ทำไม “ซาอุดิอาระเบีย” ไม่ออกโรงโจมตีกลุ่มฮูตี
จริงแล้วคู่นี้ “ซาอุดิอาระเบีย” กับ “กลุ่มฮูตี” ไม่ถูกกันและตีกันมานานแล้ว ก่อนหน้านี้กลุ่มกบฏฮูตีโค่นรัฐบาลกลางเยเมนที่มีซาอุดิอาระเบียหนุนหลังหาว่าคอร์รัปชัน น่าจะทราบกันดีอยู่แล้วกลุ่มฮูตีมีอิหร่านหนุนหลัง
โดยหลังจากที่ “ซาอุดิอาระเบีย-อิหร่าน” ตัวแทนใหญ่ของมุสลิมสองนิกายสามารถจับมือญาติดีกันได้แล้วด้วยความพยายามเป็นตัวกลางเจรจาของ “จีน” เนื่องด้วยเพราะต้องการสร้างเส้นทางสายไหมยุคใหม่ (OBOR) เชื่อมโยงจีนตะวันออกเข้ากับโลกตะวันตก ดังนั้นตะวันออกกลางจึงเป็นยุทธศาสตร์ที่สำคัญของจีนที่ต้องการสร้างความสงบในภูมิภาคนั่นเอง
ดังนั้นเมื่อซาอุฯ กับ อิหร่าน จับมือกันได้แล้ว เมื่อช่วงเมษายนปีก่อน (2023) ได้มีการจัดเจรจาสันติภาพระหว่างกันโดยมีโอมานเป็นตัวกลาง มียูเอ็นเป็นโต้โผ หวังที่จะหยุดยิงหากัน โดยก่อนหน้านั้นทั้งคู่ก็มีการแลกเปลี่ยนตัวประกันและนักโทษกัน แต่ต้องเข้าใจก่อนว่าในเยเมนเองมีหลายกลุ่มติดอาวุธ (ไม่ใช่แค่กลุ่มฮูตีอย่างเดียว) ที่ต่างมีสองหัวใหญ่อย่างซาอุฯ กับ อิหร่าน ต่างฝ่ายต่างสนับสนุนกลุ่มของตัวเอง
เครดิตภาพ: Al Mayadeen
Foreign Policy (FP) เผยแพร่บทความเกี่ยวกับหัวข้อในบทความนี้ ซาอุดิอาระเบียน่าจะพอใจที่อเมริกาและอังกฤษร่วมด้วยช่วยกันโจมตีกลุ่มฮูตีที่ไปขวางเส้นทางเดินเรือในทะเลแดง เมื่อพิจารณาถึงความขัดแย้งระหว่างราชอาณาจักรกับกลุ่มกบฏในฮูตีที่ยืดเยื้อกันมานานหลายปีก่อนหน้านี้
อย่างไรก็ตามเวลาเปลี่ยนคนเปลี่ยน และขณะนี้ซาอุฯ กำลังยุ่งอยู่กับ “การเจรจาสันติภาพที่ละเอียดอ่อนกับผู้นำฮูตี เพื่อต้องการแยกตัวออกจากเยเมน ไม่เข้าไปวุ่นวายทางการเมืองภายในเยเมน และหวังว่าจะสร้างความมั่นคงปลอดจากการโจมตีข้ามพรมแดนเข้ามาอย่างถาวร”
“ริยาดไม่มีความปรารถนาที่จะลากตัวเองเข้าสู่ความขัดแย้งที่ยากจะแก้ไขกับกลุ่มฮูตีอีกครั้ง ราชอาณาจักรได้เรียนรู้จากการติดต่อพูดคุยกับกลุ่มกบฏในอดีต และตระหนักดีว่าราชอาณาจักรแห่งนี้มีความเสี่ยงที่จะพบว่าตนตกอยู่ในแนวยิงโดยตรง” นอกจากนี้การยกระดับทางการทูตเมื่อเร็วนี้ ทำให้ซาอุดิอาระเบียมีแรงจูงใจมากขึ้นในการสรุปข้อตกลงกับกลุ่มฮูตีโดยไว - FP อธิบาย
เครดิตภาพ: AFP via Getty Images
เมื่ออิทธิพลความได้เปรียบในโลกลดลงหลายประเทศในโลกก็เริ่มดำเนินการนโยบายอย่างรอบคอบและแยบยลมากขึ้น โดยคำนึงถึงผลประโยชน์ของชาติของตนเองเป็นหลัก และซาอุดิอาระเบียก็เป็นหนึ่งในกลุ่มแรกๆ ยกตัวอย่างเช่น พฤติกรรมใน OPEC+
