28 ม.ค. เวลา 06:25 • ความคิดเห็น
เมื่อสมัย ฝึกหัด ออกเรือ เจอคลื่นลมแรง พวกเราไม่เคยชินกัน มันก็เมาคลื่นเกาะราวกราบเรือ แข่งกันอ๊วก ..กินข้าวเข้าไปก็อ๊วก มีอยู่คนหนึ่งมันอ๊วกเสียจน ไม่อะไรจะอ๊วก ..มันก็ออกมาเป็นสีเขียวสีเหลือง อ้อ..อ๊วกเขียวอ๊วกเหลืองเป็นอย่างนี้เอง พวกเราก็ไปข่วยประคับแระคอง ลูบหลังให้มันอ๊วก ..อ๊วกแล้วอ๊วกอีก ร้องไห้ฟูมฟาย ..แม่จ๋าพ่อจ๋า ช่วยลูกด้วย .มันร้องไห้ไป ฟูมฟายไป เรียกพ่อจ๋าแม่จ๋า
ส่วนตัวเรา ..ก็เคย..ครั้งนี้ดูไม่รอดแน่เลย เรือมันจะล่มเหมือนไทนานิคเสียให้ได้ คลื่นซัดหลายทิศทาง เสียงตัวเรือมันบิดคำราม ก็มองดูข้าวของในเรือที่วิ่งไปมาในห้อง ..ข้าวของมันกระโดดออกมาจากที่เก็บ ..วิ่งกับพื้นสนุกสนานของเค้า มีคลื่นมาลูกหนึ่ง ..ซัดกดกราบเรือ แล้วก็ขย่มๆ จะให้กราบเรือมันจม อากาศก็หนาว ..ครั้งนั้นแหละ ที่นึกว่า ตายแน่ๆ ..ไปไหนไม่ได้ .ได้อารมณ์มันก็ นึกออกมา คงออกมาจาดจิตใต้สำนึก พ่อแก้วแม่แก้ว ช่วยลูกด้วย ลูกหมดหนทางแล้ว..
นั่นก็เป็นเรื่ิองหนึ่งที่ว่าคับขันหมดหนทาง ที่จะรอดมีชีวิต ..แล้วเรือล่มจริงๆ มันไม่มีโอกาสรอดเลย ไม่มีทางหนีรอดเลย ต้องจมไปกับเรือลูกเดียว ต่อให้มีกายดี มือตีนดี ดีไปหมด ..มันจะไม่เหลืออะไรดี ดีๆให้ใช้อีกเลย .ส่วนเวลาอื่น ก็ไปคิดถึงคนนั้นคนนี้ มันไม่เหมือนคราวที่คับขัน ..หมดโอกาสรอดมีชีวิต
โฆษณา