16 ก.พ. เวลา 12:00 • ท่องเที่ยว
เคียวโตะ

🇯🇵 Kyoto-Osaka 17พิกัด ปล่อยจอย เที่ยวกับทัวร์ครั้งแรกในชีวิต

𝗞𝘆𝗼𝘁𝗼-𝗢𝘀𝗮𝗸𝗮 5วัน3คืน ☃️ 🇯🇵
เริ่มต้นทริปแรกปีนี้ของเราด้วย หิมะฟูๆ ที่ญี่ปุ่น เราเดินทางไปช่วงกลางมค.ที่ผ่านมา เข้าสู่ฤดูหนาวติดลบ หิมะและฝนพร้อมใจโปรยปราย พร้อมเปิดประสบการณ์ใหม่ ลองปล่อยจอย ปล่อยใจไปกับทัวร์ครั้งแรก เราว่าก็ชิลไปอีกแบบนะ ไม่ต้องคิดแพลน ไม่ต้องจองโรงแรม และอาหารการกินครบ นั่งรถแวะเป็นจุดๆ บางสถานที่ข้ามจังหวัดก็มี ข้อจำกัดคือเวลา ที่ต้องมูฟเร็วสักหน่อย
22
ซึ่งเราได้รวบรวมสถานที่หลากหลายในทริปนี้ เพื่อส่งต่อประสบการณ์ความสุขให้เพื่อนๆ ได้เอ็นจอยไปด้วยกัน เพราะ... “ ทุกเดินทางคือการทดลอง “
3
☃️ รีวิวทริปญี่ปุ่น เราไปไหนกันบ้าง ?
17 พิกัด Kyoto - Osaka :
1.Shubuyo ชาบูร้อนๆ มื้อแรกของเราที่ญี่ปุ่น
2.Kinkakuji Temple ชมวัดคินคะคุจิหรือวัดทอง
3.Kifune Shrine บูชาเทพเจ้าแห่งน้ำและฝน
4.Nabana no sato illumination งานประดับไฟแสงสี
5.Cypress Garden Hotel โรงแรมวิวสวยย่านนาโงยะ
6.Shirakawa-go ชมหมู่บ้านมรดกโลก
7.Shokusai - ooji ทานอาหารชุดญี่ปุ่น เมืองทาคายาม่า
8.Takayama Old Town ชมย่านเมืองเก่าทากายาม่า
9.AEON Mall ช้อปปิ้งแบรนด์ดังญี่ปุ่น
3
10.Hashima Daily Hotel โรงแรมห้องน่ารัก ย่านฮาชิมะ
11.Gransnow Okuibuki แดนสวรรค์สำหรับคนเล่นสกี
12.Stamina Taro ทานปิ้งย่างยากินุกุ เนื้อละลายในปาก
13.Kyoto Toni Toni กิจกรรมทำถุงหอม แหล่งซื้อของฝาก
14.Heian Shrine ศาลเจ้าเฮอัน ศิลปะจีน ญี่ปุ่นที่ลงตัว
15.Heian-Jingu Shrine Grand Torii
เสาโทโรอิสีแดงขนาดมหึมาใจกลางเมือง
16.Shinsaibashi-Suji แหล่งช้อปปิ้งใจกลางเมืองโอซาก้า
17.Osaka Castle Hotel โรงแรมใกล้ปราสาทเก่าแก่และวิวเมืองโอซาก้า
3
เตรียมตัวออกเดินทางที่สนามบินสุวรรณภูมิ
𝐃𝐀𝐘 𝟏
📌 สนามบินสุวรรณภูมิ
คว้าพาสปอร์ตคู่ใจเตรียมรับประสบการณ์ใหม่ เริ่มจากเดินทางไปยังจุดนัดหมายที่ "สนามบินสุวรรณภูมิ" พร้อมบินไปเที่ยวด้วยกันเป็นหมู่คณะที่เกียวโต โอซาก้า
Best International คอยต้อนรับที่จุดเช็คอิน ทริปนี้บินกับสายการบิน Air Asia X เวลาไทย 00:25น. ถึงโอซาก้าเวลาญี่ปุ่น 07:50 น. (ซึ่งเวลาญี่ปุ่นจะเร็วกว่าไทย 2 ชม.)
