17 ม.ค. เวลา 02:17 • ภาพยนตร์ & ซีรีส์

"กฏหมายจัดการอะไรไม่ได้...ฉันจึงต้องจัดการเอง!!!"

นี่คือประโยคหนึ่งที่ "Adam Clay"(Jason Statham) พูดขึ้นมาตอนที่กำลังไปล้างบางไอ้พวกที่สร้างความแค้นให้กับเขา ซึ่งพวกชั่วนั่นมันทำในสิ่งที่ผิดมหันต์ที่สุดในชีวิตพวกมันเลยทีเดียว!!!
นั่งดูหนัง "The Beekeeper" ไปด้วยความเพลิดเพลินแบบที่ไม่คิดว่าจะสนุกได้ขนาดนี้ ทั้งๆที่ตัวหนังเองก็ไม่ได้หวือหวาตระการตาหรือพึ่งพาเทคนิค CGI เหมือนอย่างที่หนังยุคนี้ชอบใช้กัน แต่หนังกลับพาคนดูไปพบกับ "เสน่ห์" ของหนังแอคชั่นยุค 80s-90s ได้อย่างไม่น่าเชื่อ(ไม่ว่าผู้สร้างจะตั้งใจให้มันเป็นอย่างนั้นหรือไม่ก็ตาม)
เหมือนกำลังนั่งดูหนังยุครุ่งเรืองของ "Jet Li" ผสม "Steven Segal" ประมาณพวก "ข้ามาคนเดียว" ที่ลุยแหลกเน้นเอามันส์เข้าว่า ถ้าพูดกันจริงๆเนื้อหาที่จะเล่าในหนังมันก็มีแค่นิดเดียวเท่านั้น แต่ผู้กำกับ "David Ayer" รู้ดีว่าหนังเรื่องนี้จะขายอะไร จึงไม่ทำอะไรที่ซับซ้อนเกินตัว
บทหนังก็เดินเป็นเส้นตรงไปเรื่อยๆของมัน แต่ตลอดทางที่บทหนังซึ่งเขียนโดย "Kurt Wimmer" ดำเนินไป กลับถูกสอดแทรกไปด้วยฉากแอคชั่นที่จะเรียกว่า "เก่งเกินคน" ของพระเอกอยู่ตลอดทาง แถมบทหนังก็ไม่ได้เปิดเผยเรื่องราวปูมหลังของ "คนเลี้ยงผึ้ง" ซักเท่าไหร่ จึงทำให้มีโอกาสสร้างหนังภาคต่อที่จะขยายเรื่องราวตัวของพระเอกไปได้อีกหลายภาคเลยทีเดียว!!!
ในส่วนของนักแสดงอย่าง Jason Statham ก็แสดงอยู่ในมาตราฐานของเขา(แต่เรื่องนี้เคราพี่ Statham ดกดำจนบางมุมหน้าแกก็เหมือนพี่ "จอห์น บราโว่" ไปหน่อยนะ😂😂😂) ส่วน "Josh Hutcherson" ก็เป็นตัวร้ายแบบที่จะเอาใครมาเล่นก็ได้ แต่ที่เสียดายของก็คือ "Jeremy Irons" ที่เหมือนแกมาแสดงเรื่องนี้ให้แบบขำๆ คือบทของตัวละครนี้ไม่ต้องมีในหนังก็ยังได้(เปิดตัวมาแบบนิ่มๆเหมือนจะ "มีอะไร" แต่สุดท้ายก็ไม่มีอะไรในกอไผ่...😅😅😅)
สรุปว่า The Beekeeper เป็นหนังที่สนุกเลย ถ้าอยากหาหนังบู๊ระห่ำแตกที่ไม่เน้นความสมจริงอะไรมากนัก แต่แม่งโคตรมันส์สะใจ ก็ขอแนะนำเรื่องนี้ครับ แต่ทั้งหมดนี้เป็นเพียงความคิดเห็นส่วนบุคคลเฉพาะของผู้เขียนเท่านั้น ซึ่งน่าจะมีผู้ที่ชอบหรือไม่ชอบหนังเรื่องนี้ตามแต่ใจของใครก็ของคนๆนั้น ผู้เขียนก็เคารพในความคิดเห็นของทุกคนเช่นกันครับ....
#หนังหุ้มปลาย #หนังMan
#JasonStatham #TheBeekeeper #DavidAyer #KurtWimmer
โฆษณา