อย่าปล่อยให้ฮามาสต้องทนทุกข์ทรมานอีกต่อไป
ฮามาสเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดของใครบางคน แต่อย่างไรก็ตาม ในประเทศที่เคร่งศาสนาเช่นนี้ กลับมองว่าผู้หญิงเป็นเพียงเครื่องจักร
ข่าวนี้ ผมได้รับมาจากเพื่อนๆในกลุ่มเล็กๆ และเนื้อหาต่อไปนี้อาจทำให้เกิดอาการไม่สบายใจ เช่น ความขัดแย้งภายในหรือความโกรธ หากคุณมีอาการนี้และรู้สึกว่าถูกเข้าใจผิด โปรดหลีกเลี่ยง และ หากมีความรุนแรงหรือความกังวลสามารถบอกผ่านเพื่อลบได้นะครับ
แต่ก็ตามที่ผมโปรยไว้ มีคำหนึ่งที่เคยผ่านหู แต่กลับมีความหมายมากมายนั่นคือ .....ความมีน้ำใจจะจำกัดจินตนาการของผู้คน......
แม้แต่ ณ ตอนนี้ ชายอิสราเอล 4 คนก็ถูกสหรัฐฯ คว่ำบาตรเนื่องจากเกี่ยวข้องกับความรุนแรงในพื้นที่เวสต์แบงก์
ประธานาธิบดี ไบเดน ของสหรัฐฯ ออกคำสั่ง ที่มุ่งเป้าไปที่ชาย 4 คน ผู้ที่ถูกกล่าวหาว่ามีส่วนร่วมในการตั้งถิ่นฐานในเขตเวสต์แบงก์มีการลงโทษชายชาวอิสราเอลที่มีส่วนร่วมในกิจกรรมที่รุนแรง
นี่แสดงให้เห็นว่าสหรัฐฯ ไม่พอใจกับนโยบายบางอย่างของนายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮู ของอิสราเอลมากขึ้นเรื่อยๆ
ทั้งนี้ สหรัฐอเมริกา ได้อายัดทรัพย์สินของชายอิสราเอล 4 คนในสหรัฐอเมริกา และห้ามชาวอเมริกันธรรมดาติดต่อกับชายทั้ง 4 คนนี้
แต่ในบรรดาผู้ที่สนับสนุนกลุ่มฮามาสรู้หรือไม่ว่าผู้ก่อการร้ายเหล่านี้สามารถทำได้ขนาดไหนและชั่วร้ายเพียงใด?
เมื่อวันที่ 14 มกราคม พ.ศ. 2567 ผู้สนับสนุนชาวอิสราเอลโบกธงและรวมตัวกันที่จัตุรัสทราฟัลการ์ในใจกลางลอนดอนเพื่อประท้วง
การประท้วงเพื่อแสดงการสนับสนุนครอบครัวของเหยื่อ ครอบครัวของตัวประกัน ทหาร และประชาชนอิสราเอล
หลังจากที่กลุ่มฮามาส องค์กรติดอาวุธปาเลสไตน์เปิดฉากโจมตีอิสราเอลข้ามพรมแดนเมื่อวันที่ 7 ตุลาคม 2566 พยานชาวอิสราเอลจำนวนหนึ่งที่รับผิดชอบในการจัดการกับศพ
ได้ไปที่รัฐสภาอังกฤษเมื่อวันที่ 31 มกราคม และเสนอคำให้การล่าสุดของการล่วงละเมิดทางเพศโดยกลุ่มฮามาส
อันได้แก่ ร่างเปลือยของผู้หญิงที่ปกคลุมไปด้วยเลือด และร่างของทหารหญิงที่ถูกยิงทำลายช่องคลอด
อย่างไรก็ตาม กลุ่มฮามาสยังคงปฏิเสธว่ามันเป็นฝีมือของกลุ่มชายติดอาวุธที่ล่วงละเมิดทางเพศผู้หญิงในระหว่างการโจมตี
ตามรายงานของ BBC มิริต เบน (Mirit Ben) หัวหน้าผู้กำกับการของอิสราเอลกล่าวว่าเธอมี “หลักฐานที่ชัดเจน” ว่าขนาดของการล่วงละเมิดทางเพศ
และความรุนแรงทางเพศอื่นๆ นั้นใหญ่พอที่จะนิยามว่าเป็นอาชญากรรม ต่อมนุษยชาติ
สมาชิกสภาคองเกรสหลายคนที่เข้าร่วมฟังอดไม่ได้ที่จะหลั่งน้ำตาขณะฟังคำให้การ
