16 ม.ค. เวลา 08:09 • หนังสือ

#รีวิวหนังสือบนชั้นตู้

ลำดับที่ 42. ครูบ้านนอก
ผู้เขียน : คำหมาน คนไค
พิมพ์โดย : สำนักพิมพ์มิ่งมิตร | ปีที่พิมพ์ : 2553 | ราคาปก : 250 บาท
สำหรับรีวิวหนังสือบนชั้นตู้ในวันนี้ ยังอยู่ในบรรยากาศของวันครูกันครับ เพื่อให้เข้าบรรยากาศ ผมขออนุญาตหยิบยกเอาอีกหนึ่งในหนังสือในดวงใจของผมมานำเสนอแลกเปลี่ยนกันในโพสต์นี้ครับ กับหนังสือที่มีชื่อเรื่องว่า “ครูบ้านนอก”
เหตุที่หยิบยกเอาหนังสือเรื่องนี้มาคุยกันในช่วงวันครูนี้มีที่มาครับ โดยส่วนตัวผมมีพ่อรับราชการครู และก็เป็นครูบ้านนอก ตามชื่อของหนังสือเล่มนี้เลยครับ พ่อผมบรรจุรับข้าราชการครูแล้วไปสอนที่โรงเรียนชนบทแห่งหนึ่งใน อ.บึงกาฬ จ.หนองคาย ซึ่งตอนนั้นบึงกาฬยังเป็นแค่อำเภอ ยังไม่ได้ถูกยกระดับเป็นจังหวัดเหมือนเช่นทุกวันนี้
รูปถ่ายเก่า ๆ ของพ่อ เมื่อครั้งเป็นครูหนุ่มไฟแรง สวมชุดครู สวมหมวกมีปีกคล้ายตำรวจ ขี่จักรยาน ละม้ายคล้ายคลึงบทบาทของ ครูปิยะ ที่เป็นตัวเอกขี่จักรยานในเรื่องนี้ซะเหลือเกิน ยิ่งตอนได้ดูเวอร์ชั่นภาพยนตร์ยิ่งทำให้คิดถึงพ่อ จนน้ำตาเอ่อมาคลอเบ้า และต้องโทรศัพท์กลับบ้านเพื่อสนทนากันตามประสาพ่อลูกทุกที
ปัจจุบันพ่อผมเสียชีวิตไปแล้ว 2 ปี วันนี้จึงถือโอกาส นำเอาหนังสือเรื่อง “ครูบ้านนอก” มาเล่าสู่กันฟังเพื่อรำลึกถึงคุณครูบาอาจารย์รวมทั้งพ่อที่เคยเป็นครูที่ได้ลาโลกจากไปในคราวเดียวกันนี้ครับ
ครูบ้านนอก เป็นผลงานของ คำหมาน คนไค ซึ่งเป็นนามปากกาของนายสมพงษ์ พละสูรย์ โดยที่มาของนามปากกานี้ผู้แต่งให้เหตุผลว่า เพื่อให้ชื่อคล้ายกับชื่อของชาวอีสานเชื้อสายลาวที่นิยมขึ้นต้นด้วย คำ เช่น คำดี คำตัน คำแปง คำผอง คำพอง คำพูน คำเพ็ง คำมี คำสิงห์ ฯลฯ
คำ หมายถึงทองคำ, หมาน หมายถึงได้มาก มีมาก มีโชคลาภ, คน หมายถึง มนุษย์ทั่วไป และไค หมายถึง มีความดีระดับปานกลาง หรือระดับพอใช้ ซึ่งทั้งหมดนี้คือความหมายของนามปากกาคำว่า “คำหมาน คนไค”ครับ
สำหรับทความเป็นมาของหนังสือเรื่องนี้ เริ่มต้นในปี 2518 ในขณะที่ผู้แต่งรับราชการครูในจังหวัดอุบลราชธานี ได้เขียนเรื่องสั้นชุดหนึ่งจากประสบการณ์ครูของตัวเอง ผสมผสานกับเรื่องราวที่ได้รับรู้จากคำบอกเล่าของครูและชาวบ้าน ที่เคยรู้เห็นเหตุการณ์และเรื่องราวของครูประชาบาลในท้องถิ่น ชื่อว่า “บันทึกของครูประชาบาล” ได้ตีพิมพ์ในปี 2519 และได้รับรางวัลชมเชยหนังสือดีเด่นประเภทนวนิยายในงานสัปดาห์หนังสือแห่งชาติปี 2519
