ตามหา.. ดอกพญาเสือโคร่ง

เปิดตัวทริปแรกด้วย จังหวัดน่าน ในช่วงฤดูหนาว ที่ทุกคนต่างใฝ่ฝันที่จะไป ทริปนี้เป็นทริปแรกที่ได้ออกเดินทางไป ซึ่งทริปนี้ได้ไปมานานแล้ว ความรู้สึกดี สนุก ตื่นตาตื่นใจ ยังคงจำไม่ลืม เลยอยากบันทึกไว้จำ.. ว่าครั้งหนึ่งก็เคยได้ลองตามหา ดอกพญาเสือโคร่ง...
เช้าวันนี้เป็นเช้าที่สดใส เราเดินทางด้วยเครื่องบิน 🛫 ซึ่งการเดินทางครั้งนี้ ดำเนินไปแบบไม่มีแผน สิ่งที่วาดฝันไว้ คือ การได้เจอ "ดอกพญาเสือโคร่ง" ที่บานเต็มต้น จุดหมายแรกของเราก็คือออ อุทยานแห่งชาติขุนสถาน
ในที่สุดเรามาถึงจังหวัดน่าน.. ความเย็นของอากาศเริ่มสัมผัสผิวกาย แต่ใจแสนอบอุ่น สูดอากาศอันสดชื่น พร้อมเริ่มต้นการเดินทางตามหาดอกพญาเสือโคร่ง.. 🌸 เส้นทางที่แสนคดเคี้ยวแฝงด้วยความตื่นเต้น ธรรมชาติทั้งสองข้างทางสวยซะจนลืมไปเลยว่าใช้เวลาในการเดินทางเกือบ 2 ชั่วโมง ⛰️
ระหว่างทาง ท้องเริ่มไม่ตื่นเต้นด้วย มีการเรียกร้องพลังงาน เราแวะร้านข้างทาง (เวลา 14:16 น.) เมนูแรกของจังหวัดน่าน คือ ข้าวซอย ก๋วยเตี๋ยวต้มยำ 🍜 สิ่งที่ขาดไม่ได้คือ ชาไทย และโกโก้ 🥤 อาหารรสชาติดี ทำให้อินกับทริปครั้งนี้มาก เราเริ่มเดินทางกันต่อ... 🚘
ในที่สุดด เราก็มาถึง "อุทยานแห่งชาติขุนสถาน" จิตใจแสนพองฟู อยากเจอเส้นทางที่เต็มไปด้วยดอกพญาเสือโคร่ง เดินหาโดยรอบ เจอเพียงแค่ไม่กี่ดอกที่เพิ่งบาน.. 😭 แต่ยังไม่ละความพยายาม พรุ่งนี้เรายังมีโอกาสได้เจอในบริเวณที่อยู่ใกล้เคียง การนอนคืนนี้เราเลือกนอนเต้นท์ ไม่ใช่เพราะอินกับธรรมชาติ แต่เป็นตัวเลือกสุดท้ายของเรา อย่างน้อยๆ คืนนี้ยังไงเราก็ได้ดูดาวตกแน่นอน 😚🌠
อากาศที่หนาวเหน็บในคืนนี้ ทำให้การอาบน้ำเป็นอะไรที่ยากมาก เวลาผ่านไป.. เวลาเที่ยงคืน ลมเริ่มแรง จนเต้นท์ที่เรานอนเริ่มสั่น ความแรงของลมที่พาดผ่านนำพาความหนาวเย็นมาด้วย การนอนก็เริ่มเป็นไปได้ยาก รอดาวตกเลยแล้วกัน ได้เห็นแน่ ๆ เราอยู่บนที่สูงด้วย 🏕 แต่ความฝันต้องสลาย เมื่อเปิดเต้นท์ออกมาด้วยนอก ท้องฟ้าที่เคยมีดาวหนาแน่นกลับถูกปกคลุมด้วยมวลเมฆทั่วท้องฟ้า 🌫 ตลอดค่ำคืนความหนาของเมฆที่มีไม่ลดน้อยลงไปเลย จบการเฝ้ารอดูดาวตกของเราในค่ำคืนนี้ 😭
ยามเช้าที่แสนใส.. จุดเด่นของการมาทริป คือ การได้นั่งดูพระอาทิตย์ขึ้นและตก กับคนที่รู้ใจ ครั้งนี้ก็เช่นกันการตื่นเช้าเพิ่มมาดูพระอาทิตย์ขึ้นคงเป็นอะไรที่โรแมนติกน่าดู แต่... ก็รอแล้ว รออีก พระอาทิตย์ก็ไม่โผล่พ้นขอบเมฆ สุดท้ายก็ต้องถอดใจเพื่อเริ่มเดินทางกันต่อ 🚗
