ให้อากาศเย็น และขุนเขา โอบกอดที่ Northern Japan Alp
ภูเขาหิมะ เป็นธรรมชาติที่เมษหลงรักไปตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้ รู้ตัวอีกทีก็อยากจะไปเดินเล่นให้ขุนเขาโอบกอด
ก่อนหน้านี้ ญี่ปุ่นเป็นประเทศที่เมษไม่เคยตั้งใจออกทริปเองมาก่อน ด้วยความที่เป็นประเทศที่สะดวกสบาย เดินทางง่าย เลยคิดว่า เก็บไว้ก่อนละกัน ขอเก็บอะไรที่ยากๆ ให้ร่างกายเด็กๆ ได้ออกแรงไปก่อน (แต่ก็พ่วงตามคนอื่นไปแล้ว 4 ทริปได้)
แล้วอยู่ๆ เพื่อนก็เอาชื่อ Japan Alp มาฝากป้ายยาไว้ พอเริ่มค้นหาก็เริ่มหลงรักมากขึ้นเรื่อยๆ ทั้งภูเขาหิมะ ใบไม้เปลี่ยนสี วิวธรรมชาติที่กว้างใหญ่ ไม่ได้แล้วทริปต่อไปของเมษต้องเป็น Japan Alp แล้วหละ
ทริปนี้เมษออกเดินทาง ในช่วงกลางเดือน ต.ค. ช่วงที่ใบไม้เปลี่ยนสีกำลังไล่ระดับลงมาจากยอดภูเขาหิมะ ความตั้งใจของเราก็เลยมุ่งเป้าไปที่วิวใบไม้เปลี่ยนสีบนภูเขา กับยอดขาวๆ ที่มีหิมะปกคลุม เมษเดินทางอยู่ในโซนทั้งหมด 4 วัน จะมาแบ่งตอนค่อยๆ เล่าให้ฟังเป็น 3 ตอน ดังนี้นะคะ
1) Tateyama Kurobe Alpine Route
2) Kamikochi
3) Hakuba Happo Pond - Iwatake
เช้านี้เมษนั่งอยู่บนรถไฟจากสถานี Matsumoto มุ่งหน้าสู๋สถานี Shinano-Omachi หลังจากที่เมื่อคืนนั่งรถไฟจากโตเกียวมานอนที่ Matsumoto 1 คืนก่อน เพื่อที่เช้านี้จะได้จับรถไฟเที่ยวเช้าสุดเพื่อไปให้ทันรถรอบแรกที่จะขึ้นเส้นทาง Tateyama Kurobe Alpine Route ฝั่ง Ogizawa
เส้นทาง Tateyama Kurobe Alpine Route
Tateyama เป็นภูเขาที่สูงที่สุดในญี่ปุ่น สูงถึง 3,015 ม. ทำให้บนยอดเขามีหิมะปกคลุมตลอดปี เป็นเส้นทางท่องเที่ยวธรรมชาติที่มีความหลากหลายแตกต่างกันไปในแต่ละฤดู อย่างในฤดูใบไม้ร่วงช่วงเดือน ต.ค. ที่เมษมานั้น บนยอดเขามีหิมะปกคลุมหมดแล้ว ขณะที่ด้านล่างนั้นใบไม้กำลังเปลี่ยนสี ทำให้ได้บรรยากาศที่แตกต่างไปตลอดเส้นทาง ได้เห็นความเปลี่ยนแปลงในทุกๆ ระดับความสูงที่เราค่อยๆ ไต่ขึ้นไป
การเดินทางท่องเที่ยวบนเส้นทางนี้นั้น ทางญี่ปุ่นเค้าก็ได้จัดการเดินทางที่สะดวก ง่าย ปลอดภัยไว้ให้แล้ว ด้วยความที่เราจะขึ้นภูเขาสูงในเวลาอันรวดเร็ว ทำให้ต้องมีการใช้ระบบขนส่งที่หลากหลายให้เหมาะสมกับสภาพแวดล้อมจริง เราก็เลยต้องเปลี่ยนขึ้นรถ ขึ้นกระเช้ากันหลายทอดหน่อย
เส้นทาง ขึ้นรถ ต่อกระเช้า รวมถึงเวลาเดินทาง ตลอดเส้นทาง
วันนี้เมษเดินทางมาทางฝั่ง Nagano หลังจากลงรถไฟที่สถานี Shinano-Omachi แล้ว ก็เดินออกจากสถานีไปทางซ้ายมือ จะมีตู้ขายตั๋วรถบัสเพื่อไปที่สถานี Ogizawa ค่าตั๋วไป-กลับ คนละ 2,950 yen
