แผนยึดอำนาจพระเจ้าตากสิน ตอนที่2
สถานะการทางฝั่งกรุงกัมพูชา เจ้าพระยาจักรี(ทองด้วง)ต้องรีบปิดเกมส์ ให้ได้โดยเร็ว เจ้าพระยาจักรี(ทองด้วง)จึงเปิดการเจรจาระหว่างสยาม กับ แม่ทัพญวน
บันทึกความจริงของราชอาณาจักรได่นาม
-
มีใจความว่าในฤดูใบไม้ผลิเดือน1ปี2325
องค์เชียงสือสั่งให้กองทัพนำโดยแม่ทัพเหงวียนหวูถวิ
และโหวันเลิน นำกองทัพเรือมาร่วมรบกับกัมพูชา
ซึ่งต่อมาได้สนทนากับ แม่ทัพบสยามโดยมีถ้อยคำที่ว่า
กษัตริย์สยามป่วยเป็นโรคจิต จับลูกเมียจักรี และสุรสีห์ขังไว้ จักรีและสุรสีห์โกรธเกลียด เมื่อทัพเราไปถึงได้มีการอภิปรายแลกเปลี่ยนในกองทัพสยาม
สุรสีย์กล่าวกษัตริย์เราจับลูกเมียขังโดยไม่มีสาเหตุทั้งที่พวกเราออกมาทำการเสี่ยงตายเช่นนี้
คงดีกว่าถ้าร่วมกับคนจีน(ญวน) ผูกมิตรและสานสัมพันธุ์ไมตรีระหว่างรัฐ
จักรีกล่าวว่าข้าพเจ้าเห็นด้วยเป็นอย่างมาก...
หลักฐานเวียดนามยังบันทึก ถึงเหตุการสยามส่งทูตมาขอพักรบ และเชิญแม่ทัพเหงวียนถวิกฝ่ายเวียดนามก็ตอบรับทันที แต่หิ่วน้องชายแม่ทัพเหงวียนถวิกคัดค้านมีถ้อยคำที่ว่า คนป่าเถื่อน(สยาม)มักไม่ซื่อ
ถ้าไม่ทำตามคำมั่นจะทำอย่างไร
เหงวียนถวิกจึงตอบกลับน้องชายไปว่า
เราคิดอย่างระมัดระวังแล้ว กษัตริย์สยามจับลูกเมียพวกเขาโดยไม่มีสาเหตุ พวกเข้าต้องการๆสนับสนุน
จึงไม่น่าจะหลอกลวง ถ้าเรารับคำแต่ไม่ไปสยามจะหาว่าเราหวาดกลัว
บันทึกเวียดนาม
มีใจความที่ว่า เช้าวันรุ่งขึ้นหวืถวิกนำทหารหลายสิบคนมายังค่ายทหารสยาม ทหารสยามต่างมองงหน้าดันอย่างงงงวย จักรีและสุรสีห์ต่างตอนรับและให้เกียรติ
ทั้งสองฝ่ายต่างแสดงความจริงใจ เสพสุราจนเมาแล้วหักลูกธนูสาบาน หวืถวิกรับธนูมอบของสำคัญ3อย่าง
คือ ธง มีด และดาบ ให้พระยาทั้ง2แล้วจึงกลับ
บันทึกตระกลูหมัก
มีบันทึกที่ว่า นำเอามีดมีค่ามาเป็นเครื่องยืนยันจักรีนำทัพกลับอย่างลับๆ กล่าวโทษจิ่งเติน(พระเจ้าตากสิน)
ว่าสังหารขุนนาง ราษฎร มีพระทัยเหี้ยมโหด
เป็นอาชญากรสมควรทำตามมติสวรรค์คือประหารให้สิ้นองครักษ์นำจิ่งเติน(พระเจ้าตากสิน)ไปตัดศรีษะ
ขุนนางล้างพระราชวังให้สะอาดแล้วสนับสนุนจักรีเป็นกษัตริย์ สุรสีห์นำทัพกลับพระนครแล้วสถาปนาเป็นกษัตริย์อีกองค์
ในบันทึก พระราชหัตถเลขามีบันทึกกล่าวโทษพระเจ้าตากสินที่ว่า พระเจ้าแผ่นดินละสุจริตธรรมฉะนี้
ก็เห็นว่าเป็นเสี้ยนหนาม หลักตออันใหญ่อยู่ในแผ่นดิน
จะละไว้เสียมิได้ควรจะสำเร็จโทษเสีย
ในวาระสุดท้ายของพระเจ้าตากสินได้มีบันทึกถึงถ้อยคำของพระเจ้าตากเอาไว้อีกว่า