4
สนามบินคันไซ
𝐃𝐀𝐘 𝟐
📌 สนามบินคันไซ ประเทศญี่ปุ่น
ถึงปุ๊บออกจากเครื่องบินก็สัมผัสถึงอากาศเย็นๆ ฟิลลิ่งญี่ปุ่นเริ่มมาแล้วล่ะ หลังจากรับสัมภาระผ่านจุดตรวจเช็คต่างๆ เรียบร้อย อินเตอร์เน็ตโรมมิ่งของเราก็เริ่มใช้งานได้ทันใจและไลน์กลุ่มของสมาชิกในทัวร์ก็เด้งมาปั๊บ โดยเจอกันที่จุดหมายที่เจ้านาฬิกา Seiko ทางด้านเหนือ เพื่อรอรถบัสที่จะอยู่กับพวกเราไปตลอดทริปนี้
ก่อนอื่นใดขอแนะนำไกด์ผู้เชี่ยญชาญเรื่องช้อป กิน เที่ยว ในทริปญี่ปุ่นของเรา "พี่แอ๊ด" ไกด์คนไทยที่สื่อสารภาษาญี่ปุ่นได้เป็นอย่างดี เป็นคนอารมณ์ขัน สนุกสนาน ต้อนรับลูกทัวร์อย่างเป็นกันเองเหมือนพาญาติมาเที่ยวเลยทีเดียว
ขนาดรถบัสมาเลทไป 40 นาที พี่แอ๊ดก็ยังควบคุมสถานการณ์เป็นอย่างดี ให้พวกเราไปนั่งจิบกาแฟ ทานมื้อทาน และจัดแจงช่วยสั่งอาหาร เครื่องดื่มให้แก่พวกเราและสำรองเงินจ่ายไปโดยที่พวกเราไม่ต้องควักกระเป๋ากันเลย โดยค่าอาหารทั้งหมดเป็นค่าชดเชยการล่าช้าจากทางบริษัทรถบัส ถือเป็นความซื่อตรงของประเทศญี่ปุ่นเขาจริงๆ
📌 01 - Shubuyo
ทานชาบูหมูซุปร้อนๆ ที่ร้าน Shubuyo นั่งรถบัสชมบรรยากาศเมืองที่มีสายฝนโปรยปราย และต้อนรับมื้อแรกด้วยบุฟเฟ่ต์ชาบูหมูเน้นๆ ซึ่งเป็นร้านดังที่มีสาขาอยู่ทั่วญี่ปุ่นเลย เอาเป็นว่าจิตนาการเหมือน MK ที่ไทยเราเลย รสชาตอร่อยใช้ได้เลย แต่ตัวซอสมีเยอะแยะมากมายไปหมด ถ้ารู้จักวิธีทานน่าจะอร่อยเหาะเป็นทั่วตัวเลย
2
รายละเอียดเพิ่มเติม :
🎏 Shubuyo (Minami Ward)
⏰ เวลาเปิด-ปิด : 11:00 - 22:30 น.
เว็บไซต์: https://www.skylark.co.jp/en/syabuyo/
1
วัดคินคะคุจิหรือวัดทอง
📌 02 – Kinkakuji Temple วัดคินคะคุจิหรือวัดทอง
เวลา 14:00น. ท่ามกลางสายฝนโปรยปราย พวกเราก็มายังวัดคินคะคุจิ ก่อนเข้าวัดก็แวะซื้อร่มด้านหน้า ¥500 (120บาท) มีค่าเข้าชมวัด ¥500 (120บาท) ข้อดีของการมากับทัวร์คือเขาซื้อตั๋วให้เราเสร็จสรรพ เราแค่เดินชมวัดได้ตามสบาย แต่ข้อจำกัดก็คือเวลานั่นเอง ซึ่งนัดหนายเวลาขึ้นรถบัสตอน 14:40น. พอมีเวลาเดินชมบรรยากาศได้พอหอมปากหอมคอ
วัดคินคะคุจิ ที่คนส่วนใหญ่จะเรียกว่า "วัดทอง" นั่นเอง ก็เพราะว่าอาคารหลักของวัดนี้มีสีทองเหลืองอร่ามและตั้งโดดเด่นเป็นสง่าอยู่ท่ามกลางน้ำ ภาพสะท้อนของวัดสีทองบนผิวน้ำนั้นเป็นภาพที่งดงามและดูนิ่งสงบมากๆ ท่ามกลางเหล่านักท่องเที่ยวนับร้อยนับพันที่ก้าวเข้ามาเห็นด้วยตาตัวเองสักครั้ง
รายละเอียดเพิ่มเติม :
🎏 Kinkakuji Temple
⏰ เวลาเปิด-ปิด : 09:00 - 17:00น.
