25 ม.ค. เวลา 10:43

วิธีรับมือความแตกต่างคน 3 GEN ในที่ทำงาน

การทำงานในออฟฟิศมักพบเจออยู่ 3 Generation ที่ต้องทำงานร่วมกัน ได้แก่ Gen X, Gen Y และ Gen Z ซึ่ง Gen X เหมือนเป็นรุ่นพี่ใหญ่สุดในองค์กร Gen Y เป็นเหมือนพี่คนกลาง และน้องคนเล็กสุดคือ Gen Z โดยคนเหล่านี้ต้องทำงานร่วมกันอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ จึงต้องหาแนวทางในการเสริมสร้างให้พวกเขาทำงานร่วมกันได้อย่างมีความสุข โดยองค์กรต้องทำความเข้าใจในความแตกต่างของแต่ละ Gen ก่อน เพื่ออุดช่องว่างระหว่างช่วงวัยให้มีความมั่นคงอย่างยั่งยืน ให้ทุกคนมีความสุขกับการทำงานในองค์กร
เรามารู้จักกับ 3 Gen ว่ามีความแตกต่างและวิธีรับมืออย่างไร ?
Gen X พี่ใหญ่สุด เกิดในช่วงปี 2508 – 2523
คนวัยนี้เป็นเหมือนผู้ใหญ่ที่ผ่านเหตุการณ์มาหลากหลายและมีประสบการณ์มากที่สุด อยู่ในยุคที่ได้สัมผัสกับเทคโนโลยีกลุ่มแรก ๆ และผ่านเหตุการณ์สำคัญมาอย่างโชกโชนเลยทีเดียว ไม่ว่าจะเป็นวิกฤตต้มยำกุ้ง หรือแฮมเบอร์เกอร์ รวมทั้งการเกิดขึ้นของคอมพิวเตอร์และอินเทอร์เน็ต หรือเรียกว่าจากโลกยุคอนาล็อกมาเป็นยุคดิจิทัลนั่นเอง และยังเห็นการทำงานอย่างหนักของรุ่นพ่อแม่
จึงทำให้ Gen X ให้ความสำคัญกับการทำงานแบบ Work Life Balance และเน้นเรื่องความรับผิดชอบในหน้าที่อย่างเต็มที่ เป็นคนที่มีระเบียบแบบแผนในการใช้ชีวิต ดังนั้น การทำงานเป็นทีมต้องมีการวางแผนที่ชัดเจน และมีรายละเอียดที่เห็นภาพได้ชัด
ในปัจจุบันที่หลายองค์กรได้มีการทำ Digital Transformation โดยการนำ Project Management Tools เข้ามาจัดการงานบริหารทีมให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ซึ่งคน Gen X อาจจะไม่ค่อยถนัดในการเรียนรู้หรือทำความเข้าใจกับเทคโนโลยียุคใหม่เท่าไหร่นัก จึงอาจต้องมีการเทรนด์หรือสอนการใช้งานให้กับพวกเขา ซึ่งน้อง Gen Z ก็สามารถ Support พี่ใหญ่อย่าง Gen X ได้ เพราะมีความเข้าใจในเทคโนโลยีได้อย่างรวดเร็ว
Gen Y พี่คนกลาง เกิดในช่วงปี 2523 – 2537
เป็น Gen ที่เกิดมาพร้อมกับเทคโนโลยี หรือเกิดในยุคที่เป็นระบบดิจิทัลและมีการใช้เทคโนโลยี เช่น YouTube, Google หรือ iPhone ที่สร้างความเปลี่ยนแปลงในยุคนี้ให้เป็นไปอย่างรวดเร็ว ผู้คนเข้าถึงข้อมูลข่าวสารได้ไวมากขึ้น ส่งผลให้ปรับตัวเร็ว สามารถใช้เทคโนโลยีได้อย่างคล่องแคล่ว และสามารถทำหลายด้าน