เพชรฆาตและผู้คุมก็ลากเอาขึ้นแคร่หาม ไปทั้งสังขลิก
พันธนาการ เจ้าตากจึงว่าแก่ผู้คุมเพชรฆาตว่า
ตัวเราก็สิ้นบุญจะถึงที่ตายอยู่แล้ว ช่วยพาเราไปแวะหา
ผู้สำเร็จราชการ จะขอเจรจาด้วยสักสองสามคำผู้คุมก็หามเข้ามาได้ทอดพระเนตรเห็น จึงโบกพระหัตถ์มิให้นำมาเฝ้าเพชรฆาตและผู้คุม ก็หามออกไปนอกพระราชวัง ถึงหน้าป้อมวิชัยประสิทธิ์ก็ประหารชีวิตตัดศรีษะถึงแก่พิราลัย
ความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นในกรุงธนบุรี ยังไม่ล่วงรู้ถึงพระเจ้าลูกเธอกรมขุนอินทรพิทักษ์ พระโอรสองค์โตของพระเจ้าตากสิน ที่กำลังถูกกองทัพกัมพูชาล้อมไว้
ที่พุทไธเพชร หรือ อุดงมีชัย เป็นอีกกลศึกของเจ้าพระยาจักรี ที่ทำสัญญาลับกับแม่ทัพเหงวียน
ไม่นานพระเจ้าลูกเธอกรมขุนอินทรพิทักษ์ได้ระแคะระคายเมื่อรู้ถึง กองทัพเจ้าพระยาจักรี และ เจ้าพระยาสุรสีห์ ได้เคลื่อนทัพอย่างผิดวิสัยจึงได้สงสานลงมายังพระนคร
พระราชพงศาวดารพระราชหัตถเลขา
มีบันทึกสารนั้นเอาไว้ว่า เขมรกลับเป็นกบฏล้อมกองทัพพระเจ้าลูกเธอไว้ที่ เมืองพุทไธเพชรแต่กองทัพเจ้าพระยาจักรี และ เจ้าพระยาสุรสีห์เลิกหนีไปมิรู้ว่าไปแห่งใด
สารฉบับนี้ได้ส่งมาถึงกรุงธนบุรี แต่สารนี้ไม่ถึงพระเจ้าตากสิน เพราะได้พลัดแผ่นดินไปแล้วผู้รับสารนั้นกลับเป็น สมเด็จพระบวรราชเจ้ามหาสุรสิงหนาถ หรือเจ้าพระยาสุรสีห์
พระราชพงศาวดารพระราชหัตถเลขา
ได้บันทึกถ้อยคำของ พระราชวังบวรมหาสุรีหนาถเอาไว้ว่า
อ้ายหูหนวกตาบอด มิได้รู้การแผ่นดินเป็นประการใด
กลับได้กล่าวโทษกู เข้ามาถึงกูอีกเล่า
ต่อมาพระเจ้าลูกเธอกรมขุนอินทรพิทักษ์ ได้ตีฝ่าวงล้อมของเขมรออกมาได้ จึงยกทัพกลับกรุงธนบุรี
จนมาถึงเมืองปราจีนบุรี จึงได้ทราบความเป็นไปของแผ่นดินทัพที่ตามมาจึงพากันหลบหนี เหลือเพียง
กรมขุนอินทรพิทักษ์ และ ออกยากำแหงสงครามอดีตเจ้าเมืองนครราชสีมา
กรมพระราชวังบวร นำไพร่พล6พันเศษตามล่ากรมขุนอินทรพิทักษ์ภายหลัง สามารถจับตัวได้พร้อมกับพระยากำแหงสงคราม
ภายหลังได้ส่งตัว กรมขุนอินทรพิทักษ์ลงมายังกรุงธนบุรีอีก6วันต่อมา ได้พิพากษากรมขุนอินทรพิทักษ์ และ ออกยากำแหงสงคราม ทั้ง2ไม่ยอมอยู่ใต้อำนาจกษัตริย์ องค์ใหม่เพื่อรอดชีวิตโดยมีถ้อยคำใน
พระราชพงศาวดารพระราชหัตถเลขา
ทรงพระกรุณาให้ถาม กรมขุนอินทรพิทักษ์
ถ้ายอมอยู่จะเลี้ยงด้วยตัวหาความผิดมิได้
กรมขุนอินทรพิทักษ์ให้การว่า
ไม่ยอมอยู่ จะขอตายตามบิดา
เป็นอันสิ้นสุด กรุงธนบุรีที่มีมาถึง15ปี
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