ค่าเข้าชม : ผู้ใหญ่ ¥500 (120บาท)
นักเรียนมัธยมศึกษาตอนต้นและประถม ¥300 (72บาท)
1
Kifune Shrine ศาลเจ้าคิฟุเนะ
📌 03 - Kifune Shrine ศาลเจ้าคิฟุเนะ
เวลา 15:30น. สายฝนยังจะโปรยปราย พร้อมลมหนาวโชยมา แต่ก็ไม่สามารถหยุดยั้งการเดินทางของพวกเราได้ คุณลุงคนขับและพี่แอ็ดได้ใช้ความพยายามเป็นอย่างมากที่พาพวกเรามาจนถึงจุดหมายปลายทางต่อไปคือ "ศาลเจ้าคิฟุเนะ" ซึ่งเป็นศาลเจ้าชินโตเก่าแก่ที่มีอายุกว่า 1,300 ปีที่อยู่บนเขาทางตอนเหนือของเกียวโต จุดเด่นคือโคมไฟสีแดงที่บันไดหินตรงทางเข้า อีกทั้งยังเป็นศาลเจ้าที่ผู้คนนิยมไปขอพรเรื่องความรัก และเด่นในเรื่องของใบเซียมซีที่ต้องแช่น้ำก่อนถึงจะเห็นคำทำนายอีกด้วย
2
รายละเอียดเพิ่มเติม :
🎏 Kifune Shrine
⏰ เวลาเปิด-ปิด :
1 พค. – 30 พย. เปิด 6:00 – 20:00 น.
1 ธค. – 30 เมย. เปิด 6:00 – 18:00 น.
ค่าเข้าชม : ฟรี
2
Nabana no sato illumination
📌 04 - Nabana no sato illumination
เวลา 18:30 น. ก็เดินทางมาถึงงานประดับไฟ โดยใช้เวลาเดินทาง 2 ชั่วโมงเลยทีเดียว เวลาหัวค่ำประจวบเหมาะกับเทศกาล Nabana no sato Winter Illumination (นาบานะ โนะ ซาโตะ) เป็นหนึ่งในเทศกาลแสงสีที่ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น ที่มีไฟประดับมากกว่า 8.5 ล้านดวงภายในสวนดอกไม้
ทุ่งดอกไม้ที่เต็มไปด้วยพืชพันธุ์หลากสีสันและมีร้านอาหารอีกด้วย เราเดินเล่นชมแสงสีประกอบเสียงเพลงยามราตรีอย่างเพลิดเพลินใจ ถือเป็นความโชคดีที่ได้มาในช่วงเวลาของการจัดงานพอดี เพราะเทศกาลนี้มีตั้งแต่วันที่ 21 ตค. 2566 – 2 มิย. 2567 เราใช้เวลาเดินเล่นอยู่ที่นี่กันประมาณ 1 ชม. เพื่อให้เดินทางไปให้ถึงที่พักไม่ดึกมาก และแยกย้ายเข้าห้องพักเพื่อพักผ่อนและหาทานมื้อค่ำกันเองตามอัธยาศัย
2
รายละเอียดเพิ่มเติม :
🎏 Nabana no sato illumination
⏰ เวลาเปิด-ปิด : จ-ศ 10:00–21:00 ส-อา 10:00–22:00
กำหนดการจัดงาน : 21 ตค. 2566 – 2 มิย. 2567
ค่าเข้าชม : ¥2,500 (600 บาท)
(ได้เป็นคูปองเงินสด 1,000 เยน สำหรับใช้ได้ภายในสวน)
Cypress Garden Hotel
📌 05 - Cypress Garden Hotel โรงแรมไซเพรส การ์เดน
เวลา 20:00น. ก็ถึงที่พักคืนแรกของพวกเรา ด้วยความเหนื่อยล้าตั้งแต่เดินทางจากไทยถึงญี่ปุ่นเรายังเที่ยวกันไม่หยุดเลย รับกุญแจและต่างแยกย้ายไปพักผ่อนของคู่ตัวเอง ถึงแม้จะไม่มีโอกาสได้ทักทายหรือทำความรู้จักกับเพื่อนๆ ร่วมทริปกันมากเท่าไหร่ แต่เห็นจากใบหน้าสดใส ยิ้มแย้มของทุกคนแล้วเราเชื่อว่าทุกคนก็ตื่นเต้นและอยากทำความรู้จักกันเป็นอย่างแน่นอน
