัญหาการกัดเซาะชายฝั่งเเละความขัดเเย้งในพื้นที่ได้ รวมถึงเพื่อการใช้จ่ายงบประมาณเเผ่นดินอย่างมีประสิทธิภาพ กรรมาธิการฯ ต้องพิจารณาข้อสังเกตทั้ง 3 ส่วนอย่างรอบด้านก่อนผ่านงบประมาณประจำปี 2567
ด้านนายนิติพล ผิวเหมาะ กรรมาธิการวิสามัญฯ พรรคก้าวไกล ระบุว่า ข้อสังเกตมี่ภาคประชาชนตั้งขึ้นมา กรรมาธิการฟฯ จะรับไปพิจารณาเเละศึกษาในรายละเอียดอีกครั้ง เพื่อให้การใช้จ่ายงบประมาณนั้นไม่กระทบต่อชายหาดเเละให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อไป
#ทวงคืนชายหาด #กำแพงกันคลื่น #งบประมาณ #งบ2567 #งบ67 #รัฐสภา #กัดเซาะชายฝั่ง

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา