จุดเริ่มต้นสำคัญกับความสำเร็จได้อย่างไร? กับ Central Original Store
หลายวันก่อนผมได้ไปทำธุระย่านบางรัก แล้วเดินเลยไปเจอกับตึกโมเดิร์นแนววินเทจตึกหนึ่งที่ดูน่าสนใจ พอผมเดินเข้าไปดูใกล้ๆ ถึงบ้านแย้วได้รู้ว่าเป็นห้าง Central Original Store ต้องสารภาพก่อนเลยว่าผมเพิ่งจะรู้ว่ามีห้างตั้งอยู่ตรงนี้ ด้วยเหตุนี้ผมจึงถือโอกาสเดินเข้าไปเยี่ยมชมห้างและเอามาแชร์ให้เพื่อนๆ ได้อ่านได้เห็นกัน
โดยพื้นที่อาคารหลังนี้ทางผู้ก่อตั้งเซ็นทรัลได้ซื้อไว้มาตั้งแต่ปี ค.ศ. 1950 ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของห้างเซ็นทรัลบูรพา ก่อนจะขยายสาขามากมายจนกลายเป็นห้างธุรกิจค้าปลีกใหญ่โตอย่างในปัจจุบัน
ด้วยเหตุนี้พื้นที่ในอาคารหลังนี้จึงเป็นเหมือนจุดเริ่มต้นของความยิ่งใหญ่ในอดีตที่สามารถเชื่อมโยงมาถึงในปัจจุบัน ทางห้างเซ็นทรัลจึงอยากนำเสนอต้นกำเนิดความเป็นเซ็นทรัลให้คนยุคนี้ได้รับรู้ โดยได้ให้ วินเซนต์ แวน ดอยเซน ดีไซเนอร์ชาวเบลเยียมมาเป็นคนออกแบบตัวอาคารแนววินเทจ 5 ชั้นที่มีพื้นที่ Shop, Café, Music Bar, Courtyard, Retail Library, Central Space, Event Exhibition และ Restaurant รวมไว้ในตึกเดียวกัน
บันไดเดินขึ้นลงพื้นเป็นหินขัดมันมีราวที่ทำจากคอนกรีตเปลือยตลอดทางขึ้นพร้อมกับซ้อนไฟไว้ ทำให้มีความรู้สึกทั้งความเก่าและความใหม่อยู่รวมกันได้อย่างลงตัว
เมื่อผมเดินเข้ามาที่ชั้น 1 จะเห็นว่าตัวห้างทำเป็นร้านค้าจำหน่ายหนังสือและนิตยสารแนววินเทจ พร้อมกับมีร้านคาเฟ่ที่มีขายขนมจาก Siwilai Café ให้เราสามารถสั่งมานั่งชิลริมกระจกมองดูรถผ่านไปมาได้ เดินมาตรงเคาน์เตอร์จะมีแผ่นพับบอกเล่าถึงรายละเอียดความเป็นมาของห้างเซ็นทรัล ในระหว่างชั้นวางขายหนังสือจะมีตู้ของสะสม ของเก่าที่มีแสดงเรื่องราวในอดีตของห้างเซ็นทรัล ไม่ว่าจะเป็น
ถุงช้อปปิ้งที่ไม่เหมือนใคร ที่เซ็นทรัลเป็นห้างแรกในไทยที่จัดทำถุงช้อปปิ้งที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ด้วยการพิมพ์โลโก้ของห้างใส่ลงบนถุง
ของเล่นหุ่นกระป๋องดีบุก ที่ครั้งหนึ่งในอดีตเป็นของเล่นยอดฮิตในสมัยนั้นที่ปัจจุบันกลายเป็นของสะสมหายาก ซึ่งทางห้างเซ็นทรัลมีจัดจำหน่ายทำให้เป็นสถานที่เด็กๆ ในยุคนั้นต่างอยากมาที่ห้าง
ตัวรางวัลแทนคำขอบคุณแก่ลูกค้า โดยห้างเซ็นทรัลเป็นห้างแรกๆ ในไทยที่มีระบบให้ของรางวัลแก่ลูกค้าที่มีทั้ง บัตรของขวัญ, โหลแก้ว ไปจนถึง รถกะบะซูบารุ