หลังการโจมตีข้ามพรมแดนของกลุ่มฮามาสเมื่อวันที่ 7 ตุลาคมปีที่แล้ว
ชารี เมนเดส(Shari Mendes) ถูกเกณฑ์ให้เป็นกองหนุน และไปที่ฐานทัพชูรา (Shura)เพื่อช่วยเจ้าหน้าที่ทางการแพทย์ในการระบุศพผู้หญิง
เธอเล่าว่าตอนที่(ศพ)ผู้หญิงจำนวนมากถูกส่งมา มีเลือด ชุดชั้นในขาด และบางคนถึงกับเปลือยเปล่า
หัวหน้าของเราเห็นทหารหญิงหลายคนถูกยิงที่ช่องคลอด หว่างขา หรือหน้าอก การขลิบอวัยวะเพศศพเป็นการปฏิบัติโดยเจตนาและเป็นระบบซึ่งไม่จำเป็น
ทีมระบุตัวตนยังได้เห็นเหตุการณ์น่าสลดใจที่ศพถูกตัดหัวหรือถูกตัดแขนขาออก ฉันมาที่นี่เพื่อพูดแทนพวกเขา
ZAKA องค์กรศาสนาของอิสราเอลและทีมปฐมพยาบาลเอกชน ทุ่มเทให้กับการรวบรวมและฝังศพ
อาสาสมัครของบริษัท Simcha Greiniman ที่ทำงานร่วมกันก็เปิดเผยกับ BBC ว่า
เขาพบศพจำนวนมากหลังจากการโจมตีของกลุ่มฮามาส และเห็นได้ชัดว่าเหยื่อบางรายถูกล่วงละเมิดทางเพศ
สิ่งที่เราบอกคือความจริง ดังนั้น โลกจึงต้องเข้าใจและดำเนินการ เพื่อที่พวกเขาจะต้องชดใช้ ในราคาสำหรับสิ่งที่พวกเขาทำ
Greniman เล่าว่าครั้งหนึ่งเขาเคยพบผู้หญิงคนหนึ่งนอนอยู่บนเตียงในห้องนอนของบ้านหลังหนึ่ง
เธอเปลือยครึ่งท่อนตั้งแต่เอวลงมาและถูกยิงที่ด้านหลังศีรษะ...
และมือ(ศพที่แข็งตัว)ของเธอก็กำระเบิดไว้ในตัว
มีศพผู้หญิงอีกคนที่พบตะปูและสิ่งของต่าง ๆ ภายในร่างกายและอวัยวะส่วนตัวของเธอ ซึ่งเป็นสิ่งที่คุณนึกไม่ถึงด้วยซ้ำ
บีบีซี(BBC) ชี้ให้เห็นว่าทั้ง Mendes และ Greneman แม้ไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญด้านความรุนแรงทางเพศ แต่คำให้การของพวกเขาสอดคล้องกับหลักฐานที่นำเสนอโดยรัฐบาลอิสราเอล
ซึ่งมีพื้นฐานจากการสืบสวนทางนิติเวชและพยานหลายร้อยคน และสอดคล้องกับผู้ช่วยเหลือแนวหน้า ที่ทำการรวบรวมจากคำให้การ
นอกจากนี้ บีบีซี ยังมีหลักฐานว่ามีผู้หญิงที่ถูกล่วงละเมิดทางเพศ
และทำร้ายร่างกาย รวมถึงวิดีโอที่ถ่ายโดยผู้เห็นเหตุการณ์ในเทศกาลดนตรีโนวา
และรวมถึงรูปของมือปืนของกลุ่มฮามาส ตลอดจนภาพถ่ายศพที่ถ่ายในสถานที่โจมตีบางแห่ง
ทางด้านสหราชอาณาจักร รัฐมนตรีกระทรวง เคมี บาเดนอช (Chemi Badenoch) กล่าวว่ารายงานทั้งหมดจะต้องได้รับการสอบสวนอย่างเต็มที่
และต้องประณามความรุนแรงทางเพศ
เธอกล่าวว่าสหราชอาณาจักรยืนหยัดเคียงข้างเหยื่อทุกคนและเรียกร้องให้องค์กรระหว่างประเทศดำเนินการมากกว่านี้
เพื่อประณามความรุนแรงทางเพศต่อชาวอิสราเอลอย่างชัดเจน และจะต้องไม่มีสองมาตรฐาน
ก่อนหน้านี้เจ้าหน้าที่และนักเคลื่อนไหวของอิสราเอลเคยบ่นว่าผู้นำขององค์การสหประชาชาติและองค์กรระหว่างประเทศดำเนินการดึงเกมให้ช้าลง
ในการตอบสนองต่อข้อกล่าวหาเรื่องความรุนแรงทางเพศ