ต่อมาในเดือนมินาคม 2520 มีคนกลุ่มหนึ่งได้เดินทางไปหาผู้แต่งที่บ้านพักในจังหวัดอุบลราชธานี เพื่อมาขอซื้อลิขสิทธิ์หนังสือ บันทึกของครูประชาบาล เพื่อนำไปสร้างเป็นภาพยนต์ โดย 3 คนในนั้นคือ กมล กุลตั้งวัฒนา, สุรสีห์ ผาธรรม และปิยะ ตระกูลราษฎร์
แต่หนังสือเรื่องนี้ผู้แต่งได้แย้งไปว่าไม่เหมาะสำหรับการสร้างเป็นภาพยนตร์ จึงได้เสนอว่าจะเขียนนิยายขึ้นมาใหม่ให้มีสาระตามหนังสือ บันทึกของครูประชาชน และให้มีตัวเอกของเรื่องในเรื่องนี้ด้วย กลุ่มคนที่มาขอซื้อลิขสิทธิ์ก็ตอบตกลงเห็นดีเห็นงามด้วย
และขอร่วมในการวางโครงเรื่อง พร้อมกับขอให้ตั้งชื่อเรื่องว่า ครูบ้านนอก จากนั้นหนังสือนิยายเรื่องใหม่ชื่อ ครูบ้านนอก จึงได้ถือกำเนิดขึ้น โดยผู้แต่งได้ใช้ระยะเวลาเขียนประมาณ 9 เดือน คือเริ่มเขียนตั้งแต่เดือนมีนาคม และเขียนเสร็จในเดือนพฤศจิกายน 2520
โดยเนื้อเรื่อง จะเป็นเรื่องเกี่ยวกับครูหนุ่มสาวที่เพิ่งจบการศึกษาใหม่จากวิทยาลัยครู และเดินทางไปสอนหนังสือในถิ่นทุรกันดาร ขาดไฟฟ้า แหล่งน้ำ และการสาธารณสุข ในภาคอีสานของประเทศไทย ทั้งยังได้แสดงให้เห็นวิถีการดำเนินชีวิตความเป็นอยู่แบบเก่าของชาวชนบทในภาคอีสาน และปัญหาความขัดแย้งกับผู้มีอิทธิพลในท้องถิ่นในขณะนั้นได้เป็นอย่างดี
หากใครที่ประกอบอาชีพครูและต้องการจุดแรงบันดาลใจ หรือจุดความเป็นครูในตัว ให้ลุกโชนขึ้นอีกครั้ง แนะนำให้ลองอ่านหนังสือเรื่องนี้ดูนะครับ ส่วนใครที่ต้องการเก็บสะสมหนังสือเล่มนี้ ค่อนข้างที่จะหายากอยู่ครับ แต่น่าจะพอมีตามตลาดออนไลน์ครับ หรือใครที่มีแล้วต้องการปล่อยหนังสือเล่มนี้ สามารถพิมพ์ข้อความบอกเพื่อน ๆ ไว้ใต้โพสต์นี้ได้เลยนะครับ
และสุดท้ายนี้ รบกวนเพื่อน ๆ ให้การสนับสนุนเพจ #หนังสือฉันบนชั้นตู้” ด้วยการอุดหนุนที่คั่นหนังสืออะคริลิกเบาบาง ที่สามารถพิมพ์รูปตามสั่งได้ รวมทั้งสินค้าอื่น ๆ ของทางเพจด้วยนะครับ
ขอบพระคุณครับ
#หนังฉันบนชั้นตู้
เพราะหนังสือคือฝันที่เราสามารถจับต้องได้...
#หนังสือฉันบนชั้นตู้ #หนังสือ #หนังสือมือ2 #หนังสือมือสอง #รักการอ่าน #อ่านหนังสือ #หนังสือสะสม #สะสมหนังสือ #ที่คั่นหนังสือ #ครูบ้านนอก
โฆษณา