ริยาดเคยมีประสบการณ์อันขมขื่นที่มีต่ออเมริกา ระบบการป้องกันภัยทางอากาศของอเมริกาได้รับการพิสูจน์ว่าไม่สามารถรับมือต่อการโจมตีโดยโดรนและขีปนาวุธของกลุ่มฮูตีต่อคลังน้ำมันของบริษัท Aramco ของซาอุดิอาระเบียเมื่อปี 2019 ทำให้ซาอุดิอาระเบียถูกบังคับให้ลดการผลิตน้ำมันลงครึ่งหนึ่ง แม้ว่าจะเป็นการชั่วคราวก็ตาม โดยเหตุการณ์ครั้งนั้นไม่มีปฏิกิริยาใดๆ จากทางอเมริกาเลย
- ■ซาอุดิอาระเบียมีเหตุผลทางเศรษฐกิจที่จะไม่ขัดแย้งกับกลุ่มฮูตี
Bloomberg รายงานว่าบริษัทน้ำมันรายใหญ่ของโลกอย่าง Saudi Aramco (ของรัฐ) ยังคงจัดส่งน้ำมันเชื้อเพลิงผ่านทางตอนใต้ของทะเลแดง ซึ่งกลุ่มฮูตีได้ปิดกั้นการเดินเรือเป็นเวลาหลายเดือนแล้วเพื่อโต้ตอบต่ออิสราเอลที่โจมตีในฉนวนกาซา และหัวหน้าแผนกการกลั่นและการค้าน้ำมันของบริษัทดังกล่าวยังให้สัมภาษณ์กับ Bloomberg ว่าความเสี่ยงที่เกิดขึ้นนั้น “สามารถจัดการรับมือได้”
ในความเป็นจริงช่วงครึ่งแรกของเดือนมกราคมนี้ Saudi Aramco ส่งน้ำมันในปริมาณเท่าเดิมจากท่าเรือในทะเลแดงที่ตอนเหนือของเมืองท่ายานบูไปยังยุโรปเมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้านี้
กล่าวอีกนัยหนึ่งการไม่แทรกแซงของริยาดในความขัดแย้งที่ทางตะวันตกมีกับกลุ่มฮูตีนั้นถูกกำหนดโดยเหตุผลทางเศรษฐกิจที่น่าสนใจ เป็นเรื่องยากสำหรับซาอุฯ ที่จะหลีกเลี่ยงเส้นทางเดินเรือผ่านทะเลแดง เนื่องจากมีการสร้างโครงสร้างพื้นฐานสำคัญอย่างท่อส่งและโรงกลั่นเพื่อรองรับเส้นทางเดินเรือนี้ (กลุ่มฮูตีเคยโจมตีท่อส่งน้ำมันที่เชื่อมสองฝั่งทะเล “อ่าวเปอร์เซียทางตะวันออก-ทะเลแดงทางฝั่งตะวันตก” ของซาอุดิอาระเบียมาก่อน)
เครดิตภาพ: geopoliticalfutures.com
(สรุป) ไม่มีจุดประสงค์อันใดที่ซาอุดิอาระเบียจะเข้าไปแทรกแซงร่วมโจมตีกลุ่มฮูตีเพื่อผลประโยชน์ของอิสราเอลและสหรัฐอเมริกา ยิ่งกว่านั้นคือการโดดเข้าไปมีส่วนร่วมในสงครามที่อาจเกิดขึ้นระหว่างเทลอาวีฟกับวอชิงตันต่อเตหะราน
ในทางตรงกันข้ามซาอุฯ ตอนนี้ยืนอยู่ในตำแหน่งที่จะอยากยุติความขัดแย้งในเยเมนผ่านกระบวนการเจรจาทางการทูต ตลอดจนอยู่ในตำแหน่งระหว่างการพัฒนาความสัมพันธ์กับอิหร่านอีกด้วย
แน่นอนว่าปัจจัยทางการเมืองและศาสนามีความสำคัญมากในเรื่องสงครามและสันติภาพ แต่ซาอุดิอาระเบียเข้าใจถึงความสำคัญสูงสุดและผลกระทบจากความขัดแย้งที่อาจเกิดขึ้นทางเศรษฐกิจกับตนเอง พวกเขายังต้องใช้เส้นทางเดินเรือขนส่งน้ำมันผ่านทะเลแดงอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
เรียบเรียงโดย Right Style
28th Jan 2024
- ■แหล่งข่าวและข้อมูลอ้างอิง:
<เครดิตภาพปก: Giuseppe Cacace / AFP via Getty Images>
- 16
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
