22 ม.ค. เวลา 06:17 • ท่องเที่ยว
น่าน

บทความนี้เป็นบทความแรกของผม

Tale ep.2
ชีวิตไม่ได้ง่ายถ้าเราไม่พร้อม
TimeandTale
เมื่อเลี้ยวขวาเข้าเส้น 1083 แล้ว พร้อมกับน้ำมันที่วิ่งได้ราวๆ 70-90 กิโลฯ ท้องฟ้าก็เริ่มเปลี่ยนสีจากสีส้มเป็นสีเทา ความมืดเริ่มคีบคลานเข้ามาเรื่อยๆ ผมก็ขับไปตามทาง 1083 ต่อไป โดยหวังว่าอีกไม่เกิน 80 กิโลฯ ผมจะเจอปั้มน้ำมันที่อ.นาน้อย ยิ่งขับเข้าไปมากเท่าไหร่ ทางก็เริ่มขึ้นเขามากขึ้น บ้านคนก็น้อยลงตามความชันของเขา
เพราะท้องฟ้าเริ่มมืด ทัศนวิสัยก็ไม่ค่อยจะดีเท่าไหร่ ผมเริ่มเปิดไฟหน้ารถเพื่อเพิ่มความสว่างให้กับถนนในเวลานั้น พอขับไปได้ประมาณ 20 นาที ขีดน้ำมันอยู่ๆ ก็เริ่มกระพริบ ซึ่งตามที่อ่านมาในอินเตอร์เน็ตคือวิ่งได้ประมาณแค่ 50 กิโลฯ แต่ระยะทางที่เหลือเกือบๆ 50 กิโลฯ ซึ่งก็น่าจะเป็นไปได้ที่จะไปถึงที่หมายปั้มน้ำมันพอดี
ผมจึงตั้งหน้าตั้งตาขับต่อไป แต่ด้วยถนนมันโค้งเยอะมาก ทั้งขึ้นและลงเขาสลับซับซ้อนกัน แล้วรถแถวนั้นก็ไม่ผ่านมาเลยสักคัน ผมจึงค่อยๆ เหยียบขึ้นเขา และปล่อยให้รถไหลลงเขาอีกลูก เพื่อให้รถเหวี่ยงตัวเองขึ้นเขาลูกต่อไปได้สักครึ่งนึงก็ยังดี เหมือนซ้ำกรรมซัดยังไงไม่รู้ ถนนโดยรอบมืดไปหมด อยู่ๆ หมอกก็เริ่มลง ทำให้กระจกไม่สามารถมองเห็นได้อย่างชัดเจนถึงแม้จะมีไฟหน้ารถก็ตาม
ผมไล่นิ้วไปเปิดที่ปัดน้ำฝนเพื่อไล่หมอก แต่มันกลับไม่ทำงาน!!! ผมคิดในใจ แล้วจะมองเห็นได้ยังไงเนี่ย ตอนนี้แอร์ข้างในก็เริ่มเย็นขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ขนด้านหลังผมเริ่มลุกขึ้น ในขณะที่มองไปรอบๆ ข้างตัวรถ ไม่มีแม้แต่บ้านคน หรือรถผ่านเลยแม้แต่คันเดียว มีแต่ความมืดรอบตัวรถ และหมอกที่ลงจัดมองแทบไม่เห็นทาง ผมพยายามประคองรถไปเรื่อยๆ โดยใช้หลักการเดิมคือใช้น้ำมันแค่เหยียบขึ้นเขาเท่านั้นและปล่อยรถไหลลงเขา
ผมเหลือบไปมอง GPS ระยะทางบอกที่ 50 กิโลฯ แต่เอ๊ะ ผมขับมาได้ระยะนึงแล้วนี่ ทำไมระยะทางมันยังเท่าเดิมอยู่ ผมเอามือไปแตะหน้าจอโทรศัพท์ มองไปมุมขวาบนของจอ ไม่มีสัญญาณ!!! งานเข้าแล้วไง ทีนี้แล้วผมจะไปยังไงต่อ เหมือน GPS มันค้างอยู่กับที่ ในขณะที่รถผมวิ่งไปในความมืดเรื่อยๆ ถ้าเกิดรถดับหรือเป็นอะไรไปผมไม่สามารถขอความช่วยเหลือได้เลย
เนื่องจากหมอกลงหนักมากหรือไม่ก็เกิดจากความต่างกันระหว่างอุณหภูมิภายในตัวรถและอุณหภูมิภายนอกตัวรถทำให้น้ำค้างเกาะที่กระจกหน้ารถมองอะไรไม่ค่อยเห็น ผมปิดแอร์ และเปิดแง้มกระจกเล็กน้อย ตอนนี้ไม่มีสัญญาณแล้วครับ ถ้าเกิดเป็นอะไรขึ้นมา คงต้องเอาชีวิตมาทิ้งไว้กลางเขาเป็นแน่