แผนการเดินทางของเมษจะขึ้นจากฝั่ง Nagano ไปจนถึงยอดที่ Murodo และกลับลงมาทางเดิม ไม่ได้ข้ามไปลงฝั่ง Toyama เลยซื้อตั๋วรถบัสแบบไป-กลับค่ะ ส่วนใครที่จะเดินทางข้ามไปลงฝั่ง Toyama เลยก็สามารถซื้อตั๋วขาเดียวได้เหมือนกัน และที่สถานี Shinano-Omachi นี้ยังมีบริการรับขนส่งกระเป๋าเดินทางใบใหญ่ข้ามไปยังฝั่ง Toyama ที่ปลายทางภายในวันอีกด้วย
ระหว่างทางนั่งรถบัส วิวภูเขาสวยๆ ท้องนากว้างๆ ก็ผลัดกันโผล่ออกมาให้ชมกันอย่างจุใจ ตอนแรกเมษว่าจะนอนสักหน่อย แต่เห็นวิวแล้วถึงกับหลับไม่ลง รถบัสใช้เวลาแค่ 30 นาทีก็มาถึงสถานี Ogizawa
แค่ลงจากรถบัส ก็สวยตะลึงแล้ว
ห้องขายตั๋วอยู่ด้านล่างหน้าสถานี ตรงที่รถบัสจอดพอดี วันนี้เมษมาซื้อตั๋วที่หน้างานเลย เพราะดูจากเว็บออนไลน์แล้วยังไม่เต็ม แสดงว่าคนไม่เยอะ เลยมาซื้อที่หน้างานดีกว่า ตั๋วไป-กลับ Ogizawa - Murodo ราคาคนละ 12,300 yen หรือใครกลัวคนจะเยอะจนตั๋วรอบที่ต้องการเต็ม ก็สามารถจองออนไลน์ล่วงหน้ามาได้ที่
แล้วมาออกตั๋วจริงที่ตู้อัตโนมัติที่สถานีนี้ก็ได้เหมือนกัน
การเดินทางช่วงแรกจะเป็นรถบัสไฟฟ้าที่ขับไปในอุโมงค์ที่เจาะลอดภูเขา อุโมงค์ที่เจาะมาพอดี๊พอดีกับขนาดตัวรถเลย นั่งรถบัสสักพักก็มาถึงปลายอุโมงค์ โผล่ออกมาที่ Kurobe Dam ที่สถานีนี้เราต้องออกแรงเดินกันสักหน่อย ไม่ว่าจะเดินขึ้นบันไดหลายร้อยขั้นไปด้านบนของสันเขื่อน หรือจะเดินลงอีกหลายขั้นเพื่อลงมาเดินชมวิวที่สันเขื่อนพอดี
อุโมงค์เปิดออกมา ก็เห็นวิวใบไม้แดงกับภูเขาหิมะ พร้อมกันแบบนี้เลย
ส่วนเมษ ไหนๆ ใบไม้ก็เปลี่ยนสีสวยขนาดนี้แล้ว ขอไปนั่งเรือล่องเขื่อนชมวิวใบไม้เปลี่ยนสีให้ชุ่มใจดีกว่า ว่าแล้วก็เดินๆๆๆๆ เดินค่ะ เพื่อไปที่ท่าเรือ Garube Sightseeing Cruise
อ้อ ก่อนไปเที่ยว แนะนำให้เข้าไปที่เวบนี้ เพื่อโหลดตารางรอบรถแต่ละช่วงของเส้นทางนี้ เพื่อที่จะได้วางแพลนเที่ยวแต่ละที่ได้คุ้มค่าคุ้มเวลา และไม่ตกรถขากลับลงจากบนเขาค่ะ
วิวจากท่าเรือ ก็สวยขนาดนี้แล้ว
ค่าตั๋วเรือ คนละ 1,200 yen ใช้เวลาล่องเรือ 30 นาที โดยที่เรือจะเป็นหลังคาใส สามารถมองวิวได้เต็มอิ่ม หรือใครยังอิ่มวิวไม่พอ แนะนำด้านท้ายเรือเลยค่ะ สวยมากแบบเต็มๆ ตา ไม่มีกรอบกระจกมากั้น
ใบไม้เปลี่ยนสี กับภูเขาหิมะ และทะเลสาป สีสวยตัดกันดีจริง
นั่งเรือเสร็จ ก็ได้เวลาขยับไปสถานีต่อไปกันแล้ว เกือบจะเที่ยงและเริ่มหิวแล้ว เมษเดินมาที่สถานี Kurobeko เพื่อขึ้นรถรางแบบทางชันในอุโมงค์ไปที่สถานี Kurobedaira
คนขับรถราง และ อุโมงค์ชันๆ ของเขา
ที่สถานี Kurobedaira นี้จะมีร้านอาหาร และร้านขายของที่ระลึก รวมถึงลานสำหรับออกไปชมวิวภูเขาหิมะโดยรอบ เมษเลยถือโอกาสเดินเล่นชมวิว ถ่ายรูป และพักทานข้าวเที่ยงที่นี่เลย
ภูเขาหิมะอยู่ตรงหน้านี่เอง ใหญ่เต็มตามาก
มื้อเที่ยงเป็นอาหารง่ายๆ แต่ขึ้นชื่อของแถบนี้ นั่นก็คือโซบะ น้ำซุปร้อนๆ นั่งในอาคารอุ่นๆ ชมวิวภูเขาหิมะด้านนอก มื้อง่ายๆ นี้ก็ฟินได้มากเลยทีเดียว
