1 ก.พ. เวลา 02:07
หากเราเข้าใจสักนิดหนึ่ง ในเรื่องราวของคำว่ากรรม ..คนเรานั้นเกิดมา เพราะมีกรรม นำมาเกิด ..มีการสะสมบุญกุศลมาไม่เหมือนกัน คนเราเกิดมา ก็เรียนรู้ไปตาม สิ่งแวดล้อม วัฒนธรรมประเพณีแต่ละท้องถิ่น ในส่วนของเมืองพุทธ ก็มีประเพณีเรื่องการสร้างบุญกุศลอยู่ มีเครื่องหมายของธรรม ขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ที่ท่านประทานให้ เพื่อชำระสะสางให้กายวาจาใจ บริสุทธิ์ปราศจากกิเลส ที่เป็นอารมณ์โลภโกรธหลงอยู่
ผู้ที่ครองผ้ากาสาวพัสตร์ ก็ทำหน้าของตน ชำระสะสาง..กายและจิต คัดเอ้าท์อารมณ์ออกไป ..เมื่อคัดเอ้าท์ให้จิตนั้น บริสุทธิ์ได้ แสงของรัตนะก็ปรากฏขึ้นที่จิต เมื่อญาติโยมทำบุญถวายปัจจัย แก่ผู้ที่มีการประพฤติปฏิบัติธรรมตามรอยขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า .น้อมจิตไปถวาย พระพุทธเจ้า ที่จิตของท่านบริสุทธิ์ ฝากดินฟ้าอากาศ สิ่งนั้นก็เหมือนฝากวัตถุสิ่งของเก็บไว้ให้
เมื่อเกิดมาชาติต่อไป สิ่งเหล่านี้ ที่เรียกว่า บุญ.. บุญก็มาหล่อเลี้ยงกายต่อไปอีก หากเราดูเรื่องชาดก การทำบุญทำทานของท่าน ยิ่งทำก็ยิ่งร่ำรวย ยศศักดิ์ ..ทำแล้วก็เกิดๆตาย ..จนท่านมองเห็นว่า สิ่งที่ทำให้เกิดตาย ก็สิ่งที่ยึดอยู่ ใช้เค้าอยู่ ยึดทรัพย์สินเงินทอง ยึดยศศักดิ์ ข้าทาสบริวารสรรเสริญเยินย่อ เห็นสิ่งเหล่านี้ที่ยึดอยู่ทั้งหมดเป็นกรรม ..นำพาให้เกิด
ท่านก็ออกจากเวียงวัง หนีสิ่งเหล่านี้ ไม่เอามาใช้อีก ใช้แล้วก็ต้องกลับมาเกิดอีก แล้วก็เข้าป่า สลัด รีดเอาอารมณ์ เอากรรมออกไปจากจิต จากธาตุทั้งสี่ อณูขุมขนไหน เป็นสีดำ สีของกรรม ท่านก็สะสางให้เป็นแก้ว บริสุทธิ์สะอาดสะอ้าน แล้วเพราะความที่จิตท่านบริสุทธิ์ ..จิตของท่านก็สะอาดสะอ้าน เรืองรองด้วยแสงรัตนะ จิตของผู้ที่ มีหูทิพย์ตาทิพย์ เทพยดาอินทร์พรหม เค้าเห็นแสงรัตนะเจิดจ้า เค้าก็มาร่วมอนุโมทนา
การสร้างบุญกุศล เมื่อเราทำดี ๆ ก็เกิดแสงรัตนะเกิดขึ้น หูทิพย์ตาทิพย์ก็อนุโมทนา ..แสงของเทพยดาอินทร์พรหม เค้าก็มีแสง ..ของความสุข เมื่อเค้ามาร่วมอนุโมทนา ผู้ที่อยู่ในสถานที่สร้างบุญกุศลก็ได้รับแสงนั้น กายและจิตก็ได้รับแสง อณูในเรือนกายคือธาตุทั้งสีกระทบแสงรัตนะ สิ่งสกปรกที่ติดอยู่ก็ค่อยๆหลุดออกไป บัญชีกรรม เจ้ากรรมนายเวร ก็ค่อยหลุดออกไป มีการอโหสิกรรมด้วยเป็นแสงของบุญกุศล ..เกิดขึ้น มีความสุขกายสุขใจเกิดขึ้น ..ชั่วขณะหนึ่ง ..หาดว่าทำบ่อย บุญกุศลก็มีมาขึ้น
เรื่องโชคลาภ ไม่มีใครบันดาลให้หรอก มันเป็นของเก่าๆ ที่สะสมมาเอง บ้างก็เกิดมาสร้างแต่กรรม มีกายวาจาใจเป็นกรรมไปตลอดทั้งชีวิต สมสู่อยู่กับอารมณ์โลภโกรธหลง ทั้งกายทั้งจิตก็หมองคล่ำไปด้วกรรม มีแต่สีเวรกรรม สีของบุญกุศลไม่มีเลย จิตออกจากกาย ..ก็ไปสู่อบายภูมิ สถานที่ทุกข์ หมูหมาเป็ดไก่ ก็มีจิตอาศัย เคยเกิดมาเป็นคน เหมือนกัน บางที่มันก็หังคนรู้เรื่องด้วย เราไปนั่งกินอะไรใกล้ ยิ่งเป็นหมาใกล้ชิดกับคน มันก็ทำตาระห้อย น้ำลายไหล ขอฉันกินบ้าง..แต่มันพูดไม่ได้ เพราะจิตอยู่ในสังขารที่มีแต่กรรม
เรื่องราวการสร้างบุญ .เรียกร้องหากรรม มันก็มี เอาเรื่องราวไสยศาสตร์ มำกระทำ คิดว่าเป็นบุญ ..หูทิพย์ตาทิพย์ เค้ารู้จัก เค้าเห็นอะไรมันเกิดขึ้น ไม่มีแสงสีรัตนะเกิดขึ้นมาได้เลย มีแต่สีดำ ..สีเวรกรรมเกิดขึ้น .ทั้งกายทั่งจิตก็ต้องร้อนเวรกรรม เรียกร้องให้อารมณ์กรรม โลภโกรธหลงมันเพิ่มพูนขึ้น .มันจึงมีตัวอย่างให้เห็น ได้โชคลาภ แต่กลับตีกันทะเลาะกัน แตกแยกทำลายกัน..มันดีมั้ยล่่ะ
โฆษณา