3 ก.พ. เวลา 01:16 • ความคิดเห็น
พอเรารู้จัก เรื่องราวของกรรม เรื่องของอารมณ์ รู้จักคำว่าจิตมากขึ้น .. ตาหูวิญญาณของเรา ไปเจอะเจอ คนที่เค้าใช้อารมณ์ แสดงอาการอะไรต่างๆ ที่เร่าร้อน เป็นอารมณ์ที่เป็นไฟ ใช้ลิ้นที่เค้าเรียกว่า ลิ้นกบิลยักษ์ มีเขี้ยวเหมือนยักษ์ หน้าตาเป็นยักษ์ นางมารร้าย อวดฤทธิ์อวด ฟาดหัวฟาดหาง เหมือนตัวข้ามันดี..แสดงออกมา ให้ดู ..เช่นคนมักโกรธ หงุดหงิด ร้อนเป็นไฟ เราเอาเรื่องของเค้ามาคุย ก็เหมือนเอาของร้อนมาคุย อารมณ์ที่ร้อนเป็นไฟก็ไหลเข้ามา สู่กายของเราเผาผลาญกายของเรา เค้าร้อนเค้าเป็นไฟ เราก็ร้อนไปตามเค้า
บางเรื่อง ..เราเจอะเจอเพื่อน เผลอเอาเรื่องราวร้อนๆ เรื่องของที่เค้าใช้ทิฐิ แบ่งสี แบ่งพวก ปั่นอารมณ์คน ให้ร้อนเป็นไฟ เราก็เอามาคุยกับเพื่อน คุยกันไปมาไม่นาน ไฟมันก็ลุก ขึ้นมา เห็นไอ้คนนั้นคนี้ไม่ดี เรื่องนั้นเรื่องนี้ เรื่องโกงเรื่องทะเลาะ ..เรื่องอวดเก่งอวดดี เสีอดสี เชือดเฉือน ..ข่มแหงกันทางคำพูดบ้าง
..เราเอามาคุยกัน พักเดียว ..ตัววิจารณ์ ตัวไม่ชอบใจ ไม่พอใจ ..ตัวทิฐิมันก็เกิด ว่า..จะต้องเป็นอย่างนั้นอย่างนี้…เริ่มอวดดีอวดรู้ ..แสดงความคิดเห็น ..มาเป็นขบวนเลย ใครมาขัดคอ..ก็ไม่ชอบ ..เกิดการเหวี่ยงอารมณ์ใส่กัน เมื่อความคิดเห็นไม่ตรงกัน ..นี่แหละเค้าจึงเตือนว่า เจอเพื่อนอย่าเอาเรื่องการเมืองมาคุยกัน เรื่องคนเค้ามีแต่อารมณ์ทิฐิทะเยอทะยาน ..อยากเป็นนั้นเป็นนี้ มีแต่ไฟทั้งนั้น
คนบ้างคน..เค้ามีเรื่องราวที่เป็นไฟ ทิฐิมาก มีไฟ..มาก เหมือนกองไฟ .แค่ไปนึกติดถึงเค้า แค่นึกถึงคิดถง ไฟมากก็มา คือ อารมณ์เป็นไฟ ความนึกคิดก็เป็นไฟ ..ที่นึกคิดไปเรื่องราวของเค้า ไฟมันก็เผาตัวเอง จุดไฟมาเผาตัวเอง ..เอาของร้อนเข้ามา ทำให้อารมณ์แปรปรวนไม่ปกติ ..แล้วเราไปนึกถึง ไปพูดถึงเค้าทำไม
บางเรื่องราวที่ไม่ดี แค่ตาหูเราได้ยิน มันก็ลุกเป็นไฟ เช่นไปเห็นคนมาติเตียนเรา ด่าเราฉอดเสียๆหาย ..ไฟมันก็ลุกที่เรา ลุกแล้วดับยาก ทำอย่างไรจะตอนนั้น จะปิดหูปิดตาได้ ในเหตุเฉพาะหน้า ..ทำอย่างไรดีหนอ..
แม้แต่เรื่องราวไสยศาสตร์ ของขลัง .ก็ไม่อยากไปดูไปพูดถึง ..คนที่เค้าหลงไหลกัน พอไปนึกถึง เรื่องราวของไฟมัน ก็กระพือเข้า ลุกลามแรงเสียด้วย ..เราก็ไม่ไปพูดถึงนึกเรื่องราวของเค้ามาในกายในจิตของเรา
เมื่อเราเจอเจอ ..มันมีแต่กองไฟ ที่จุดอยู่ในคน ที่มีมากมาย เราก็ไม่เอาไฟข้างนอกเข้ามาเปาตัวเองให้เพิ่มพูนมากขึ้น เดี๋ยวไฟมันจะไหม้บ้าน มีการตบตีทะเลาะกัน ไฟไหม้หนัก..ไม่ยอมกัน ตีกันทะเลาะกันจนบ้านพัง คือกายที่ตนอาศัย เข่นฆ่ากันตาย เราก็ดูแลบ้านเรา กายวาจาใจของเรา แค่ไฟในบ้านในกายนี้ ยังมีเชื้อไฟดับไม่ได้เลย…ราคะตัณหา ..ไฟโลกโกรธหลง มันเป็นไฟดับไม่ได้เลย
แล้วมันยังเผาตัวเองอยู่ แล้วมันก็พร้อมจะส่งไฟไปเผาคนอื่นอีก เราก็พยายามควบคุม ไฟให้บ้านเรา อาศัยน้ำธรรม มาช่วยดับไฟ มันลุกผุดขึ้นมา เราก็ไล่ดับไฟที่บ้านเรา บ้านนี้ที่จิตอาศัยมันก็ร่มเย็น กายเป็นสุข สุขทั้งกายทั้งใจ จิตอาศัยบ้านนี้อาศัยก็สุขสบายใจ
โฆษณา