28 ม.ค. เวลา 15:04 • ความคิดเห็น
ชีวิตของคนเรา ในตัวตนของเรา มันมีคนอยู่สองคน คนดีกับคนไม่ดี พออารมณ์ไม่ดี มันก็เป็นทิฐิความคิด ท่าทางแบบคนไม่ดี พอเราเอาอารมณ์ดี .มา มันก็เป็นคนดี พูดจาดี ..แต่เราก็ไม่ค่อนยทันได้สังเกตอารมณ์ของตัวเอง ที่มันสลับกัน แสดง ..คราวนี้ ..อะไรที่ขับเคลื่อนชีวิต มันก็เรื่องราวของอารมณ์ บ้างก็ว่า อย่าใช้อารมณ์ .อารมณ์อะไร ที่ไม่ควรเอามาใช้ ..อารมณ์โกรธโมโห อะไรต่างๆ ที่ไม่ควรนำมาใช้
..ถ้าเป็นนักเลงคนอันธพาล เค้าก็ใช้อารมณ์ แบบคนอันธพาล หงุดหงิด โมโห..ง่าย แล้วใครมันจะเข้าใกล้ได้ เค้าจึงมักพูดกัน ให้ใจเย็นๆ บางคนเตือนว่า ให้ทำใจเย็น .มันกับฟาดงวงฟาดหาง หนักกว่าเดิม แล้วใครล่ะที่เสียหาย ..เพราะฉะนั้น เมื่อเรารู้ว่าสิ่งนั้นมันไม่ดี เราเท่าทันอารมณ์ เหมืิอนจิตเรามันมีเซ็นเซอร์ เรื่องอารมณ์
อารมณ์มันเค้ามา เราก็หยุดยั้งอารมณ์นั้นไป บางครั้งก็หยุดพูด เพราะอารมณ์ มันแอบเข้ามาแล้ว ..เราก็ต้องหลบ .หลบก็ต้องนำกายหลบไปด้วย ไม่ได้นั่งหลับหูหลับตาเพื่อจะหลบ จิตกรู้จักระมัดระวังอารมณ์ของตัวเอง เพราะสถานการณ์เราทำแบบนั้นไม่ได้ ก็อยู่เฉย ..จนกว่าอารมณ์ที่เข้ามานั้นสงบ เราฝึกหัดดูแลจิตของตัวเราเอง ชีวิตมันก็เป็นปกติ ทำมาหากินปกติ
แต่ว่า ..เมื่อเราปฏิบัติ เราก็ต่องวางอารมณ์นั้น อารมณ์อะไรก็วางให้หมด เราก็ฝึกแบบนั้นในการปฏิบัติ ขนาดเมื่ออยู่ระหว่างปฏิบัติ ก็ยังวางอารมณ์ไม่ได้เลย มันอยู่กับอารมณ์ตลอดเวลา
จิตของเราเป็นจิตกามาวจร มีอารมณ์จร ..พอใจกเป็นอารมณ์ ไม่พอใจก็เป็นอารมณ์ ..ที่จรมา ..เดี๋ยวเรื่ิองเรื่องนี้ จรมาเป็นอารมณ์ ..ในเรือนกาย ..แล้วจะถ้าหาเหตุผล ว่าด้วยเรื่องราวอะไร .ที่จรมา ..อารมณ์เค้าก็ให้เหตุผลต่างๆ . เหตุผลที่มาจากอารมณ์นึกคิด
โฆษณา