โซบะร้อนๆ มีหลากหลายท๊อปปิ้งให้เลือก ขาวๆ นั่นมันภูเขาประจำถิ่น
ได้เวลาเดินทางช่วงสุดท้ายขึ้นไปที่ยอด Tetayama ที่สถานี Murodo กันแล้ว ช่วงนี้เราจะเดินทางด้วยกระเช้า ที่ทำให้เราได้เห็นวิวโดยรอบ 360 องศา (แต่ก็นะคนแน่น เราก็เลือกได้มุมเดียวตลอดทาง)
กระเช้าพาเราไต่ระดับจากช่วงใบไม้ร่วง ค่อยๆ ขึ้นเนินเขาที่เริ่มมีหิมะปรอยๆ ปกคลุมพื้นดิน ไปจนถึงยอดที่หิมะขาวโพลนแสบตาไปทั่วทุ่ง เมษสังเกตว่า วิวที่มองกลับไปทางทะเลสาปนั้น ช่วงเช้าก่อนเที่ยงแสงจะส่องลงทะเลสาปและสาดไปยังภูเขาหิมะ ซึ่งสวยกว่าขากลับ ที่เมษลงมาช่วงบ่าย ภูเขาหิมะจะอยู่ในเงาแดด ทำให้วิวที่เราเห็นจะมืดไปครึ่งหนึ่ง
ช่วงเช้า และ ช่วงบ่าย สวยคนละอารมณ์เลย
และเราก็ขึ้นมาถึง Murodo สถานีสูงสุดของเส้นทาง Tateyama Kurobe Alpine Route แล้ว ตอนแรกที่เมษดูพยากรณ์อากาศและอ่านรีวิวก่อนมา ช่วงนี้ของปีด้านบนนี้หิมะจะพึ่งเริ่มตก จะเดินลำบากนิดหน่อยเพราะจะลื่น แต่ก็ยังเดินเที่ยวได้สบายๆ แต่เมื่อเช้าตอนรอคิวขึ้นรถบัสไฟฟ้าช่วงแรกนั้น ก็เห็นภาพบนจอ live แสดงอากาศบนยอดสดๆ ของวันนี้ ภาพที่เห็นคือ หมอกลง หิมะขาวไปทั้งภาพ จากเดิมที่แพลนมาเดินเส้นทางชมธรรมชาติด้านบนนี้นานๆ ก็เลยมีเวลาเพิ่มสำหรับค่อยๆ เก็บเกี่ยวใบไม้เปลี่ยนสีด้านล่างแทน
ขึ้นมาด้านบน ด้วยความที่ไม่ได้เตรียมมาเจอหิมะขนาดนี้ อุปกรณ์กันหนาวก็ไม่ค่อยพร้อมเท่าไหร่ พอให้ความอุ่นได้ในระยะไม่นาน รวมไปถึงหิมะที่สูงจมข้อเท้าไปแล้ว ทำให้การเดินบนเส้นทางค่อนข้างลำบาก เมษก็เลยได้แค่เดินไปจุดชมวิวที่บ่อน้ำสั้นๆ และเดินเล่นดูเด็กๆ เล่นหิมะกันสนุกสนานแทน
หิมะขาว ขาวไปหมด จมหิมะกันทั้งทุ่ง
แต่วิวกว้างๆ มองเห็นไปไกล รวมถึงเส้นทางชมธรรมชาติที่มีหลายเส้นทาง ทำให้เมษเริ่มแพลนทริปหน้าร้อนกลับมาเยือนที่นี่อีกครั้งเลยทันที จินตนาการไปว่า ถ้าเป็นหน้าร้อน ใบไม้ต้นไม้สีเขียวๆ กับยอดเขาที่มีหิมะปกคลุมบางๆ คงสวยไปอีกแบบ เส้นทางชมธรรมชาติหลายเส้นทางที่ยังไม่ได้เดิน น่าจะมีวิวให้ชมอีกเยอะ
นอกจากนี้วันนี้เมษวางแผนมาเที่ยวแค่ครึ่งทาง เนื่องจากเส้นทางอีกฝั่งที่ลงไปทาง Toyama นั้น จุดแวะพักส่วนใหญ่เป็นเส้นทางเดินชมธรรมชาติครึ่งชม.บ้าง ชั่วโมงกว่าๆ บ้าง แต่จากข้อมูลที่อ่านมา บอกว่าพอหิมะตกก็จะเดินยาก รวมถึงวิวหน้าร้อนต้นไม้เขียวๆ นั้นสวยกว่ามาก
เมษเลยจับรวมอีกครึ่งทาง รวมถึงบนยอดนี้ไว้กับทริปหน้าร้อนครั้งหน้าเลยทีเดียว จะต้องหาโอกาสกลับมาเดินชมธรรมชาติในอีกฤดูที่นี่อีกครั้งให้ได้
Tetayama Kurobe Alpine Route
เส้นทาง : Ogizawa - Kurobe Dam - Kurobeko - Kurobedaira - Murodo
วันที่เดินทาง : 22/10/2023
- 1
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
