24 ม.ค. เวลา 06:58 • สุขภาพ
โรงพยาบาลเอกชัย

ฝุ่นในประเทศไทยนั้นมักจะพบเพิ่มมากขึ้น ซึ่งฝุ่นที่มีขนาดเล็กจะมีอันตรายมากกว่าฝุ่นที่มีขนาดใหญ่กว่า

ฝุ่นมีอนุภาคประกอบไปด้วย 2 ส่วน คือ 1.ฝุ่นที่ไม่มีชีวิต ได้แก่ พวกแร่ธาตุต่างๆ 2.พวกเชื้อโรคต่างๆ แบคทีเรียต่างๆ ซึ่งเป็นตัวทำให้เกิดโรค และทุกลมหายใจของเรา คือการนำฝุ่นผง เข้าสู่ร่างกาย ซึ่งฝุ่นนั้นสามารถสร้างความระคายเคือง ก่อให้เกิดภูมิแพ้ เกิดโรคภัยไข้เจ็บขึ้นได้
3
ฝุ่นมีหลายขนาดถ้าฝุ่นมีขนาดใหญ่ขึ้นตั้งแต่ 10 ไมครอนขึ้นไปส่วนใหญ่แล้วจะถูกกรองโดยผ่านระบบป้องกันของจมูกและหลอดลมทำให้ไม่สามารถไปสู่บริเวณที่ลึกได้ 10 ไมครอน น่าจะมีปัญหาบ้างในกรณีที่เข้าไปสู่หลอดลมส่วนต้นทำให้เกิดอาการภูมิแพ้อาการอักเสบของหลอดลม แต่ฝุ่น 2.5 เข้าไปลึกได้โดยจนถึงถุงลมซึ่งจะทำให้เกิดอันตรายได้มากกว่า
2
การที่ฝุ่น 2.5 เข้าไปลึกถึงถุงลม จะมีผลต่อ 2 ระบบสำคัญของร่างกาย คือ ระบบทางเดินหายใจ และ ระบบไหลเวียนโลหิต ถ้าฝุ่นเข้าไปในถุงลมแล้วจะสามารถเข้าสู่ระบบไหลเวียนโลหิต ถึงเส้นเลือดฝอยได้ ทำให้เกิดปฏิกิริยามากถึงการอุดตันของหลอดเลือด
1
ที่สำคัญหากเกี่ยวข้องกับระบบทางเดินหายใจ จะสามารถทำให้เกิดการอักเสบอย่างรุนแรง โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ที่มีโรคที่เกี่ยวข้องกับระบบทางเดินหายใจอยู่แล้ว เช่น โรคภูมิแพ้ โรคหืดหอบ โรคหลอดลมอักเสบ ก็จะมีการกระตุ้นทำให้มีอาการเพิ่มมากขึ้น หากเป็นโรคถุงลมโป่งพองยิ่งมีอันตราย จะทำให้มีอาการอักเสบเพิ่มมากขึ้น
1
★ วิธีป้องกันฝุ่น PM 2.5 ทำได้อย่างไรบ้าง ?
หากเป็นฝุ่นนอกบ้าน ง่ายเลยถ้าเผื่อเรารู้ทราบจากประกาศว่ามีปริมาณฝุ่น โดยเฉพาะอย่างยิ่ง pm 2.5 มากๆ เราก็ไม่ควรออกไปข้างนอกหรือไม่ควรออกกำลังกายกลางแจ้ง ถ้ามีฝุ่นมากเราไม่ควรจะไปเสี่ยง ไม่ว่าร่างกายจะเป็นปกติ หรือผิดปกติก็ตาม ถ้าจำเป็นต้องออกไปทั้งๆทียังมีฝุ่น เราต้องป้องกันตัวเราเอง โดยใช้หน้ากากป้องกันฝุ่น
สำหรับเรื่องหน้ากาก เราต้องเข้าใจว่า มันมีรูละเอียดเท่าใด กรองฝุ่นขนาดเล็กเท่าไร เราก็ยิ่งหายใจลำบากเท่านั้น เพราะฉะนั้นความลำบากของการใช้หน้ากาก N95 คือเราจะใช้ไม่ได้นาน อึดอัดและจะต้องถอดออก จึงทำให้คุณภาพของการกรองฝุ่นลดลงไป
1
★ หากเป็นฝุ่นในบ้านมีวิธีรับมืออย่างไร ?
ช่วงที่มีฝุ่นมากๆควรจะปิดบ้านทึบ หากมีเครื่องฟอกอากาศควรใช้เครื่องฟอกอากาศตลอด หากไม่มีเครื่องฟอกอากาศ สามารถใช้เครื่องปรับอากาศก็จะมีความสามารถกรองฝุ่นได้พอสมควร แต่มีคำแนะนำเพิ่มขึ้นนิดหน่อยเพื่อให้กรองอากาศได้ดีขึ้น คืออาจใช้แผ่น HEPA (High Efficiency Particulate Arrestance) กรองอากาศเหมือนกับ n95 แต่ว่าเป็นแผ่นใหญ่ ตัดใช้ให้พอเหมาะกับส่วนที่เป็นที่กรองของเครื่องปรับอากาศ ฝุ่นต่างๆก็จะติดอยู่กับแผ่น HEPA อากาศที่ออกมาก็จะไม่มีฝุ่น Pm2.5 ฝุ่นในห้องก็จะลดน้อยลงไปเรื่อยๆ
3
และหากบ้านไหนไม่มีเครื่องปรับอากาศ สามารถใช้พัดลมธรรมดา โดยใช้ตาข่ายที่กันไว้ไม่ให้เด็กเอามือสอด แล้วตัดกระดาษ HEPA ไว้พอดีกับหน้าพัดลมแล้วก็เอาไปปิดกั้นไว้ เวลาที่พัดลมเป่าออกไป พัดลมจะดูอากาศที่มีฝุ่นจากข้างหลัง แล้วก็เป่าออกไป ฝุ่น และ pm 2.5 ที่เล็กๆ ก็จะจับอยู่ที่ HEPA แต่ต้องเข้าใจว่าลมที่ออกมาจะเบากว่า เบาลง เราไม่ต้องกระแสลมที่ต้องการพัดให้เราเย็น แต่เราต้องการวัตถุประสงค์ที่ต้องการกรองฝุ่นและอากาศที่ออกไปก็จะลดลงไปเรื่อยๆ
4
โฆษณา