26 ม.ค. เวลา 00:38 • ธุรกิจ

ยิ่งวัดผลบ่อย ยิ่งพัฒนาเร็ว

วันนี้หมดพลังสุดๆ ทำงานกับทีม Student Engagement เด็กที่มาส่วนใหญ่ในวันนี้เป็นเด็กประถม อายุอยู่ที่ช่วง 10-11 ปี ผมถูกมอบหมายให้อยู่กลุ่มที่สาม เด็กๆ มาจากโรงเรียนที่ชื่อว่า Saint Lukes
หน้าที่ก็เหมือนๆ เดิมคือเราจะพาเด็กไปตามตารางที่เขาจัดไว้ให้ พอถึงห้องก็ส่งต่อให้อาจารย์ของห้องนั้นๆ อธิบายและพาเด็กทำกิจกรรมและเราก็ร่วมกิจกรรมไปกับเด็กๆ ด้วย พอจบงานทุกครั้งทีมของ Student Engagement จะบอกเราว่าอย่าเพิ่งกลับก่อน เขาจะมีการ De-brief
คือตอนเช้าก่อนเริ่มทุกครั้งเขาจะมีการบรีฟ (Brief) ว่าเราต้องทำอะไรบ้าง แล้วพอจบงานก็จะมี de-brief ซึ่งการดีบรีฟของทีมนี้ก็คือการมานั่งรวมกลุ่มกันแล้วสอบถามทุกคนในทีมว่าวันนี้เป็นไงบ้าง เจอปัญหาตรงไหนไหม เจอข้อผิดพลาดตรงไหนไหม มีจุดไหนที่คิดว่าเราจะปรับปรุงได้ไหม
Jita จะเป็นคนถามและรับฟัง แล้วก็มี Natasha ที่คอยจดคอมเมนต์ทุกอย่างอยู่ด้านหลังเรา ผมทำงานกับทีมมหาลัยหลายทีมนะ แต่รู้สึกว่าความเตรียมพร้อม ความเป็นระเบียบทีมนี้ดีกว่าทีมอื่นเยอะเลย
ผมแอบถาม Natasha กับ Jita นิดนึงก่อนกลับว่าทีม SE (Student Engagement) ทำแบบนี้ทุกครั้ง ทุกรอบ หลังจบงานเลยหรอ สมมุติว่าอาทิตย์นี้ทำงาน 5 วันก็ de-breif ทุกวันหลังจบเลยใช่ไหม (นี่เป็นครั้งที่สองที่ผมทำงานกับทีมนี้)
Jita บอกว่าใช่ เพราะการ de-breif ทุกครั้งเขาจะรู้ว่าเขาควรจะปรับปรุงตรงไหนบ้าง มีประโยคนึงที่ Jita พูดมาแล้วผมคิดว่าโดนมากๆ คือ "The often we measured, the faster we progress" (ยิ่งวัดผลบ่อย เรายิ่งพัฒนาได้เร็ว) และจากผลงานของทีม SE เมื่อเทียบกับทีมอื่นๆ ก็พอจะบอกได้แล้วว่าการวัดผลบ่อยมันได้ผลดีแค่ไหน
ติดตาม Blog ผมเพิ่มเติมได้ที่ https://www.jakkrapat.com
โฆษณา