แอร์ในรถหรือความเย็นภายนอกไม่ได้ทำให้ผมหายร้อนเลย เหงื่อผมเริ่มออกมาที่มือในขณะที่ตาจ้องเขม็งไปยังหน้ารถเพื่อบังคับรถไปตามถนนที่คดเคี้ยว จากตอนแรกที่เริ่มมีความมั่นใจว่าน้ำมัน 50 กิโลฯ มันสามารถไปถึงปั้มน้ำมันได้จริงๆ ตอนนี้ความมั่นใจนั้นหายไปกับตา เหลือเพียงภาวนาให้มีปาฏิหารย์ให้การเหวี่ยงรถของผมและการปิดแอร์ในรถน้ำมันจะพอให้ผมรอดไปจากตรงนี้
ตอนนี้อะไรก็ได้แล้วครับ จะที่พักรถ หรือจุดจอดคอย หรือบ้านใครสักคน ขอร้องล่ะ นาฬิกาบอกเวลาอยู่ที่ประมาณ 1 ทุ่มตรง ข้างนอกมืดมาก ไม่เจออะไรเลยแม้แต่ความมืด ถนนมีเพียงแค่ไฟหน้ารถเท่านั้นที่ส่องให้เห็นทาง หากมีอะไรโผล่มาหรือกระโดดมาขวางหน้ารถคือชน เพราะผมไม่เบรกแล้ว ให้รถมันชะลอลงได้แค่ตอนไหลขึ้นเขาหรือจะหยุดรถก็แค่น้ำมันหมด
ตอนนี้ผมกับแฟนมองหน้ากันนั่งตาปริบๆ นั่งกลืนน้ำลาย หวังให้คืนนี้ที่เงียบงันมันหายไปเสียที ทำไมช่วงเวลานี้มันนานเหลือเกิน เกินจนกว่าจะมีความง่วงมาทำให้ผมสามารถหลับตาได้ ในใจตอนนั้นคิดเพียงแต่ว่า จะผีป่า ผีฟ้า หรืออะไรก็มาเถอะ แต่ขออย่าให้คนมาเลย ตอนนั้นผีเผอก็กลัววนะครับ แต่กลัวโดนดักปล้นมากกว่า
ผมเหยียบคันเร่งและพยายามคุมรถไปตามถนนที่คดเคี้ยวไปเรื่อยๆ น้ำมันที่กระพริบก็เตือนผมว่าให้ใจเย็นๆ อย่ากดคันเร่งเกินไป เพราะไม่รู้ว่าน้ำมันจะหมดเมื่อไหร่ แล้วก็เหมือนจะมีโชคอยู่บ้าง เมื่อเริ่มมีป้ายบอกทางให้เห็น ถึงแม้จะเป็นป้ายเล็กๆ ก็เถอะ ป้ายบอกว่าดอยเสมอดาวเลี้ยวขวา ต้องขอบคุณป้ายทำให้ผมมีกำลังใจ ผมบอกกับตัวเองว่าเดี๋ยวคงมีที่พักอุทยานอยู่ใกล้ๆ
แล้วก็เหมือนดวงจะเข้าข้าง ด้านหน้าเริ่มมีไฟทางแบบเสาไม้แซมตามข้างทางบ้าง และก็ถึงที่พักอุทยาน ผมจอดรถสงบสติอารมณ์ที่ตื่นเต้นก่อน เดินไปเข้าห้องน้ำที่มืดๆ ตอนนี้ไม่มีอารมณ์จะกลัวแล้ว เหมือนมันกลัวมากๆ แล้วตัวสั่น จนไม่รู้จะกลัวกว่านี้ได้อีกไหม ผมค่อยๆ ทำธุระจนแล้วเสร็จและขึ้นรถมาต่อ
กลับมาเผชิญกับความมืดตรงหน้าอีกครั้งและไม่รู้ว่าจะยังไงๆ แต่เหมือนโชคจะเข้าข้างรอบสอง GPS อยู่ๆ ก็เริ่มบอกระยะทางว่าอีกประมาณ 15 กิโลฯ จะถึงปั้มน้ำมัน ผมก็ใจชื้นขึ้นมาบ้าง แต่ด้วยความที่น้ำมันหน้าปัดมันยังกระพริบอยู่ มันก็ยังไม่น่าไว้วางใจอยู่ดี ประกอบกับตอนนี้เป็นเวลาเกือบๆ สองทุ่ม แล้วก็มืดไปหมด จนสุดท้ายก็มีรถผ่านมาหนึ่งคัน
ผมโล่งอกและเบาใจมากเลยที่รอดมาได้จากประสบการณ์ในวันนั้น เป็นสิ่งที่ผมจะจดจำไปจนวันตายเลยว่า ถ้าน้ำมันน้อย และทางไม่คุ้น ขอให้เติมน้ำมันให้เต็มถึงเข้าไว้ ถึงแม้ปั้มข้างทางมันจะไม่น่าเติมแค่ไหนก็ตาม ขอบคุณที่อ่านมาจนถึงตรงนี้
ฝากไว้เป็นประสบการณ์เผื่อใครจะหลงมาวิ่งเส้น 1083 แบบผม
...จบ...
โฆษณา