2 ก.พ. เวลา 08:25 • ท่องเที่ยว
Kamo River

Kamo River, Kyoto

แม่น้ำคาโมะแห่งเกียวโต แม่น้ำแห่งความสบายใจ
ถ้ามีโอกาสมาจังหวัดเกียวโต เรามักจะแวะมาเดินเล่นริมแม่น้ำคาโมะเสมอ เชื่อว่านักเดินทางที่หลงรักญี่ปุ่นคงจะคิดเหมือนเราไม่มากก็น้อย
เมืองเกียวโตมีแม่น้ำหลายสายไหลผ่านเพราะโอบล้อมด้วยภูเขาก็จริง แต่กล่าวได้ว่าแม่น้ำคาโมะได้รับความนิยมที่สุด ในภาษาญี่ปุ่นเรียกว่าคาโมะ-กาวะ เขียนอย่างเป็นทางการโดยใช้ตัวคันจิผสม คันจิตัวแรกหมายถึง "เป็ด" อ่านว่าคาโมะ คันจิตัวที่สองหมายถึง "แม่น้ำ" แปลตรงตัวได้ว่า “แม่น้ำเป็ด”
หนึ่งในสะพานข้ามแม่น้ำคาโมะจำนวนมากมาย มองลอดกิ่งซากุระในฤดูหนาว
แม่น้ำคาโมะมีความยาว 31 กิโลเมตร ต้นกำเนิดมาจากพื้นที่แถบภูเขาซาจิกิกาตาเกะ รอบๆ หมู่บ้านคุโมะกะฮาตะและหมู่บ้านเคโฮกุ ด้านเหนือของจังหวัด ไหลลงสู่แอ่งเกียวโต จากนั้นโค้งไปทางตะวันออกเฉียงใต้รอบจุดที่เรียกว่าเดมาจิในเขตเกียวโตตอนบน รวมกับแม่น้ำทาคาโนะซึ่งไหลลงมาจากทิศตะวันออกเฉียงเหนือ และเปลี่ยนทางไปทิศใต้ผ่านเกียวโตตอนกลาง เรียกว่าไหลผ่านเมืองจากเหนือจรดใต้
สองริมฝั่งแม่น้ำซึ่งเป็นเส้นทางเดินสุดโปรดปรานของชาวญี่ปุ่นและนักท่องเที่ยวรู้จักกันในชื่อ ริมฝั่งแม่น้ำทาดาสุ ในฤดูร้อน (พฤษภาคม-กันยายน) ร้านอาหารจะเปิดระเบียงที่มองออกไปเห็นแม่น้ำให้ลูกค้ามานั่งเล่นชมวิวคลายร้อน ส่วนตัวเราชื่นชอบฤดูใบไม้ร่วงและฤดูหนาวเป็นพิเศษ เพราะอากาศเหมาะสำหรับเดินไปเรื่อย ๆ เริ่มเมื่อยขาก็นั่งพักฟังเสียงนกร้อง เสียงระลอกน้ำซัดสาด เสียงใบไม้พัดกรูกราวยามต้องลม รู้สึกสบายใจเป็นที่สุด
ใบไม้โกร๋น ๆ หญ้าแห้ง ๆ แต่มองแล้วสบายตาจัง
จุดที่แม่น้ำสองสายมาบรรจบกันเป็นสามเหลี่ยมปากแม่น้ำเรียกว่า คาโมะกาวะ เดลต้า ตรงนี้มีตัวช่วยข้ามสองฝั่งคือก้อนหินขนาดใหญ่หลายก้อนเรียงพาดแม่น้ำ แต่ระยะห่างระหว่างหินแต่ละก้อนไม่ได้ใกล้ชิดกันมาก ต้องกระโดดอย่างระมัดระวังนะคะ มากี่ครั้งเราก็ไม่เคยใช้วิธีนี้ข้ามไปอีกฝั่ง เพราะแค่เดินไป สูดลมหายใจเข้าลึก ๆ ออกยาว ๆ มองสารพันชีวิตตามรายทางก็ตื่นตาและใช้เวลาเยอะพอสมควรแล้ว
เรื่องเล่าของแม่น้ำคาโมะย้อนกลับไปได้ตั้งแต่ยุคเอโดะ สมัยนั้นบริเวณนี้ก็เป็นแหล่งบันเทิงและย่านเกอิชาเลื่องชื่อแล้ว ยุคนั้นมีโรงน้ำชา ที่นั่งพักชมการแสดงในงานเทศกาลริมแม่น้ำคาโมะ ต่อมาในสมัยเมจิและไทโช ร้านค้าริมน้ำจึงเริ่มสร้างระเบียงไม้ตามแนวแม่น้ำ หรือ ‘โนเรียว ยูกะ’ (Nouryo Yuka) มีที่นั่งประเภทยกสูงและเสื่อทาทามิ
