27 ม.ค. เวลา 01:30 • ท่องเที่ยว
ภูลมโล

หุบเขาสีชมพู : ภูลมโล

ช่วงประมาณเดือนมกราคมของทุกปี จะมีปรากฎการณ์หุบเขาสีชมพูเกิดขึ้นที่ภูลมโล ซึ่งเกิดจากดอกนางพญาเสือโคร่งบนภูนับพันไร่พร้อมใจกันบานสะพรั่งเต็มไปหมด  จึงอยากพาคุณแม่ไปชมบรรยากาศจริงด้วยตาสักครั้ง จึงเริ่มหาข้อมูลว่าภูลมโลนั้นอยู่ตรงไหนของประเทศไทย?
หุบเขาสีชมพู Cr ภาพจาก google
ภูลมโล ตั้งอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า เป็นรอยต่อของสามจังหวัด คือ จังหวัดพิษณุโลก จังหวัดเพชรบูรณ์ และจังหวัดเลย เป็นสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่สามารถชมความงามของทิวเขาและดอกนางพญาเสือโคร่ง ซึ่งจะมีกระจายให้ชมความงามอยู่หลายจุด ตามหุบเขาบนพื้นที่นับพันไร่
ดอกนางพญาเสือโคร่ง
การขึ้นไปชมความงามของดอกนางพญาเสือโคร่งนั้นสามารถขึ้นได้ 3 จุดด้วยกัน
1. อุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า
2. บ้านร่องกล้า จ.พิษณุโลก
3. ต.กกสะท้อน อ.ด่านซ้าย จ.เลย
โดยเส้นทางที่ใกล้ที่สุดคือขึ้นรถจากบ้านร่องกล้า จ.พิษณุโลก  ใช้เวลาจากบ้านร่องกล้าไปถึงภูลมโลประมาณ 20 นาที
เส้นทางขึ้นภูลมโล Cr. ภาพจาก google
เมื่อถึงช่วงที่ดอกนางพญาเสือโคร่งจะเริ่มบาน ประมาณปลายเดือนธันวาคมทางอุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้าจะออกประกาศห้ามนำยานพาหนะที่อุทยานไม่ได้อนุญาตขึ้นไปบนภูลมโล  ดังนั้นผู้ที่อยากขึ้นภูไปชมความงามของดอกนางพญาเสือโคร่งจึงต้องขึ้นไปกับรถของชมรมซึ่งเป็นชาวบ้านในพื้นที่เท่านั้น
ดอกนางพญาเสือโคร่ง
ซึ่งนับว่าเป็นการบริหารจัดการที่ดีเพราะจะได้ควบคุมจำนวนรถยนต์ที่จะขึ้นไปบนภูไม่ให้มีจำนวนมากจนเกินไป  อีกทั้งเส้นทางบางช่วงมีความลาดชัน และขรุขระ อาจเกิดอันตรายกับผู้ขับขี่ที่ไม่ชินเส้นทางได้  และยังเป็นการกระจายรายได้ให้กับชาวบ้านในพื้นที่อีกด้วย
เส้นทางขึ้นภูลมโลกับรถชาวบ้านในพื้นที่ Cr ภาพจาก google
เมื่อหาข้อมูลได้แล้วเราตัดสินใจเลือกขึ้นจากบ้านร่องกล้า จึงหาข้อมูลเรื่องที่พักในบ้านร่องกล้า  ซึ่งเป็นโฮมสเตย์ของชาวบ้านในพื้นที่  แต่ความยากคือ ที่พักในบ้านร่องกล้านั้นมีจำนวนไม่มาก  ถ้ารอให้ดอกนางพญาเสือโคร่งบานแล้วค่อยจองที่พัก  ที่พักทุกที่จะเต็มหมด จึงจำเป็นต้องจองล่วงหน้าตั้งแต่ประมาณเดือนพฤศจิกายน  ซึ่งยังไม่รู้ว่าดอกไม้จะบานวันไหน แต่ต้องเลือกวันเข้าพักล่วงหน้าเลย  ถือเป็นความท้าทายอย่างมากค่ะ