สินค้านำเข้าจากต่างประเทศ โดยห้างเซ็นทรัลเป็นห้างแรกๆ ในไทยที่นำเข้าสินค้าจากอเมริกาและยุโรป เช่น นิตยสาร สินค้าแฟชั่นและเครื่องสำอางยี่ห้อดัง รวมถึงข้าวของเครื่องใช้ในครัวเรือน ผลิตภัณฑ์บำรุงผิว และของชำต่างๆ
มาที่โซนด้านหลังจะเป็น Siwalai Sound Club แจ๊ซบาร์ที่มีเปียนโนตั้งอยู่กลางคอร์ด ล้อมรอบด้วยโต๊ะนั่ง ทางด้านบนเปิดให้แสงสว่างสามารถส่องเข้ามาภายในพร้อมกับตกแต่งด้วยต้นไม้ เป็นการนำธรรมชาติทั้งแสงและความสดชื่นให้คนมาใช้บริการได้สัมผัส
ขึ้นมาที่ชั้น 2 จัดเป็นพื้นที่ Retail Library ที่เป็นทั้งห้องสมุดและจำหน่ายหนังสือหายาก โดยวันที่ผมมามีการจัดแสดง The Paddington Bear ตุ๊กตาหมีของศิลปิน R. John Wright ที่บอกเล่าที่มาที่ไปของน้องหมีสุดประณีตว่ามีจุดเริ่มต้นมาอย่างไร พร้อมกับได้สัมผัสกับตุ๊กตาและหนังสือนิทานอย่างใกล้ชิด
ที่ชั้น 3 เป็นพื้นที่จัดแสดงนิทรรศการ โดยวันที่ผมมาเป็นการจัดแสดง 3 Uncles and The Zoo เป็นการจัดแสดงผลงานเซรามิคของศิลปิน 3 ท่าน คือ อาจารย์บัทม์ แก้วงอก, อาจารย์ธาตรี เมืองแก้ว และอาจารย์กิตติสันต์ ศรีรักษา หรือที่รู้จักกันในนาม 3 ลุง 3 ศิลปินมากพรสวรรค์ที่มีผลงานทั้งในประเทศและต่างประเทศมาหลายสิบปี โดยผลงานที่นำมาจัดแสดงจะเป็นสวนสัตว์เซรามิคที่ผสมผสานความเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวของแต่ละท่าน
ชั้น 4 เป็นพื้นที่สำหรับจัดแสดงนิทรรศการ แต่วันที่ผมไปพื้นที่ยังไม่มีงานมาจัดแสดงใดๆ
ส่วนชั้นบนสุดชั้นที่ 5 จะเป็นร้านอาหารไทย Aksorn โดยเชฟชื่อดัง เดวิด ทอมป์สัน เชฟชาวออสเตรเลีย เชฟผู้เคยคว้าดาวมิชลินจากร้าน Nahm ในไทย และยังได้เปิดร้านอาหารไทยร้านอื่นๆ ในหลายประเทศด้วย ในส่วนของร้าน Aksorn จะเสิร์ฟอาหารแบบเป็นคอร์ส โดยถอดสูตรอาหารมาจากตำราอาหารไทยนับพันเล่มที่เชฟสะสมไว้ โดยไฮไลต์ของร้านคือการนำสูตรอาหารที่ตีพิมพ์ในช่วงระหว่างยุค 50-70 มาเป็นพระเอกของร้าน ทำให้เกิดเป็นประสบการณ์การทานอาหารไทยแบบใหม่ที่เต็มไปด้วยเรื่องราวย้อนอดีตในสมัยก่อน
ทั้งหมดนี้คือเอกลักษณ์ที่บ่งบอกตัวตนของห้างเซ็นทรัล ซึ่งหากใครมาแถวย่านบางรักแล้วมีเวลา ลองหาเวลามาแวะ Central Original Store เพื่อสัมผัสบรรยากาศในอดีตที่เชื่อมโยงความเปลี่ยนแปลงในปัจจุบัน พร้อมร้อยเรียงออกมาเป็นเรื่องราวเฉพาะตัว แล้วจะเข้าใจว่าจุดเริ่มต้นสำคัญต่อความสำเร็จได้อย่างไรครับ
- 15
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
