29 ม.ค. 2024 เวลา 14:33 • ความคิดเห็น
ชีวิตประจำวัน ก็มีอยู่แค่ เรื่องกาย อารมณ์ จิต
เรื่องราวพวกนี้ จะบอกว่า เข้มแข็งคงไม่ได้ เพราะปกติการดำเนินชีวิตของคนเรามันก็มีอารมณ์ โลภโกรธหลง ปกคลุมกันทุกคน แล้วก็มีการใช้อารมณ์ต่างๆจนเป็นเหมือนเรื่องราวปกติ เราก็ไม่มีสติที่จะแยกแยะ เรื่องราวของอารมณ์ที่เกิดในตัวตนของเองได้เลย
แล้วเราก็จับต้องอารมณ์ภายในกายนั่นไม่ได้ จิตของเราเป็นผู้ที่อาศัยอยู่ในเรือนกาย ถูกกักขังอยู่ในเรือนกาย จิตทำไปตามอารมณ์ คือสั่งกายให้ไปตามอารมณ์ เคลื่อนไหวหลงใหลอารมณ์ มันอยู่ใต้อารมณ์ตลอดเวลา แล้วยังมีอารมณ์จรอีก ที่พัดนำเรื่องราวนั่นนี้ เข้ามาในกาย ผ่านวิญญาณทั้งหก อีกทั้งมีคลื่น เป็นเหมืนคลื่นใต้น้ำ ..ที่ไหลอยู่ ที่เค้าอาจจะเรียกว่าจิตใต้สำนึก
แต่ในทางธรรม เค้าเรียก ว่าสิ่งที่เก็บสะสมอยู่กับธาตุทั้งสี่ ที่มีการเก็บบันทึกเรื่องราวต่างที่เกิดขึ้น ตาเห็นภาพ หูได้ยินเสียงในเรื่องราวต่าง ของวิญญาณทั้งหก ก็ไหลลงไปเก็บไว้ทีนี่ สิ่งเหล่านี้เป็นนามธรรม .มันจับต้องไม่ได้ ต้องอาศัยเรื่องราวของการฝึกหัด เรียนรู้ขึ้นมา ..ซึ่งก็อาศัยรอยทั้งสี่ของพระพุทธเจ้า ..นำมาฝึกหัดขึ้น
เรานั่งสมาธิ เราก็มองดูลมที่เค้าออกในกาย ก็มองไม่เห็น ต้องทำไปจนกว่า จะไปถึงคำว่า กายนิ่ง จิตนิ่ง เหลือจิตดวงเดียว มองทะลุ เหมือนว่า อากาศก็นิ่ง ลมก็นิ่ง ไม่มีลมอะไรเลย ทำไมใบไม้มันไหว นั้นเป็นเรื่องของการฝึกหัด อะไรที่ทำให้ใบไม้ไหว
เปลี่ยนแปลง .นั่นต้องเกิดจากการทำกายให้นิ่ง จิตนิ่ง .จิตเข้มแข็ง ที่จะมองให้ทะลุใบไม้ไหว นั่นก็เรื่องราวของจิตกับอารมณ์ ..กับเรื่องราวของขันทั้งก้า ไม่ใช่มั่ว_นั่งพิจารณให้อารมณ์ เค้าชี้แจ้งว่าไอ้นั่นเป็นอย่างนั่นอย่างนี้ มีผู้บอกว่า สมาธิของพระพุทธเจ้า กายนิ่งเป็นเสา เป็นก่อนหิน แล้วจิตก็เข้มแข็ง อดทน ในการที่จะตัดขาดเรื่องของอารมณ์
ส่วนเรานั้น กายยังครบอาการสามสิบสอง ว่างๆ เราก็เอาเวลานั้น มาปฏิบัติธรรม เมื่อจะกราบพระก็สำรวจตัวเอง ดูลมหายใจ วางอารมณ์ให้หมด จิตไม่นึกคิดอะไร พอจิตไม่นึกคิดอะไร ก็เอาจิตภาวนาขึ้น ..ให้จิตอยู่กับพระ ภาวนาพุทโธขึ้น อารมณ์นึกคิดอะไรเข้ามา ก็ผลักไสมันออกไป อย่าให้เข้ามา
..เราก็ฝึกหัด สวดมนต์ ปลดเปลื้องเรื่องราวต่างๆ อารมณ์ที่เราใช้หรือเจอะเจอมาในแต่ละวัน เรื่องนั้นเรื่องนี้ มันเป็นขี้โคลนอยู่ในกายในจิต สะสมเข้าไปทุกวันจนแก่ มันสะสมกรรม พอแก่กายก็หนัก เจ็บป่วย ก็เนื่องด้วยสิ่งเก็บสะสมลงไปในกาย แล้วก็มองไม่เห็นเสียด้วย เราก็ฝึกหัด ..สะสมการปล่อยวาง การละทิ้งเรื่องราวของอารมณ์ สละเวลาโลกมาเป็นเวลาของธรรม มันก็จะมีสิ่งที่ว่า น้ำธรรมหล่อเลี้ยงจิตให้มีสติสัมปชัญญะ มีจิตเข้มแข็งต่ออารมณ์กรรม ที่จรมา ที่เราต้องเจอะเจอ ในชีวิตประจำวัน ..
เรื่องราวเหล่านี้นี้ มันต้องทำเป็นนิจสิน เป็นวัน ทุกวัน เป็นเดือน เป็นปี หลายปี ..เมื่อยังมีลมเข้าออกอยู่ เราก็เพียรฝึกหัดตัวเราเอง เอาจิตไปอยู่กับพระ ไม่ให้เป็นอยู่กับอารมณ์ เป็นทาสของอารมณ์ เราทำได้ เราก็จะรู้จักเอง วรู้จักคำว่าจิต รู้จักอารมณ์นั่นทำให้เกิดเรื่องราวอะไร แล้วเราใช้แต่อารมณ์ มันเกิดอะไรขึ้น ต่อกายต่อจิต ..ต้องฝึกทำขึ้นมาด้วยตัวของตัวเอง
ชีวิตนี้ เรารับใช้อารมณ์ กรือ ว่าอารมณ์รับใช้เรา..ใครเป็นทาส ใครเป็นบ่าว ในชีวิตที่ใช้อยู่ประจำวัน ..นี้หมายถึง เฉพระเรื่องราวที่อยู่ในขอบเขตของกาย
โฆษณา