คน Gen Y มักจะมีนิสัยที่ชอบความชัดเจน พูดให้เคลียในทุกประเด็นของงาน มุ่งมั่นไปที่ความสำเร็จและความก้าวหน้าในอาชีพ และจะไม่ทนกับการทำงานไปวัน ๆ พร้อมที่จะเปลี่ยนงานได้เสมอ เพราะเป็นช่วงวัยที่ต้องสร้างมั่นคงให้กับครอบครัว จึงคาดหวังในเงินเดือนที่สูง ดังนั้น จึงควรมีสวัสดิการหรือความท้าทายที่รองรับ ให้พวกเขารู้สึกว่าสามารถพัฒนาให้ตัวเองก้าวหน้ากว่าเดิมขึ้นไปอีกได้
Gen Z น้องเล็กสุด เกิดในช่วงปี 2540 ขึ้นไป
เด็กรุ่นใหม่ไฟแรง คน Gen นี้มักมีความคิดที่แปลกใหม่อยู่เสมอ และใช้เทคโนโลยีได้คล่องแคล่ว เพราะตามทันยุคสมัย มีเทรนด์ใหม่ที่เกิดขึ้นในทุก ๆ วัน ทำให้คน Gen Z ปรับตัวเร็ว เรียนรู้ไว ไม่กลัวกับปัญหา และพร้อมรับมือกับสิ่งที่เกิดขึ้น กล้าเสนอมุมมองใหม่ ๆ เพื่อหาแนวทางใหม่แก้ปัญหาได้เร็วขึ้น ไม่ยึดติดกับสิ่งเดิม แม้การดำเนินการแบบเดิมจะดีแล้ว แต่ยังเชื่อว่ายังมีสิ่งใหม่ที่สามารถทำให้ดียิ่งกว่าเดิมได้อีก ซึ่งการทำงานของ Gen Z ที่มีนิสัยคิดเร็ว ทำเร็ว อาจขาดการคิดวิเคราะห์ที่รอบคอบไป
ประเมินและรับ Feedback
การทำงานทุกอย่างย่อมมีปัญหา ในบางครั้งอาจไม่ใช่แค่เรื่องระหว่างวัย อาจเป็นเรื่องเล็กน้อยเกี่ยวกับการทำงานที่พนักงานบางคนไม่มีโอกาสได้บอกให้ใครทราบถึงปัญหาที่ตนเองพบเจอ ซึ่งวิธีที่ดีที่สุดคือการประเมินและรับ Feedback จากพนักงาน เพราะจะทำให้คุณรู้ในสิ่งที่ขาดและสิ่งที่ควรปรับปรุง องค์กรจะได้สนับสนุนเติมเต็มสิ่งที่ต้องการให้กับพนักงานได้อย่างตรงจุด
ดังนั้น การประเมินและรับ Feedback จึงเป็นสิ่งที่มีค่าสำหรับการเติบโตภายในองค์กร หากคุณไม่รู้สิ่งที่คุณสามารถแก้ไขได้แล้วแต่กลับปล่อยละเลยไป ปัญหานั้นอาจส่งผลกระทบต่อองค์กรโดยที่คุณไม่รู้ตัวก็ได้ ฉะนั้น การรับรู้และเติมเต็มจะยิ่งทำให้ทีมเกิดการพัฒนาศักยภาพมากขึ้นอีกด้วย
ในปัจจุบันเกิดรูปแบบการที่หลากหลาย พนักงานแต่ละคนสามารถทำงานที่ไหนก็ได้ ซึ่งไม่ง่ายต่อการบริหารจัดการ แต่ก็ไม่ใช่เรื่องยากเมื่อคุณนำ Project Management Tools เข้ามาช่วยจัดการงานบริหารทีม เพื่อลดความวุ่นวายของขั้นตอนการทำงานที่อาจเยอะจนเกินความจำเป็นให้น้อยลงได้ ด้วย Workflow ที่คุณสามารถมองเห็นภาพของการทำงานในทุกขั้นนตอนได้บนพื้นที่เดียว ประสานงานระหว่างทีมก็ไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป เพราะเป็นระบบ On Cloud ไม่ว่าคุณจะอยู่ที่ไหนก็จัดการงานได้ทุกที่ทุกเวลาได้แบบ Real Time
เพิ่มประสิทธิภาพการทำงานให้เวิร์คและลงตัวยิ่งขึ้นด้วยแพลตฟอร์ม MANAWORK
ทดลองใช้งานฟรี 30 วัน ลงทะเบียนเลย https://manawork.com/
โฆษณา