1
วันนี้ได้ไปถึง 4 สถานที่ที่น่าสนใจและการพักโรงแรมคืนแรกถือเป็น 5 สถานที่ของวันนี้เลยแล้วกัน เพราะวิวของห้องดีต่อใจเหลือเกิน ทั้งบรรยากาศตอนกลางคืนที่ชมแสงไฟของเมือง และช่วงเช้าตรู่ที่เปิดผ้าม่านนั่งจิบชาร้อนมองออกไปนอกหน้าต่างคล้ายภาพวาดเมืองญี่ปุ่นที่อยู่ในกรอบเฟรม
เจอกันที่ห้องอาหารของโรงแรม เป็นบุฟเฟต์อาหารคาวหวาน ญี่ปุ่นผสมผสานตะวันตก ในเวลา7 โมงเช้า โดยจำโค้ดลับจากพี่แอ๊ด ไกด์ผู้น่ารักของเรา Morning Call 6, Breakfast 7, ล้อหมุน 8 เป็นสูตรพิเศษที่ใช้ได้ผลมากๆ สำหรับการเดินทางกันเป็นกรุ๊ป
2
รายละเอียดเพิ่มเติม :
🎏 Cypress Garden Hotel (นาโงยะ จังหวัดไอจิ ญี่ปุ่น)
(ห้องDeluxe Twin Room 26 ตร.ม. ราคา 3,000-4,000 บาท/คืน/2ท่าน)
1
Shirakawa-go Village
📌 06 - Shirakawa-go
เวลา 11:00 น. ทริปวันที่ 3 ใช้เวลาเดินทางขับลัดเลาะขึ้นเขามาเพื่อมาเยือนหมู่บ้านสไตล์กัชโชทสึคุริ หรือที่เรารู้จักกันในชื่อ "ชิราคาวะโก" หมู่บ้านเล็กๆ ที่อยู่บนภูเขาในจังหวัดกิฟุ ที่มีอายุเก่าแก่กว่า 200-300 ปี กระจายไปในแนวเหนือ-ใต้ ตามที่ราบแคบๆ ที่ขนานไปกับแม่น้ำโชกาวะ โดยบ้านที่มีหลังคาคล้ายการพนมมือไหว้แห่งนี้ และเป็นสถานที่ที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก
ตื่นเต้นมากๆ ที่จะได้มาสัมผัสเดินชมหมู่บ้านในฤดูหนาวที่มีหิมะฟูๆ ทำเอาใจเราฟูตามเลย ภายในยังมีวัดเมียวโอะเซนจิ และช่วงเดือนกันยายน-ตุลาคม จะมี งานเทศกาลสาเกอีกด้วย น่าเสียดายมากๆ ที่ได้มีเวลาเดินชมชื่นหมู่บ้านแค่ 1 ชม. เท่านั้น เพราะตามโปรแกรมเราต้องไปยังสถานที่ต่อไปอีก เอาไว้รอบหน้าเราขอปักหมุดหมู่บ้านน่ารักนี้ เอาไว้มานอนโฮมสเตย์ชมเทศกาลสาเกให้หน่ำใจสัก 2-3 คืน
รายละเอียดเพิ่มเติม :
🎏 Shirakawa-go
ค่าเข้าชม : ฟรี
📌 07 - SHOKUSAI - OOJI お食事処 食祭小路
เวลา 13:00 น. แวะทานอาหารกลางวันกันที่ร้าน SHOKUSAI - OOJI ที่อยู่บนชั้น 2 ของศูนย์จัดแสดงมัตสุริโนโมริ (Matsuri no Mori) เป็นศูนย์จัดแสดงหรือพิพิธภัณฑ์นอกใจกลางเมืองทาคายาม่า และมีอาคารร้านค้าที่ขายของฝากต่างๆ และวิวด้านนอกที่เต็มไปด้วย Landscape ของบ้านเรือนที่เต็มไปด้วยหิมะสีขาวบริสุทธิ์ปกคลุม ก็อดที่จะเก็บภาพบรรยากาศได้เลย
1
มื้อเที่ยงถูกจัดเตรียมบนโต๊ะไม้ยาวสามารถนั่งได้เป็นกลุ่ม และตรงหน้ามีเซ็ทอาหารสไตล์ญี่ปุ่นที่ตระเตรียมไว้อย่างสวยงาม เรามีเพียงหน้าที่ทานมื้อเที่ยงให้อร่อย เซ็ทอาหารญี่ปุ่นที่เราไม่ค่อยถนัดเท่าไหร่ กินอย่างไหนก่อนหลังก็ไม่รู้กับเขาหรอก มีหม้อซุปชาบูหมูร้อนๆ พร้อมข้าว และเครื่องเคียงทั้งคาวหวานกระจุกกระจิกน่ารักพอดีคำ