สถานที่ต่อ ดอยเสมอดาว เป็นสถานีที่ที่ขึ้นชื่อในเรื่องการนอนเต้นท์ ในเมื่อเรานอนเต้นท์ไปเมื่อคืนแล้ว ที่แห่งนี้เป็นเพียงการเที่ยวชม และถ่ายภาพเท่านั้น พื้นที่โดยรอบเต้นท์ถูกวางเรียงรายอย่างเป็นระเบียบ ขาดเพียงแต่ผู้คนที่เดินทางเข้ามา และเราก็มาหยุดถ่ายภาพตรงหน้าผาที่คล้ายสิงโต ด้วยที่ท่าทางที่นอนหมอบและมองออกไปอย่างสุดสายตา ด้วยลักษณะของผานี้เองจึงเป็นที่มาของชื่อผาหัวสิงห์ หลังจากที่ถ่ายภาพราวกับการมานอนค้าง แดดก็เริ่มจัดขึ้นเรื่อย ๆ เราก็เปลี่ยนสถานที่โดยทันใด
สถานที่ต่อไปของเราก็ คือ สะปัน ชื่ออาจจะไม่คุ้นหู หรือที่รู้จักกันในนาม บ่อเกลือ สถานที่นี้เป็นหมู่บ้านเล็ก ๆ ที่อยู่ในหุบเขา มีแหล่งทำเกลือโบราณ สำหรับสะปันนั้น คือ น้ำตกสายเล็ก ๆ ที่สวยงามมากแห่งหนึ่ง 🏞 ใครที่อยากสัมผัสความเป็นธรรมชาติ ที่แห่งนี้ถือว่าตอบโจทย์ได้ดีเลยทีเดียว ส่วนเส้นทางการมาที่นี่คดเคี้ยวกว่าทางไปขุนสถานมาก ขอรับรองเรื่องความสวย ทำให้อินกับธรรมชาติมากยิ่งขึ้น เหมือนได้หลุดเข้าไปอีกโลกหนึ่ง
ผู้คนที่นี่ใช้ชีวิตแบบสโลไลฟ์ ไม่ต้องคิดอะไรมาก กังวลเรื่องใด ๆ ปล่อยใจ ปล่อยความทุกข์ให้ลอยไป เมื่อถึงที่พัก เก็บของเรียบร้อย ด้วยความโชคดีที่มีอยู่บ้างที่พักมีจักรยานให้ปั่นได้ฟรี สามารถปั่นไปรอบ ๆ หมู่บ้านได้สุดแต่กำลังของคนปั่นว่าจะไปตรงมุมไหน แต่เราไม่ใช่คนปั่น 🤣 ซ้อนไปด้วยความสบายใจ..
ยามเย็นที่แสนเพลิดเพลิน เราได้มาเดินตลาดคนเดินในบริเวณหมู่บ้านที่มีร้านเพียงไม่กี่ร้าน ทั้งร้านขายขนม เฟรนฟราย ไก่ทอด ปิ้งย่างหม่าล่า ขนมหวาน และที่พลาดไม่ได้เลย คือ งานฝีมือ บรรยายกาศที่เกิดขึ้นแฝงด้วยความอบอุ่นของคนในพื้นที่ ทุกคนเป็นกันเอง เสียงเพลงเบา ๆ ได้ถูดเปิดในระหว่างทางของถนนคนเดิน บอกได้เลยว่าเดินดูของด้วยกินด้วย เพลิดเพลินมาก...
เมื่อเราพักผ่อนเต็มอิ่มกับธรรมชาติที่สะปันแล้ว เดินทางไปต่อกันที่ อำเภอเมืองน่าน ระหว่างที่เดินทางจิตใจก็ยังคอยมองหาดอกพญาเสือโคร่งที่คิดว่าจะมี จนสุดท้ายเราต้องถอดใจ เพราะเราได้มาถึงสถานที่สุดท้ายคือ ใจกลางเมืองน่าน มีวัดนึงที่ใครมาที่นี่แล้วต้องมาถ่ายภาพ กระซิบรัก 🤫 ถ้าไม่มาเช็คอินถือว่ามาไม่ถึง คือวัดภูมินทร์ หลังจากที่เช็คอินเรียบร้อยก็เดินทางต่อกันที่วัดโดยรอบ
จนมาถึงวัดพระธาตุเขาน้อย เป็นวัดสุดท้ายสุดท้ายที่มายืนดูพระอาทิตย์ตก และได้ชมเมืองน่าน ก่อนที่จะไปต่อกันที่ถนนคนเดิน และจบลงด้วยความอิ่มหน่ำสำราญ
การเดินทางมาถึงช่วงสุดท้าย.. ความสุขที่เกิดขึ้นระหว่างการเดินทางก็จะเก็บเกี่ยวไว้เยี่ยวยาจิตใจ โดยที่เราไม่รู้เลยว่าจะมีโอกาสได้รับหรือสัมผัสความสุขแบบนี้ได้อีกเมื่อไหร่ แต่อย่างน้อย ๆ เราได้เรียนรู้ว่า คนเราก็ยอมมีคาดหวัง สมหวัง และผิดหวัง แต่เราก็ควรที่จะยอมรับและเดินทางต่อ เพื่อตามล่าหา ดอกพญาเสือโคร่ง 🤗
โฆษณา