ดังนั้นจึงแต่ตั้ง ปรามิลา แพตเทน (Pramila Patten)ทูตพิเศษแห่งสหประชาชาติที่รับผิดชอบในการสืบสวนความรุนแรงทางเพศในความขัดแย้ง
เธอจึงเดินทางเยือนอิสราเอลเมื่อวันที่ 29 มกราคม 2567 และเรียกร้องให้ทุกคนลุกขึ้นและทำลายความเงียบ
เพราะความเงียบของคุณจะกลายเป็นใบอนุญาตสำหรับผู้กระทำความผิด เราหวังเป็นอย่างยิ่งว่าเราจะสามารถรับประกันความยุติธรรมให้กับผู้ที่ตกเป็นเหยื่อ
เพื่อที่เราจะได้ยุติการกระทำที่เลวร้ายนี้
แต่อีกด้านนึง ผู้เชี่ยวชาญด้านสิทธิมนุษยชนขององค์การสหประชาชาติระบุไว้ก่อนหน้านี้ว่ารายงานความรุนแรงทางเพศ
ถือเป็นการละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศอย่างร้ายแรง
และถือเป็นอาชญากรรมสงคราม เมื่อพิจารณาจากเหยื่อจำนวนมาก
และการวางแผนการโจมตีอย่างกว้างขวาง พวกเขาจึงอาจเข้าข่ายเป็นอาชญากรรมต่อมนุษยชาติด้วย
ในตัวอย่าง ในความโหดร้ายของฮามาสถูกเปิดเผย ได้แก่ การควักตา ตัดหน้าอกของผู้หญิง การผ่าตัดคลอดเพื่อเอาทารกในครรภ์ออก
เมื่อวันที่ 23 ตุลาคม 2566 โมเช เมลาเยฟ (Moshe Melayev) สมาชิกทีมกู้ภัยแห่งชาติอิสราเอล ถูกสัมภาษณ์โดย Fox News ในสหรัฐอเมริกา
เขาบรรยายถึงสิ่งที่เขาได้ทำในฉนวนกาซาในชุมชนชายแดน
ผมได้เห็นความโหดร้ายมากมายที่กลุ่มฮามาสก่อขึ้น ฉันเห็นศพที่ถูกตัดศีรษะด้วยจอบ เสียม หรือมีดดาบ (อาาา.... คำนี้มาอีกแระ)
ชิ้นส่วนต่างๆ กระจัดกระจายไปทั่ว และครอบครัวหนึ่งที่ครอบครัวทั้งหมดถูกสังหารหมู่และศพของพวกเขาถูกทิ้งไว้บนพื้นของบ้าน
Melayev กล่าวว่าเหมือนครอบครัวของเหยื่อกำลังเพลิดเพลินกับกาแฟยามเช้าในบ้านเมื่อไม่กี่ชั่วโมงก่อน
แต่ไม่คาดคิดว่าพวกเขาถูกกลุ่มฮามาสสังหารอย่างโหดเหี้ยม
ในตอนแรกพวกเขาฆ่าสามีก่อน(เด๋วๆๆๆ รู้ๆได้ไงก่อน?) จากนั้นก็ควักตาและตัดหน้าอกของภรรยาออก ตลอดจนขาของลูกสาวซึ่งพบเห็นเป็นศพในที่เกิดเหตุ
พันเอกฮาอิม ไวสส์เบิร์ก (Haim Weisberg) จากอิสราเอล ซึ่งมีหน้าที่ระบุตัวตนของศพในที่เกิดเหตุก็ให้สัมภาษณ์ด้วยอีกดอก โดยเขาบอกว่า
เขาเห็นศพของหญิงมีครรภ์คนหนึ่งที่ถูกกลุ่มฮามาสสังหารก่อนเสียชีวิต พวกเขาได้นำทารกในครรภ์ออกโดยการผ่า(ตัด)คลอด
และทารกนั่นถูกฆ่าตายต่อหน้าต่อตาหญิงมีครรภ์ แล้วต่อมาก็ถึงคิวของหญิงคนนั้น
ไวสส์เบิร์ก กล่าวด้วยความโกรธว่าการกระทำในทางที่ผิดทั้งหมดนี้ถูกถ่ายและบันทึกโดยกลุ่มฮามาสนั้นเอง
ซึ่งรวมถึงการตัดศีรษะของเด็กทารก การตัดอวัยวะเพศของทหารและพลเรือน และการล่วงละเมิดทางเพศเด็ก หญิงสูงอายุ(มรึงก็ไม่เว้นเนอะ) และฉากที่น่าสลดใจอื่นๆ
สิ่งนี้ไม่เคยเกิดขึ้นนับตั้งแต่สมัยการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์