รายละเอียดเพิ่มเติม :
🎏 SHOKUSAI - OOJI お食事処 食祭小路
ชั้น 2 ของอาคาร Matsuri no Mori Museum
ราคา : ไม่ทราบแน่ชัด
Takayama Old Town
📌 08 - Takayama Old Town เมืองเก่าทาคายาม่า
เวลา 14:30น. เดินทางมาถึงย่านเมืองเก่าทาคายาม่า มีเวลาเดินชมย่านนี้ประมาณ 2 ชม. มาถึงก็จัดไอศครีมซอฟท์ก่อนเลย อยากรู้ว่าเวลาอากาศหนาวๆ แบบนี้มันฟินยังไง ถือไปด้วยเดินเล่นไปด้วย ชมเมืองเก่าย่านที่เต็มไปด้วยอาคารบ้านไม้โบราณที่สร้างขึ้นตั้งแต่ช่วงสมัยเอโดะ ประมาณ 200 ปีก่อน และได้รับการอนุรักษ์ไว้เป็นอย่างดีจนถึงทุกวันนี้
ตามซอยของถนนเรียงรายไปด้วยร้านค้าและโรงบ่มสาเกขึ้นชื่อ และเดินไปเดินมาหอมเนื้อย่างจัง ราคาไม้ละ ¥700 เราว่าราคาแอบแรงไปหน่อย เลยแวะชิมสักไม้ให้รู้รสซึ่งละมุนลิ้นมากๆ เดินไปโดนมนต์สะกดเจ้าตุ๊กตา Sarubobo (ซารุโบโบะ)เ จ้าตุ๊กตาที่ไม่มีหน้า ใส่ชุดน่ารักน่าเอ็นดู ซึ่งเครื่องรางนำโชคของชาวญี่ปุ่น จากเมืองทาคายาม่า เราเลยซื้อติดไม้ติดมือมา 2 ตัว
ใกล้กันมี Nakabashi Bridge สะพานนาคะบาชิ สะพานสีแดงสะดุดตาข้ามแม่น้ำมิยากาวะ และรถลากแบบโบราณ ดูร่วมๆ แล้วเหมือนเราได้ย้อนยุคไปในสมัยเก่าแก่ สมชื่อเมืองเก่าทาคายาม่าโดยแท้
รายละเอียดเพิ่มเติม :
🎏 Takayama Old Town
⏰ เวลาเปิด-ปิด : 9.00 – 17.00 น.
ค่าเข้าชม : ฟรี
AEON MALL OGAKI
📌 09 - AEON MALL OGAKI
เวลา 18:30น. เผลอแป๊บเดียวให่มืดซะแล้ว เดินทางร่วม 2 ชม. ถึงที่ห้าง AEON เพื่อหาทานมื้อเย็นกันและช้อปปิ้งกันตามอัธยาศัยเป็นเวลา 1 ชม.ครึ่ง เราซึ่งไม่ได้หิวมากแต่ก็ต้องกินอะไรสักหน่อย เดินเล่นที่ชั้น 1 ของห้างซึ่งมีร้านอาหารหลากหลายสไตล์เต็มไปหมด แวะนั่งทานมื้อเย็นร้านอาหารญี่ปุ่นง่ายๆ
เราเดินเล่นฆ่าเวลาบนชั้น 2 และ 3 ของห้าง เราได้เสื้อไหมพรมคอเต่ามาตัวหนึ่งที่ Muji ¥1,490 (357บาท) แล้วตาเป็นประกายเลยเมื่อเห็นสินค้าแบรนด์อื่นๆ มีทั้งเสื้อผ้าแฟชั่นแบรนด์ดัง และสินค้าต่างๆ รวมทั้งโรงภาพยนตร์ และอื่นๆ ครบครันในที่เดียว ซึ่งมีสินค้าแบรนด์ญี่ปุ่นหลายร้านเลยทีเดียว เช่น Muji, uniqlo, Daiso, 3COINS, Studio CLIP, niko and... และอื่นๆ ซึ่งราคาถูกกว่าบ้านเรามากๆ แต่นาฬิกาเวลาก็หมดอีกแล้ว ขึ้นรถตามเวลานัดหมาย ข้อดีก็คือเซฟค่าใช้จ่ายจากห้างนี้ไปได้เยอะเลย แฮร่ๆ
รายละเอียดเพิ่มเติม :
🎏 AEON MALL OGAKI
⏰ เวลาเปิด-ปิด : 10:00 – 21.00 น.
