Tops เผยอินไซต์ 70% ของคนซื้อของเซ่นไหว้ ช่วงตรุษจีน คือผู้หญิงอายุ 30 - 54 ปี
วันนี้ Tops ได้มีการเผยอินไซต์ที่น่าสนใจเกี่ยวกับเทรนด์การช้อปสินค้าช่วงตรุษจีนของคนไทย
พร้อมเผยกลยุทธ์การมอบประสบการณ์การฉลองเทศกาลตรุษจีนที่ตอบโจทย์อินไซต์ลูกค้าได้จริง
โดยทาง MarketThink ก็ได้สรุปข้อมูลที่น่าสนใจ
และสามารถนำไปปรับใช้ในการวางแผนกลยุทธ์ทางการตลาดได้ มาฝากกัน เป็นข้อ ๆ
- ภาพรวมของการบริโภคในช่วงเทศกาลตรุษจีนปีที่ผ่านมา มีเม็ดเงินหมุนเวียนกว่า 45,000 ล้านบาท สูงกว่าปี 2565 คิดเป็น 13.6% สูงสุดในรอบ 3 ปี และปีนี้ก็มีแนวโน้มเติบโตเพิ่มสูงขึ้น
- Tops เผยว่า แม้ว่าปีที่ผ่านมาเม็ดเงินหมุนเวียนช่วงเทศกาลตรุษจีนจะสูงกว่า 45,000 ล้านบาท
แต่ก็ยังต่ำกว่าช่วงก่อนมีโควิด โดยปี 2562 มีเม็ดเงินหมุนเวียนช่วงเทศกาลตรุษจีนถึง 58,000 ล้านบาท
จึงเชื่อว่าการจับจ่ายใช้สอยในช่วงเทศกาลตรุษจีนที่จะมาถึงนี้จะยังเติบโตต่อเนื่องเพิ่มขึ้นเป็นปีที่ 4 เนื่องจากผู้บริโภคคลายความกังวลจากสถานการณ์โรคระบาดแล้ว
- Tops บอกว่า 70% ของลูกค้าในช่วงเทศกาลตรุษจีนเป็นเพศหญิง ที่มีอายุระหว่าง 30 - 54 ปี
และมีแนวโน้มว่า อายุเฉลี่ยของลูกค้าที่ซื้อของในช่วงเทศกาลตรุษจีนจะลดลงทุก ๆ ปี
โดยลูกค้าส่วนใหญ่ของ Tops อยู่ในพื้นที่กรุงเทพและปริมณฑล ซึ่งคิดเป็น 69% จากลูกค้าทั่วประเทศ
- มูลค่าการจับจ่ายใช้สอยต่อตะกร้า (Basket Size) เปรียบเทียบช่วงเวลาปกติ กับช่วงตรุษจีน เติบโตเพิ่มขึ้น 31%
- ยอดขายสั่งซื้อสินค้าล่วงหน้า (Pre-order) เปรียบเทียบปี 2565 และ 2566 เพิ่มขึ้น 38.4%
- สัดส่วนยอดขายสินค้าช่วงเทศกาลตรุษจีน ได้แก่ กลุ่มเนื้อสัตว์และอาหารทะเลคิดเป็น 44% กลุ่มผักและผลไม้คิดเป็น 24% กลุ่มอื่น ๆ เช่น ของเซ่นไหว้ ธูป กระดาษ คิดเป็น 32%
- 3 เทรนด์สำคัญที่มาแรงช่วงเทศกาลตรุษจีนปีที่ผ่านมา คือ
1. Traditional Authenticity & Adaptability
ผู้บริโภคที่ไหว้เจ้าในช่วงเทศกาลตรุษจีนเป็นปกติ ยังคงเลือกสินค้าของไหว้ถูกต้องตามหลักประเพณี
ขณะเดียวกันผู้บริโภคเจเนอเรชันจะมองหาสินค้าที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของตัวเองมากขึ้น โดยเน้นทั้งคุณภาพและความเป็นมงคล
2. Eco - Consciousness
เนื่องจากปัจจุบันคนหันมาใส่ใจสิ่งแวดล้อมกันมากขึ้น ทำให้คนลดการทำกิจกรรมในช่วงเทศกาลที่อาจก่อให้เกิดมลพิษ
เช่น ลดการจุดธูปและเผากระดาษในช่วงเทศกาลตรุษจีน
3. Mu is Everything
Mu ในที่นี้ มาจาก “มูเตลู” หรือความเชื่อเรื่องไสยศาสตร์ สิ่งศักดิ์สิทธิ์ สิ่งลี้ลับ หรือการเสริมดวงชะตา
กำลังมาแรงมาก ๆ และแทรกซึมเข้าไปอยู่ในทุกที่ของสังคมไทย ไม่ว่าจะเป็นภาคธุรกิจหรือภาคส่วนอื่น ๆ
โดยผลสำรวจระบุว่า คนไทยกว่า 52 ล้านคน มีความเชื่อเรื่องโชคลาง
และอายุเฉลี่ยของคนที่ใช้จ่ายเงินไปกับกระแสมูเตลู ก็มีตั้งแต่คนรุ่นใหญ่ไปจนถึงคนรุ่นใหม่และเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ
ด้วยเหตุนี้ ธุรกิจในยุคนี้จึงหันมาจับกระแสมูเตลูกันอย่างไม่ขาดสายและ “Muketing” ก็ยังเติบโตไม่หยุด
- จากข้อมูลอินไซต์เหล่านี้ ทำให้ Tops ได้วางแผนกลยุทธ์ทางการตลาด เพื่อเพิ่มยอดขายสินค้าช่วงเทศกาลตรุษจีน ดังนี้
1. กลยุทธ์ BEST ASSORTMENT
