5 ก.พ. เวลา 08:00 • ธุรกิจ

หนังสือเดินทางใบเดียว 'เที่ยวได้รอบโลก' เปิดนโยบายเพื่อไทยเป็นไปได้หรือแค่ขายฝัน

หลังจีนอนุมัติฟรีวีซ่าไทย รัฐบาลเดินหน้าต่อเจรจาขอฟรีวีซ่ากับประเทศในเขตเชงเก้น หวัง 'เดินทางฟรีวีซ่าในเขตทวีปยุโรป'
ล่าสุด พาสปอร์ตไทยจะสามารถเดินทางเข้าประเทศจีนได้โดยไม่ต้องขอวีซ่า ซึ่งจะมีผลบังคับใช้วันที่ 1 มี.ค. 2567 รัฐบาลพร้อมเดินหน้าต่อเจรจากับสหภาพยุโรปเพื่อขอให้ยกเว้นวีซ่าเชงเก้นให้กับหนังสือเดินทางไทย โดยระหว่างการร่วมงาน World Economic Forum ที่เมืองดาวอส ประเทศสวิตเซอร์แลนด์
จากนโยบายด้านการต่างประเทศของเพื่อไทยในการเลือกตั้งปี 2566 ที่เคยหาเสียงไว้ว่า “หนังสือเดินทางไทย เดินทางได้ทั่วโลก” โดยระบุว่าต้องการเสริมอิทธิพลหนังสือเดินทางไทย ให้คนไทยเดินทางไปได้ทั่วโลกโดยไม่ต้องขอวีซ่า
โดยก่อนหน้านี้ไทยได้ยกเว้นวีซ่าให้กับนักท่องเที่ยวจีนไปตั้งแต่วันที่ 25 ก.ย. 2566 ซึ่งส่งผลให้นักท่องเที่ยวจีนสามารถเดินทางเข้ามายังประเทศไทยได้เลยโดยไม่ต้องขอวีซ่าตั้งแต่วันดังกล่าวเป็นต้นมา โดยกระทรวงการต่างประเทศระบุว่าความตกลงนี้เป็นส่วนหนึ่งของการเฉลิมฉลองครบรอบ 50 ปี ความสัมพันธ์การทูตไทย-จีน ในปี 2568
รัฐบาลภายใต้การนำของนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีจากพรรคเพื่อไทย ยังเดินหน้าเจรจากับสหภาพยุโรปกับสหราชอาณาจักร เพื่อขอให้ยกเว้นวีซ่าเชงเก้นให้กับหนังสือเดินทางไทย โดยระหว่างการร่วมงาน World Economic Forum ช่วงกลางเดือน ม.ค. ที่ผ่านมา นายเศรษฐาได้พูดคุยหารือกับ นายอเล็กซานเดอร์ เดอ ครู นายกรัฐมนตรีประเทศเบลเยียม และ นางอัวร์วูลา ฟอน แดร์ ไลเอิน ประธานคณะกรรมาธิการยุโรปแห่งสหภาพยุโรป เรื่องขอยกเว้นวีซ่าเชงเก้นให้กับหนังสือเดินทางไทย ควบคู่ไปกับการหารือทางการค้าอื่น ๆ
ก่อนที่ สส.ก้าวไกลจะติงนายกฯ ให้หยุดขายฝันฟรีวีซ่าเชงเก้น
นายจุลพงษ์ อยู่เกษ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) บัญชีรายชื่อพรรคก้าวไกล และรองประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) การต่างประเทศ สภาผู้แทนราษฎร กล่าวว่า "เขากังวลกับท่าทีของนายเศรษฐาที่ยังให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนอย่างต่อเนื่องว่ารัฐบาลกำลังเดินเรื่องเจรจากับสหภาพยุโรป เพื่อขอยกเว้นวีซ่าเชงเก้นสำหรับพลเมืองที่ถือหนังสือเดินทางไทย ทั้งที่ทางอียูมีหนังสือตอบกลับอย่างเป็นทางการมาตั้งแต่ปลายปีที่แล้วว่ายังไม่พิจารณายกเว้นวีซ่าเชงเก้นให้กับไทย"
พร้อมกล่าวอ้างเสริมอีกว่า "ตนเองได้รับข้อมูลว่า ช่วงเดือน ต.ค. 2566 ทางสถานทูตไทยในยุโรปทำหนังสือไปยังสหภาพยุโรป เพื่อขอเจรจายกเว้นวีซ่าเชงเก้น จากนั้นประมาณเดือน พ.ย. 2566 มีหนังสือลงนามโดยเลขาธิการฝ่ายกิจการเข้าเมืองและกิจการภายในของสหภาพยุโรปได้ตอบกลับทางการไทยมาว่า
