พร้อมรับกับการทำงานรูปแบบใหม่ ร่วมกับ Machine Learning
เข้าใกล้ยุคของ AI กันมากขึ้นทุกวินาที เมื่อชีวิตประจำวัน ถูกไม่เว้นแม้กระทั่งเวลาที่เราเปิดดูคลิปใน YouTube หรือแพลตฟอร์ม Streaming ภาพยนตร์ต่าง ๆ แล้วมีคอนเทนต์ที่ตรงกับความชอบของเราเด้งขึ้นมา หลายคนคงรู้กันมาบ้างแล้วว่านี่คือความสามารถของ AI แต่สิ่งที่เป็นเบื้องหลังให้ AI เดาใจเก่งแบบนั้นได้ก็คือ Machine Learning นั่นเอง
เบื้องหลังของ AI Machine Learning คือ การปล่อยให้คอมพิวเตอร์เรียนรู้ด้วยตัวเอง โดยอาศัยจากข้อมูลที่เราป้อนไว้ให้เพื่อไปหาคำตอบ หรือผลลัพธ์ต่าง ๆ ต่อไป เปรียบเทียบให้เห็นภาพมากขึ้น Machine Learning นั้นเป็นเหมือนสมองที่จะคอยช่วยวิเคราะห์ให้ AI นั่นเอง การเขียนโปรแกรมแบบดั้งเดิมนั้นเรามักจะมีการตั้งกฎเกณฑ์ และขอบเขตที่ AI จะทำได้ ฉะนั้น AI ที่ออกมาจะไม่ทำนอกเหนือจากคำสั่งที่ถูกกำหนดไว้ แต่เมื่อเวลาผ่านไประบบมีความซับซ้อนขึ้น
Machine Learning มีกี่แบบ โดยหลัก ๆ แล้ว Machine Learning สามารถแบ่งออกเป็น 2 แบบด้วยกัน
- 1.การเรียนรู้แบบมีผู้สอน (Supervised Learning) เป็นการป้อนข้อมูลที่เราต้องการให้คอมพิวเตอร์นำไปทำนายหรือวิเคราะห์ต่อเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ออกมา เช่น หุ้น ที่จะต้องมีการดูข้อมูลหลาย ๆ ส่วนมาประกอบกันก่อนทำการซื้อ-ขาย ทำนายราคาหุ้นนั่นเอง
- 2.การเรียนรู้แบบไม่มีผู้สอน (Unsupervised Learning) คือการป้อนข้อมูลเข้าไปให้คอมพิวเตอร์แยกแยะเอาเอง Machine Learning รูปแบบนี้จึงเหมาะกับการใช้กับชุดข้อมูลที่มีเยอะ และแตกต่างกันไปอย่างชัดเจน เช่น การนำไปใช้กับการตลาด เป็นต้น
ยังมีอีกรูปแบบหนึ่งของ Machine Learning ที่น่าสนใจ นั่นคือ Reinforcement Learning หรือ การเรียนรู้แบบเสริมกำลัง ความน่าสนใจของมันก็คือเป็นแนวทางที่ AI เรียนรู้ได้เหมือนมนุษย์ที่สุดแล้ว !
เพราะจะอาศัยประสบการณ์ การลองผิดลองถูก เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่น่าพอใจในอนาคต ยกตัวอย่างเช่น ‘ยานยนต์ไร้คนขับ’ สิ่งที่ Machine Learning ต้องเรียนรู้ก็คือ ณ ตอนนี้สภาพแวดล้อม ถนน อากาศเป็นอย่างไร ควรใช้ความเร็วแค่ไหน เส้นทางที่ไปมีการจราจรติดขัดหรือไม่ และอีกมากมายที่จะทำให้การเดินทางครั้งต่อไปมีความปลอดภัยมากยิ่งขึ้น ซึ่งรูปแบบนี้ทำให้เราสามารถเห็นภาพของการใช้งาน Machine Learning กับเทคโนโลยีต่าง ๆ ในอนาคตได้มากที่สุดแล้ว
- 2
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