1
Hashima Daily Hotel
📌 10 - Hashima Daily Hotel
เวลา 20:00น. พอดิบพอดีเดินทางมาถึงโรงแรมคืนที่ 2 "Hashima Daily Hotel" เป็นโรงแรมขนาดเล็กอยู่ที่เมืองฮาชิมะ ภายในห้องก็ขนาดเล็กลงจากโรงแรมคืนแรกนิดหน่อย แต่ก็สะอาดสะอ้านมีสิ่งอำนวยความสะดวกครบ แถมยังมีอาหารเช้าสไตล์ญี่ปุ่นแบบบุฟเฟต์อีกด้วย ในห้องอาหารเราไม่ได้เก็บภาพมาเยอะเพราะมีป้ายห้ามถ่ายรูป และแชะแค่จานอาหารตัวเอง พร้อมเตรียมตัวขึ้นรถบัสตามโค้ดลับ 6 7 8 เช่นเคย พร้อมแล้วก็ออกเดินทางกันต่อในทริปญี่ปุ่นวันที่ 4 กัน
รายละเอียดเพิ่มเติม :
🎏 Hashima Daily Hotel
(ห้องสแตนดาร์ด เตียงแฝด ราคา 1,200-1,500 บาท/คืน/2ท่าน)
Gransnow Okuibuki
📌 11 - Gransnow Okuibuki แกรนสโนว์ โอคุอิบุคิ
เวลา 10:00น. เดินทางมาถึง แกรนสโนว์ โอคุอิบุคิ Gransnow Okuibuki สกีรีสอร์ทที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาคคันไซ ในจังหวัดชิกะ ก่อนเดินเข้าไปพวกเราก็ขอถ่ายภาพเป็นหมู่คณะเพื่อเก็บเป็นที่ระลึกกันสักหน่อยที่ด้านหน้าของรีสอร์ต คราวนี้ถึงได้รู้จักคาดตากันบ้างว่าใครเป็นใคร เพราะในกรุ๊ปทัวร์ก็มีสมาชิกท่านอื่นๆ ร่วมด้วยอีก 10 ท่าน ถึงจะไม่ได้พูดคุยกันมากด้วยตารางการเที่ยวที่จัดเต็มให้พวกเราได้ฟินกับทริปนี้ แต่พวกเราก็ทักทาย ยิ้มแย้มให้กันและกัน
1
พอเดินเข้าไปที่ลานสกีก็สัมผัสได้ถึงความยิ่งใหญ่ของลานเล่นสกีที่มีชาวญี่ปุ่นที่รักในการเล่นสกีอยู่ไปทั่ว ทั้งสกีลิฟต์ที่พานักเล่นสกีหรือผู้ที่มาเที่ยวชมได้นั่งขึ้นไปสัมผัสบรรยากาศมุมสูงและไหลลื่นสกีลงมาด้วยความสนุกสนาน ถือว่าญี่ปุ่นเป็นประเทศที่มีครบจริงๆ สำหรับโซนเด็กเล็ก ค่าเข้า ¥1,500 deposit ¥500 ด้วยบรรยากาศฝนโปรยปรายแบบนี้หิมะเลยไม่ค่อยนุ่มฟูเท่าไหร่ พวกเราเลยเพียงแค่ถ่ายรูป เดินเล่นชมบรรยากาศโดยรอบ เพราะมีเวลาที่จุดนี้เพียง 50 นาทีเท่านั้น ก่อนที่จะมูฟไปสถานที่ที่ยาวเป็นหางว่าวต่อไป
1
รายละเอียดเพิ่มเติม :
🎏 Gransnow Okuibuki
⏰ เวลาเปิด-ปิด : 8:00-17:00น.
ค่าเข้าชม : ผู้ใหญ่ ¥3,300-¥4,900
นักเรียนชั้นมัธยมต้น ¥2,500-¥3,500
นักเรียนชั้นประถมและต่ำกว่า ¥2,000-¥3,000
ผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป ¥3,500
Stamina Taro
📌 12 - Stamina Taro
เวลา 12:00น. ถึงเวลามื้อเที่ยงพอดิบพอดี มื้อนี้เป็นบุฟเฟต์เนื้อย่างที่ร้านปิ้งย่างยากินิคุ "Stamina Taro すたみな太郎 栗東店 "อร่อยเลือกได้ มีเมนูให้เลือกหลากหลายมาก ไม่ว่าจะเป็นเนื้อวัว เนื้อหมู เนื้อไก่ สารพัดเนื้อนู่นนี่นั่น แถมยังมีสปาเก็ตตี้ ซูชิ สลัด ข้าวผัด ไก่ทอดคาราอาเกะ มันฝรั่งทอด ทาโกะยากิ ไอติม เค้ก เราว่าเกือบ 100 เมนูได้ ทานได้ 90 นาที ว่าแล้วก็ไปเลือกเนื้อที่ชอบมาย่างหอมๆ กัน
รายละเอียดเพิ่มเติม :
🎏 Stamina Taro
⏰ เวลาเปิด-ปิด : จันทร์-ศุกร์ 11:30-16:00น. , 17:00-22:00น.