อียูไม่มีนโยบายพิจารณายกเว้นวีซ่าให้แก่พลเมืองประเทศใดประเทศหนึ่งโดยการร้องขอของประเทศนั้นเพียงประเทศเดียว เนื่องจากการพิจารณายกเว้นวีซ่าของอียูนั้นจะพิจารณาเป็นรอบ ๆ ซึ่งจะนำคำขอของหลายประเทศมาพิจารณารวมกัน และจะเปิดพิจารณาอีกครั้งช่วงกลางปี 2568"
ในหนังสือดังกล่าวยังระบุด้วยว่า การพิจารณายกเว้นวีซ่าเชงเก้นให้แก่ประเทศต่าง ๆ ขึ้นอยู่กับความแข็งแรงทางเศรษฐกิจ การเคารพหลักสิทธิมนุษยชน การเข้าเมืองในรูปแบบที่ไม่ปกติของพลเมืองประเทศนั้น ๆ รวมถึงจำนวนนักท่องเที่ยว และความเชื่อมโยงกันในระดับภูมิภาค
การจัดอันดับดัชนีพาสปอร์ตของเฮนลีย์ (Henley Passport Index) เป็นการจัดอันดับหนังสือเดินทางทั่วโลก โดยประเมินตามจำนวนจุดหมายปลายทางที่ผู้ถือหนังสือเดินทางสามารถเข้าประเทศได้โดยไม่ต้องขอวีซ่า
ในปี 2567 นี้ ดัชนีพาสปอร์ตไทยอยู่ในอันดับที่ 63 ร่วมกับโบลิเวีย ซึ่งผู้ครอบครองหนังสือเดินทางสามารถเดินทางสู่จุดหมายต่าง ๆ โดยไม่ต้องขอวีซ่าได้ 82 แห่ง
จากข้อมูลของกระทรวงการต่างประเทศ เมื่อวันที่ 6 พ.ย. 2566 ระบุว่าหนังสือเดินทางไทยแบบธรรมดาสามารถเดินทางไปยังประเทศและดินแดนต่าง ๆ โดยไม่ต้องขอรับการตรวจลงตราหรือวีซ่า ได้ 34 แห่ง เช่น กลุ่มประเทศอาเซียน บางประเทศในกลุ่มประเทศละตินอเมริกา รวมถึง มองโกเลีย จอร์เจีย ตุรกี รัสเซีย กาตาร์ เกาหลีใต้ ญี่ปุ่น ฮ่องกง มาเก๊า ฮ่องกง เป็นต้น โดยช่วงเวลาพำนักในแต่ละประเทศจะแตกต่างกัน
และมีอีก 10 ประเทศ/ดินแดน ที่ใช้หนังสือเดินทางไทยแบบธรรมดาเดินทางเข้าประเทศได้โดยไม่ต้องขอวีซ่าล่วงหน้า แต่ใช้เพียง Visa on arrival หรือ VOA เมื่อเดินทางมาถึงด่านตรวจคนเข้าเมืองของประเทศนั้น ๆ เช่น โบลิเวีย ฟิจิ จอร์แดน คีร์กีซสถาน เนปาล นิการากัว นีอูเอ โอมาน หมู่เกาะโซโลมอน และ ติมอร์-เลสเต
การจัดอันดับดัชนีพาสปอร์ตของเฮนลีย์ปี 2567 มีทั้งหมด 104 อันดับ โดยอันดับท้ายสุด ตกเป็นของประเทศอัฟกานิสถานที่ผู้ถือพาสปอร์ตเดินทางไปยังจุดหมายต่าง ๆ ได้เพียง 28 แห่ง
ส่วนประเทศที่มีดัชนีพาสปอร์ตอยู่ในอันดับหนึ่ง ได้แก่ ฝรั่งเศส เยอรมนี อิตาลี สเปน ญี่ปุ่น และ สิงคโปร์ ผู้ครอบครองพาสปอร์ตเหล่านี้สามารถเดินทางไปยังประเทศ/ดินแดนต่าง ๆ โดยไม่ต้องขอวีซ่าได้มากถึง 194 แห่งจากทั้งหมด 227 แห่งทั่วโลก นอกจากนี้ยังพบว่า ญี่ปุ่นและสิงคโปร์ครองอันดับ 1 ในดัชนีดังกล่าวมา 5 ปีแล้ว
ประเทศอื่น ๆ ที่มีดัชนีพาสปอร์ตติดอยู่ใน 10 อันดับแรก ส่วนใหญ่เป็นประเทศที่อยู่ในสหภาพยุโรปหรืออียู (European Union – EU) รวมถึง สหรัฐอเมริกา และ เกาหลีใต้ ขณะที่ประเทศเพื่อนบ้านไทยอย่างมาเลเซียอยู่ที่อันดับ 12 เดินทางไปได้ 182 ประเทศ/ดินแดนทั่วโลก
โฆษณา