โฮมสเตย์ที่พักในบ้านร่องกล้า
ปี 2566 เราเลือกไปวันที่ 5 มค 2566  ซึ่งดอกไม้ยังไม่บาน  บรรยากาศเหมือนฤดูใบไม้ร่วงเลยค่ะ ตอนเช้ามีหมอกด้วยก็สวยไปอีกแบบ  แต่ก็ตั้งในว่าอยากพาแม่มาเห็นในช่วงดอกไม้บานสักครั้งนะคะ คงจะสวยมากๆเลยค่ะ
บรรยากาศวันที่ 5 มกราคม 2565 ก่อนดอกไม้จะบาน
สำหรับปีนี้ (2567) เราตัดสินใจเลือกไปพักวันที่ 14 มค 2567  เพราะดูจากสถิติการบานของปี 2566  บานช่วงกลางเดือนมกราคม  เราติดต่อจองที่พักตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน  2566 หลังจากจองเสร็จประมาณ 4-5 วัน  แม่มีนัดไปพบหมอเพิ่มในช่วงวันที่ 14-15 มกราคม 2567  เราจึงโทรขอเลื่อนวันกับทางที่พักมาเป็นวันที่ 21-22 มกราคม 2567 แทน ซึ่งโชคดีที่พักยังไม่เต็ม จึงสามารถเลื่อนวันเข้าพักได้ค่ะ
บรรยากาศในบ้านร่องกล้า
เมื่อถึงเดือนธันวาคม 2566  เรากับแม่เฝ้าติดตามการอัพเดตการเปลี่ยนแปลงของต้นนางพญาเสือโคร่งจากเพจภูลมโล, ซากุระเมืองไทย  และเพจอุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า  ซึ่งจะทำการถ่ายรูปความเปลี่ยนแปลงของต้นไม้ให้เราแทบทุกวัน ตั้งแต่ใบเริ่มร่วง จนใบร่วงหมดทั้งต้น  ถึงเริ่มมีตุ่มดอก พอเริ่มมีดอกก็ถ่ายให้เห็นเกือบทุกวันว่าแต่ละวันบานมากขึ้นแค่ไหน  ทำให้คนที่จะกำลังจะตัดสินใจว่าจะไปดูมีข้อมูลว่าควรจะไปวันไหนค่ะ
เพจอุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า
สำหรับคนที่ไม่ได้จองที่พักล่วงหน้า ในบ้านร่องกล้าก็มีที่กางเต็นท์ไว้ให้บริการ  รวมถึงสามารถไปกางเต็นท์ในอุทยานแห่งชาติภูหินร้องกล้าก็ได้เช่นกันค่ะ
ที่พักในบ้านร่องกล้า
ใครที่พักในบ้านร่องกล้าแนะนำว่าให้เดินเล่นให้หมู่บ้านนะคะ มีอาหารขายสามารถซื้อทานได้ทั้งเช้าและเย็น ในบรรยากาศที่ดี มีดอกพญาเสือโคร่งให้ชมไประหว่างการทานด้วยค่ะ
อาหารเช้ากับวิวแสนสวยในบ้านร่องกล้า
เราติดตามการบานของดอกนางพญาเสือโคร่งแบบลุ้นมาก ว่าจะบานตอนไหน จะบานก่อนที่เราจะไปมั้ย  ตอนเราไปจะร่วงหมดแล้วหรือยัง  จนกลางเดือนมกราคม 2567 ก็ยังไม่บาน ทีนี้ลุ้นเลยว่าจะบานช่วงที่เราไปพอดีมั้ย  สุดท้ายโชคดีช่วงที่เราไปเป็นช่วงที่บานเต็มที่พอดี  ปีนี้เลยได้ชมความงามของดอกนางพญาเสือโคร่งเต็มภูสมใจ