ต่างคนต่างใช้เวลาของตัวเองอย่างสบายใจ
นอกจากเป็นแม่น้ำที่มีประวัติยาวนาน มอบความรื่นรมย์ให้ผู้คน แม่น้ำคาโมะยังเต็มไปด้วยความศรัทธา เพราะคนเกียวโตเชื่อกันว่าน้ำในแม่น้ำบริสุทธิ์สะอาด เหมาะสำหรับทำพิธีกรรมและเทศกาลที่เชื่อมโยงกับศาลเจ้าในเกียวโตด้วย
จุดบรรจบของแม่น้ำทั้งสองสายยังเป็นที่ตั้งของศาลเจ้ามรดกโลกสองแห่งอย่างศาลเจ้าคามิคาโมะ (Kamigamo Shrine) และศาลเจ้าชิโมะคาโมะ (Shimogamo Shrine) ถัดจากตรงนี้เป็นพื้นที่ชีวิตที่เต็มไปด้วยสีสันตลอดวันถึงค่ำคืนของเมือง รวมถึงเป็นแหล่งกำเนิดของโรงละครคาบูกิด้วย
มองเห็นโรงละครคาบูกิบนฝั่งจากทางเดินริมแม่น้ำ
เดินเล่นริมแม่น้ำคาโมะ นอกจากจะได้พบฝูงเป็ดสมชื่อแม่น้ำที่ยกพลมาให้เราชื่นตาชื่นใจ ยังได้ทอดสายตาชมบ้านเรือนของชาวเกียวโต วิถีผู้คนที่ออกมารับลมนั่งเล่น ทั้งคู่รัก พนักงาน ครอบครัว แก๊งเด็ก นักท่องเที่ยว คนที่ต้องการปลีกวิเวก ใช้เวลาอยู่กับตัวเองเงียบ ๆ (แบบเรา) วันดีคืนดีอาจจะได้พบน้องแมวกำลังวิ่งเล่นเริงร่า พ่อบ้านแม่บ้านจูงหมาออกมาเดินเล่น ทุกคนทุกสิ่งล้วนใช้เวลาอยู่กับแม่น้ำคาโมะอย่างมีชีวิตชีวา
พบน้องแมวหนึ่งอัตรา กำลังเยื้องย่างบนกำแพงบ้านเรือน ริมแม่น้ำคาโมะ
เส้นทางเลียบแม่น้ำคาโมะมีทางเดินเป็นพื้นผิวหินและอยู่ใต้ระดับถนน รวม ๆ มีเส้นทางทั้งสิ้น 19 กิโลเมตร ตลอดสองฝั่งมีสะพานเป็นระยะ เรียงรายด้วยพื้นที่สีเขียวกว้าง เส้นทางจักรยาน พร้อมม้านั่งและพื้นที่ออกกำลังกายมากมาย
นอกจากวิธีเดิน สามารถเช่าจักรยานปั่นเล่นได้ เส้นทางสองฝั่งแม่น้ำที่สะอาดสะอ้าน แทบไม่มีจุดสะดุด จึงเป็นเส้นสัญจรของหลายอย่างรวมกัน ทั้งคนเดิน จักรยานวิ่ง คนนั่งวาดรูป เกอิชา คนทำกิจกรรมต่าง ๆ สเก็ตบอร์ด และอื่น ๆ อีกมากมาย เดินแล้วควรระมัดระวัง รักษามารยาท เคารพความเป็นส่วนตัวของคนอื่นด้วยนะคะ
แม่น้ำคาโมะต้นฤดูใบไม้ร่วง
การเดินทาง :
จากสถานีเกียวโต ขึ้นรถไฟสาย Keihan มาลงสถานีเดมาจิยานางิ (Demachiyanagi) ทางออก 3 เดินต่อประมาณ 1 นาที
น้องเป็ดกำลังเริงร่าในแม่น้ำเป็ด
หมายเหตุ :
ภาพถ่ายบันทึกไว้ในฤดูหนาว ต้นเดือนมกราคม ปี พ.ศ. 2562 และฤดูใบไม้ร่วง กลางเดือนพฤศจิกายน พ.ศ. 2566
โฆษณา