เราเห็นครอบครัวต่างๆ ถูกบรรทุกและขับออกไปด้วยรถบรรทุกและเรายังคงเก็บศพที่ถูกสังหารหมู่ไว้ในสถานที่ต่างๆ
ตามรายงานของ British Daily Mail แซลลี่ (Sally)ซึ่งเป็นอาสาสมัครที่ฐานทัพชูราใกล้เมืองเทลอาวีฟ ประเทศอิสราเอล
เธอเติบโตขึ้นมาในนครนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา และในเจอร์ซีย์แต่ได้ย้ายไปอิสราเอลเมื่อ 20 ปีที่แล้ว ปัจจุบันเธอมีลูก 4 คน
แม่และยายของเธอเป็นผู้รอดชีวิตจากการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ที่ถูกนำตัวมายังออสโลจากเชโกสโลวะเกีย (โดยแยกทางกันในปี 2535)
ในหมู่พวกเขา นี่เป็นสมาชิกคนเดียวในครอบครัวที่รอดชีวิตจากความเข้มข้นของค่ายเอาชวิทซ์ (ค่ายกักกันเอาช์วิทซ์-เบียร์เคอเนา) .
แซลลี่บอกว่าเธอเคยได้ยินเรื่องราวเกี่ยวกับค่ายกักกัน
แต่สิ่งที่เธอเห็นด้วยตาตัวเอง ที่นี่เลวร้ายยิ่งกว่าการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์เสียอีก แซลลี่ได้เป็นอาสาสมัคร Military Rabbinate ของกองกำลังป้องกันประเทศอิสราเอลเมื่อประมาณ 2 ปีที่แล้ว
Military Rabbinate คือสมาชิกกองทัพที่ประกอบพิธีทางศาสนาเช่น งานศพ
หลังจากการโจมตีของกลุ่มฮามาส เธอทำหน้าที่ช่วยระบุศพ
เธอกล่าวว่า "เราทำความสะอาดศพเพื่อเตรียมงานศพและพยายามทำให้พวกเขาตายอย่างมีศักดิ์ศรี
แต่สิ่งที่คนป่าเถื่อนทำกับผู้คนนั้นเป็นเรื่องที่รับไม่ได้อีกต่อไป โดยคำพูดไม่สามารถอธิบายได้
แซลลี่ชี้ให้เห็นว่ามีหลักฐานอยู่แล้วว่ากลุ่มฮามาสได้ล่วงละเมิดทางเพศพลเรือนจำนวนมาก เช่น ผู้หญิง หญิงชรา และเด็ก
วิธีการของมันโหดร้ายอย่างยิ่งและทำให้เหยื่อกระดูกเชิงกรานหัก และมีผู้ที่ถูกตัดศีรษะ
ผู้หญิงในชุดนอนบางคนถูกปลุกให้ตื่นและถูกยิงเสียชีวิต
บางคน ใบหน้าถูกทำให้แตกกระจาย ศีรษะมีเลือดออก สมองล้นไหล และแม้แต่เด็กทารกก็ถูกตัดหัวหลังจากแยกจากหญิงตั้งครรภ์
และแม้แต่แม่ของเด็กก็ถูกตัดหัวด้วย
ฉันอาสาทำความสะอาดศพของผู้หญิงที่ถูกฆาตกรรมเหล่านี้ โดยต้องการมอบศักดิ์ศรีที่สมควรได้รับแก่พวกเธอ
รายงานระบุว่าศพบางส่วนมีใบหน้าที่แทบจำไม่ได้และบางส่วนสูญเสียแขนขาทำให้ยากต่อการระบุตัวผู้เสียชีวิต
มีผู้เสียชีวิตประมาณ 200 คนถูกแยกชิ้นส่วนหรือเผาและมีเพียงบางศพที่สามารถระบุตัวตนได้ผ่าน DNA หรือบันทึกทันตกรรมเท่านั้น
ซึ่งสอดคล้องตามที่พันเอก Haim Weisberg ของอิสราเอลกล่าวไว้ว่า
“เราเห็นหลักฐานของการทรมานและความป่าเถื่อน มีเด็กทารกถูกตัดศีรษะ ศพไม่มีแขนและขา(หายไป) และพบว่าบางศพที่ไม่มีอวัยวะเพศ
- 6
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