ดอกพญาเสือโคร่งบานสะพรั่งบนภูลมโล
วันที่ 21 มกราคม 2567 เราเลือกขึ้นไปบนภูลมโลช่วงเย็น  เพราะดูรีวิวแนะนำว่าช่วงเย็นคนจะน้อยกว่า  เพราะส่วนใหญ่คนนิยมขึ้นภูลมโลช่วงเช้ามืดเพื่อจะได้ไปดูพระอาทิตย์ขึ้น  เป็นแสงแรกของภูลมโลด้วย  ส่วนเราเคยขึ้นช่วงเช้ามาแล้วเมื่อปีที่แล้ว  เลยตัดสินใจว่าขึ้นช่วงเย็นเพื่อเลี่ยงคนเยอะ  และจะได้ถ่ายรูปกับแสงเย็นด้วยค่ะ
จุดชมพระอาทิตย์ขึ้น แสงแรกบนภูลมโล
เราเหมารถขึ้นไปส่วนตัวโดยรถจะมารับที่ที่พักในบ้านร่องกล้า ตามเวลาที่นัดหมาย  คือช่วง 15.00 น.  ใช้เวลาประมาณ 20 นาทีก็จะถึงจุดที่ 1  ซึ่งรถจะพาจอดแวะทั้งหมด 4 จุด ตามที่กำหนดไว้  โดยในแต่ละจุดเราสามารถถ่ายรูปได้ตามความพอใจ  โดยใช้เวลารวมทั้งหมดตั้งแต่ขึ้นลงจนจากภูประมาณ 3-4 ชม ราคารถ 1000 บาท ค่ะ
ดอกพญาเสือโคร่งบานบนภูลมโล
พวกเราเดินถ่ายรูปตามจุดต่างๆ หามุมถ่ายกับแม่สนุกสนานมาก  บรรยากาศดี  อากาศเย็นสบาย อุณหภูมิประมาณ 18-19 องศา  มีลมอ่อนๆ แดดไม่ร้อนเพราะเป็นช่วงเย็น  จึงทำให้เดินถ่ายรูปเล่นได้อย่างมีความสุขมากๆ ได้พาแม่มาเห็นหุบเขาสีชมพูสมใจ  แม่ชอบมากเลยค่ะ
บรรยากาศบนภูลมโลช่วงประมาณ 16.00
วิวจากจุดชมวิวของบ้านร่องกล้าที่สามารถเห็นบ้านร่องกล้าในมุมสูง แนะนำว่าใครมาพักที่บ้านร่องกล้าควรขึ้นไปชมมากๆค่ะ จะได้เห็นบรรยากาศน่ารักๆ สมกับที่ได้ฉายาว่าหมู่บ้านญี่ปุ่น หรือ ชิราคาวาโกะเมืองไทยจริงๆค่ะ เราไปแวะหลังจากลงมาจากภูลมโลค่ะ
วิวบ้านร่องกล้ามุมสูงบริเวณจุดชมวิว
สำหรับใครที่ยังไม่เคยมา  แนะนำว่าควรมาเห็นด้วยตาตัวเองสักครั้งค่ะ  เมืองไทยยังมีแหล่งท่องเที่ยวที่สวยงามซ่อนตัวอยู่อีกมากมาย  การเที่ยวชมความงามของธรรมชาติ  สอนให้เราได้เห็นว่ามีความสวยงามซ่อนอยู่ภายใต้ความไม่สมบูรณ์แบบเสมอ  อย่างปีที่แล้วเรามาเร็วเกินไปดอกนางพญาเสือโคร่งยังไม่บาน  เราก็ได้ชมบรรยากาศที่เป็นฤดูใบไม้ร่วงและมีหมอกด้วย  ก็สวยไปอีกแบบ  มาปีนี้ได้เห็นดอกบานเต็มที่ก็เป็นความสวยงามอีกแบบค่ะ
จุดชมพระอาทิตย์ขึ้นบนภูลมโล
น้องหมาแสนเชื่องในบ้านร่องกล้า
ขอให้ทุกคนมีความสุขกับการท่องเที่ยว และร่วมเดินทางไปกับเราในการท่องเที่ยวครั้งหน้าด้วยกันนะคะ 🙂
โฆษณา