22 ม.ค. เวลา 12:37 • ปรัชญา
น่าแปลกใจมาก ที่เป็นคำถามเดียวกัน กับที่มี คนถามพระพุทธเจ้าเมื่อ 2,500 ปีก่อนความว่า
ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ บุคคลสถิตอยู่ ณ ที่ใดหนอ จึงจะไม่เกิด ไม่แก่ ไม่ตาย ไม่จุติ
ไม่อุปบัติ ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ อันบุคคลจะอาจบ้างหรือไม่ เพื่อที่จะรู้ เพื่อที่จะเห็น หรือ
เพื่อที่จะบรรลุที่สุดโลก (สถานที่ ที่ไม่มีทุกข์) ได้“ด้วยการเดินทาง”ฯ
โรหิตัสสเทพบุตร
พระพุทธเจ้าจึงตรัสตอบว่า
อาวุโส ที่ใดเป็นที่ไม่เกิด ไม่แก่ ไม่ตาย ไม่จุติ ไม่อุปบัติ เราไม่พูด
ถึงที่นั้นอันเป็นที่สุดของโลกว่า ควรรู้ ควรเห็น ควรบรรลุด้วยการ “เดินทาง” ฯ
พระพุทธเจ้า
กล่าวคือ ไม่สามารถไปถึงด้วยการเดินทางคือ ไม่ว่าจะไปที่ไหน ในจักรวาล ย่อมไม่เจอสถานที่เช่นนั้น แต่ทว่า
แต่ไหนแต่ไรมา ยังไม่มีใครบรรลุถึงที่สุดโลกด้วยการเดินทาง
และเพราะยังบรรลุถึงที่สุดโลกไม่ได้ จึงไม่พ้นไปจากทุกข์
พระพุทธเจ้า
พระพุทธเจ้าบอกว่า ความเป็นจริงแห่งกลไกธรรมชาตินี้ ที่ไม่มี ความเกิด ความเสื่อม และ ความดับ ความจริงข้อนั้นมีอยู่ แต่ไม่อาจจะถึงด้วยที่สุดคือการไป
ก็ถ้าหากเรายังไม่บรรลุถึงที่สุดของโลกแล้ว
ก็จะไม่กล่าวถึงการกระทำที่สุดทุกข์
ก็แต่ว่าเราบัญญัติเรียกว่าโลก เหตุให้เกิดโลก
การดับของโลก และทางให้ถึงความดับโลก
“ ในสรีระร่าง มีประมาณวาหนึ่งนี้ “
และพร้อมทั้งสัญญา พร้อมทั้งใจครอง
พระพุทธเจ้า
กล่าวคือที่สุดของโลก (สภาะที่ไม่มีทุกข์) มิอาจไปด้วยการเดินทาง แต่ถึงได้ด้วยใจ ในสรีระ มีประมาณเพียงเท่านี้เอง
เหตุนั้นแหละ คนมีปัญญาดี ตระหนักชัดเรื่องโลก ถึงที่สุดโลกได้
อยู่จบพรหมจรรย์แล้ว รู้จักที่สุดโลกแล้ว
เป็นผู้ระงับแล้ว จึงไม่หวังโลกนี้และโลกหน้า
พระพุทธเจ้า
ดังนี้เองครับ
อ้างอิง : โรหิตัสสสูตร :: https://84000.org/tipitaka/read/m_siri.php?B=21&siri=45)
โฆษณา