เสาร์-อาทิตย์ 11:30-22:00น.
1
ทำถุงหอมที่ Kyoto Toni Toni กัน
📌 13 - Kyoto Toni Toni
เวลา 14:15น. เราจะมาทำถุงหอมที่ Kyoto Toni Toni กัน โดยมีคุณครูญี่ปุ่นและคนไทยรวมกันสอนการทำถุงหอมเลือกกลิ่นได้ตามชอบและยังได้ถุงหอมในกล่องน่ารักๆ กลับบ้านเป็นของฝากของที่ระลึกติดไม้ติดมือกันไปอีกด้วย และภายในอาคารก็ยังแหล่งซื้อของฝาก ผลิตภัณฑ์อาหารเสริมคุณภาพดีอีกด้วย
รายละเอียดเพิ่มเติม :
🎏 Kyoto Toni Toni
⏰ เวลาเปิด-ปิด : 10:00-18:00น.
Heian Shrine
📌 14 - Heian Shrine ศาลเจ้าเฮอัง
เวลานัดหมายขึ้นรถ 15:30น. ยังพอเหลือ ไม่ไกลกันมาก เราเดินไปศาลเจ้าเฮอัน ซึ่งประตูทางเข้าชั้นแรกต้องข้ามทางม้าลายใหญ่เข้าไป ไม่เสียค่าเข้าชมใด แต่เมื่อผ่านประตูทางเข้าด้านหน้ามาแล้ว จะเจอเข้ากับอาคารใหญ่ถ้าหากอยากเข้าไปชื่นด้านในมีค่าเข้าชม ¥600 (144บาท)
จากที่ลองดูประวัติความเป็นมา ศาลเจ้าเฮอันถูกสร้างขึ้นเนื่องในโอกาสครบรอบปี 1100 ของเมืองเกียวโต เมื่อร้อยกว่าปีก่อน ศาลเจ้าขนาดใหญ่ในเกียวโตที่มีอายุน้อยที่สุด ที่มีศิลปะความเป็นจีนผสมอยู่ให้เห็นอย่างเด่นชัด จุดไฮไลท์คือประตูโทริอิยักษ์สีแดงที่ตั้งอยู่ด้านหน้าของวัด แสดงถึงความเฟื่องฟูของจีนในเกียวโตของสมัยนั้นเลย
รายละเอียดเพิ่มเติม :
🎏 Heian Shrine
⏰ เวลาเปิด-ปิด : 06:00-17:00น.
ค่าเข้าชม : ¥600 (144บาท)
1
Heian-Jingu Shrine Grand Torii
📌 15 - Heian-Jingu Shrine Grand Torii
เดินไปอีกหน่อยเพื่อชื่นชมความอลังการของเสาโทริอิขนาดมหึมา แลนด์มาร์คสำคัญที่บ่งบอกว่าเรามาถึงศาลเจ้าเฮอันแล้วนั่นเอง เสาโทริสีแดงที่โดเด่นขนาดยักษ์ตั้งตระหง่านและเป็นอีกจุดหนึ่งที่ผู้ชมนิยมมาถ่ายรูปทั้งก่อนเข้าชมศาลเจ้าและตอนเดินกลับ นอกจากนี้บริเวณรอบๆยังมีพิพิธภัณฑ์ให้เข้าชมประมาณ 1-2 แห่ง
รายละเอียดเพิ่มเติม :
🎏 Heian-Jingu Shrine Grand Torii
⏰ เวลาเปิด-ปิด : 24 ชั่วโมง
ค่าเข้าชม : ฟรี
ย่านนัมบะ-ชินไซบะชิ
📌 16 - Shinsaibashi-Suji Shopping Street
ก่อนไปช้อป กินที่ย่านนัมบะ-ชินไซบะชิ เราแวะเช็คอินและเก็บข้าวของที่โรงแรมกันก่อนและให้รถบัสไปส่งเราที่ย่านนัมบะเพื่อจะได้เดินเล่นคืนสุดท้ายกันอย่างเต็มที่ และบอกลาคุณลุงญี่ปุ่นคนขับรถบัสที่พาเราไปเที่ยวตลอดทั้งทริปนี้ ขับซิง แซงไว แต่ปลอดภัยโดยสวัสดิภาพทุกคน ขอบคุณคุณลุงมากนะคะ