คือ การจัดสินค้าที่จำเป็นต่อการไหว้เจ้าในช่วงเทศกาลตรุษจีนเอาไว้เป็นเซตแบบครบ จบ ในที่เดียว
ทำให้ลูกค้าซื้อสินค้าได้อย่างสะดวก และตอบโจทย์ลูกค้าที่มีเวลาไม่มากนักในการเลือกซื้อของไหว้เจ้า
โดยการจัดเซตสินค้านี้จะคำนึงถึงเทรนด์ของผู้บริโภคข้างต้นอย่างที่กล่าวไป ไม่ว่าจะเป็น การอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม กระแสมูเตลู และเทรนด์การมองหาสินค้าที่เข้ากับไลฟ์สไตล์ตัวเองของคนรุ่นใหม่
ทำให้เราจะเห็นชุดไหว้เจ้าที่ไม่ได้จัดเซตสินค้าของมงคลตามประเพณีเท่านั้น
แต่ยังมีชุดไหว้ที่เข้ากับเทรนด์อาหารยุคใหม่อีกด้วย เช่น ชุดรวมชาบูหม่าล่า ชุดโหงวแซซีฟูด หรือชุดอาหารไหว้ซีฟูดพรีเมียม
โดยราคาของชุดไหว้ในปีนี้เริ่มต้นที่ประมาณ 400 บาท ไปจนถึง 6,990 บาท
ซึ่งราคาชุดไหว้อาจจะมีความแตกต่างกันไปในแต่ละปี ขึ้นอยู่กับพฤติกรรมของผู้บริโภคและเทรนด์ของแต่ละปี
2. กลยุทธ์ BEST EXPERIENCE
คือ การให้ประสบการณ์ลูกค้าแบบพิเศษสำหรับลูกค้า Top Spender 20 คนแรก จะได้เข้าร่วมทริปทำบุญแก้ชง ร่วมกับหมอช้างที่วัดบรมราชากาญจนาภิเษกอนุสรณ์ ในวันที่ 14 มีนาคม 2567
3. กลยุทธ์ BEST DEAL
คือ กลยุทธ์ช่วยส่งเสริมการขายต่าง ๆ เช่น
- รับส่วนลดเมื่อช็อปครบตามจำนวนเงินที่กำหนด
- แจกกระเป๋าและแลกซื้อเครื่องรางมงคลได้เมื่อช็อปครบตามจำนวนเงินที่กำหนด
- สมาชิก The1 สามารถนำคะแนนสะสมไปแลกรับส่วนลดได้
- แลกเงินคืนหรือรับส่วนลดเพิ่มเติมกับบัตรเครดิตที่ร่วมรายการ
(อ่านต่อ 1) - 3 เทรนด์สำคัญที่มาแรงช่วงเทศกาลตรุษจีนปีที่ผ่านมา คือ
1. Traditional Authenticity & Adaptability
ผู้บริโภคที่ไหว้เจ้าในช่วงเทศกาลตรุษจีนเป็นปกติ ยังคงเลือกสินค้าของไหว้ถูกต้องตามหลักประเพณี
ขณะเดียวกันผู้บริโภคเจเนอเรชันจะมองหาสินค้าที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของตัวเองมากขึ้น โดยเน้นทั้งคุณภาพและความเป็นมงคล
2. Eco - Consciousness
เนื่องจากปัจจุบันคนหันมาใส่ใจสิ่งแวดล้อมกันมากขึ้น ทำให้คนลดการทำกิจกรรมในช่วงเทศกาลที่อาจก่อให้เกิดมลพิษ
เช่น ลดการจุดธูปและเผากระดาษในช่วงเทศกาลตรุษจีน
3. Mu is Everything
Mu ในที่นี้ มาจาก “มูเตลู” หรือความเชื่อเรื่องไสยศาสตร์ สิ่งศักดิ์สิทธิ์ สิ่งลี้ลับ หรือการเสริมดวงชะตา
กำลังมาแรงมาก ๆ และแทรกซึมเข้าไปอยู่ในทุกที่ของสังคมไทย ไม่ว่าจะเป็นภาคธุรกิจหรือภาคส่วนอื่น ๆ
โดยผลสำรวจระบุว่า คนไทยกว่า 52 ล้านคน มีความเชื่อเรื่องโชคลาง
และอายุเฉลี่ยของคนที่ใช้จ่ายเงินไปกับกระแสมูเตลู ก็มีตั้งแต่คนรุ่นใหญ่ไปจนถึงคนรุ่นใหม่และเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ
ด้วยเหตุนี้ ธุรกิจในยุคนี้จึงหันมาจับกระแสมูเตลูกันอย่างไม่ขาดสายและ “Muketing” ก็ยังเติบโตไม่หยุด
ปิดท้ายด้วยข้อมูลที่น่าสนใจ..
ตอนนี้ Tops มีจำนวนสาขาทั่วประเทศทั้งหมด 677 สาขา แบ่งเป็น
- Tops Food Hall 17 สาขา
- Tops Fine Food 2 สาขา
- Tops Premium 143 สาขา
- Tops Daily 515 สาขา
และมีสาขาสแตนด์อโลนอีก 5 สาขา ได้แก่
- สาขาสุขุมวิท 39 (Tops Food Hall)
- สาขาสุขุมวิท 49 (Fine Food)
- สาขาพัฒนาการ 30 (Tops Premium)
- สาขานาคนิวาส (Tops Premium)
- สาขาสาธุประดิษฐ์ (Tops Premium)
- 5
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