มาถึงยังแหล่งช้อปปิ้งชื่อดังขนาดใหญ่ใจกลางเมืองโอซาก้า โดยทั้งสองย่านเชื่อมต่อกันด้วยถนนสายช้อปปิ้งมากมาย โดทงโบริและหมู่บ้านอเมริกา เป็นต้น ซึ่งรวบรวมห้างสรรพสินค้า ร้านค้าแนวแฟชั่นอินเทรนด์ ร้านอาหาร ร้านขายของฝาก และแหล่งบันเทิงมารวมถึงยังเป็นที่ตั้งของสัญลักษณ์ประจำเมืองโอซาก้า อย่างกูลิโกะแมน แผ่นป้ายไฟชื่อดังที่นิยมมาถ่ายรูปเป็นที่ระลึก เพื่อเป็นสัญลักษณ์ว่าได้มาถึงโอซาก้าแล้ว
เราก็ไม่ใช่สายช้อปปิ้งเท่าไหร่ บวกกับเพิ่งไปฟุกุโอกะมาเมื่อปลายปี ทริปนี้เลยเอากระเป๋ามาพอน่ารักก็สบายไปอีกแบบนะ แต่ก็ยังหิ้วพวกอาหารเสริมของ DHC และมาส์กหน้าเป็นส่วนใหญ่ ของฝากขนมเล็กๆ น้อยๆ ให้ครอบครัว ช้อปอาหารเสริมและของฝาก ¥29,036 Free Tax 5% -¥1,357 = ¥26,800 (6,430บาท) ใช้บัตรของ YouTrip สะดวกมากๆ
แต่ที่ไม่สะดวกตอนนี้คือเงินสดเราหมด แวะซื้อทาโกยากิ เงินก็ไม่พอ และแวะ Family Mart ไปกด ATM ก็กดไม่ได้งงๆ เลยได้บะหมี่มายืนซดกับเบียร์เย็นๆ สักกระป๋องยืนจิบท่ามกลางเมืองโอซาก้า มันช่างดีๆ จริงเชียว
รายละเอียดเพิ่มเติม :
🎏 Shinsaibashi-Suji Shopping Street
⏰ เวลาเปิด-ปิด : 11:00-20:00น.
📌 17 - Osaka Castle Hotel
เวลา 22:00น. เรากลับมาถึงโรงแรม Osaka Castle Hotel ด้วยรถไฟ 2 สาย ¥190/สาย ก็ถึงหน้าโรงแรมเป๊ะ ระหว่างเดินทางมาที่โรงแรมก็หยุดชื่นชมแสงไฟในค่ำคืนสุดท้าย ตรงสะพานเบื้องหน้า Tenjinbashi Bridge ก่อนเข้านอนเพราะพรุ่งนี้พี่แอ๊ดได้ให้โค้ดลับใหม่อีกแล้วคือ Morning Call ตี 4 ครึ่ง, Meeting ตี 5, ล้อหมุน ตี 5 ครึ่ง
รายละเอียดเพิ่มเติม :
🎏 Osaka Castle Hotel
ราคา : 1,500-3,000 บาท
Kansai International Airport (KIX)
✈️ Time flies so fast
เวลา 05:30น. ออกเดินทางไปเช็คอินที่สนามบินคันไซ ผ่านจุดตรวจทุกอย่างเสร็จก็ทาน SET BOX กับกาแฟลาเต้สักแก้วที่ร้าน Pronto เครื่องบินเวลา 09.55 น. ถึงไทยเวลา 14:20 น.
เวลาความสุขผ่านไปอย่างรวดเร็วมากๆ ในช่วงเวลา 5 วัน 3 คืน กับประสบการณ์เที่ยวกับทัวร์ครั้งแรกในประเทศญี่ปุ่น ถือว่าเป็นการเดินทางที่สะดวกสบาย ไม่ต้องคิดแพลนเอง ไม่ต้องซื้อตั๋วเอง ขึ้นรถนอนงีบก็ไม่ต้องกลัวหลงเพราะทัวร์เขาวางแผนมาให้หมดแล้ว ได้ทานของอร่อยทุกมื้อ แต่ก็ข้อจำกัดก็คงจะเป็นเรื่องเวลาในการชื่นชมแต่ละสถานที่อาจจะน้อยไปสักหน่อย แต่สถานที่แต่ละที่ก็ไกลกันพอสมควร เพราะเป็นทริประยะสั้น 3 คืน แต่ก็ถือเป็นประสบการณ์ที่ดีมากๆ เลย
ไว้เจอกันทริปหน้ากับ Lonely Together 🤍
โฆษณา