9 ก.พ. เวลา 00:00 • ประวัติศาสตร์

พาราสาวะถี ไม่มีใครปรานีใคร

: ศรีศักร วัลลิโภดม พ.ศ.2554
เมื่อใดก็ตามที่บ้านเมืองเกิดความขัดแย้งทั้งจากภายในและภายนอกอย่างรุนแรง ข้าพเจ้ามักนึกไปถึงเรื่องของกลียุคที่ยังความเดือดร้อนขึ้นแก่ผู้คนพลเมืองจนถึงขั้นเสียบ้านเสียเมือง อันเป็นสิ่งที่ข้าพเจ้าได้เรียนรู้มาจากหนังสือและวรรณกรรมที่มาจากห้องสมุดประจำบ้านที่พ่อเคยรวบรวมและจัดไว้
เมื่อยังเป็นเด็กพ่อเคยแนะให้อ่านหนังสือเรื่อง จินดามณี อันเป็นหนังสือให้เรียนรู้ภาษาไทยของคนโบราณในเรื่องอักขระวิธี กลบทและกาพย์กลอนต่างๆ เป็นหนังสือค่อนข้างยากสำหรับข้าพเจ้าสักหน่อย เลยเลือกเรียน เลือกอ่านเฉพาะสิ่งที่สนใจ โดยเฉพาะกาพย์กลอนเรื่อง พระไชยสุริยา ที่ปราชญ์ทางการเรียนภาษาไทย ท่านแต่งไว้ให้เด็กเรียน คือทั้งเรียนรู้ทั้งเรื่องอักษรและภาษาที่ควบคู่ไปกับสุภาษิตและคติชน
เนื้อความในเรื่องพระไชยสุริยากับความล่มจมของบ้านเมืองเป็นสิ่งที่ไม่ตายและอยู่เพียงแต่จินตนาการของคนโบราณ เพราะปัจจุบันเรากำลังได้เห็นและได้สัมผัสกับสถานการณ์บ้านเมืองในทางสังคม วัฒนธรรมและเศรษฐกิจการเมืองในขณะนี้
จึงคิดว่าควรนำมาบอกเล่าให้คนรุ่นใหม่ได้รับรู้และได้คิด เพื่อการร่วมกันแก้ไขและเปลี่ยนแปลงให้สังคมได้ดีขึ้น โดยจะคัดแต่ตอนที่เสมือนจริงกับเหตุการณ์บ้านเมืองมาเสนอและวิเคราะห์ไว้ ณ ที่นี้
จะร่ำคำต่อไป พอฬ่อใจกุมารา
ธรณีมีราชา เจ้าพาราสาวะถี
ชื่อพระไชยสุริยา มีสุดามะเหษี
ชื่อว่าสุมาลี อยู่บูรีไม่มีไภย
ข้าเฝ้าเหล่าเสนา มีกริยาอะฌาสัย
พ่อค้ามาแต่ไกล ได้อาศัยในพารา
ไพร่ฟ้าประชาชี ชาวบูรีก็ปรีดา
ทำไร่เขาไถนา ได้เข้าปลาและสาลี
อยู่มาหมู่ข้าเฝ้า ก็หาเยาวนารี
ที่หน้าตาดีดี ทำมโหรีที่เคหา
ค่ำเช้าเฝ้าสีซอ เข้าแต่หอล่อกามา
หาได้ให้ภริยา โลโภพาให้บ้าใจ
1
ไม่จำคำพระเจ้า เหไปเข้าภาษาไสย
ถือดีมีข้าไท ฉ้อแต่ไพร่ใส่ขื่อคา
คะดีที่มีคู่ คือไก่หมูเจ้าสุภา
ใครเอาเข้าปลามา ให้สุภาก็ว่าดี
ที่แพ้แก้ชนะ ไม่ถือพระประเวณี
ขี้ฉ้อก็ได้ดี ไล่ด่าตีมีอาญา
ที่ซื่อถือพระเจ้า ว่าโง่เง่าเต่าปูปลา
ผู้เฒ่าเหล่าเมธา ว่าใบ้บ้าสาระยำ
ภิกษุสะมะณะ เล่าก็ละพระสธรรม
คาถาว่าลำนำ ไปเร่ร่ำทำเฉโก
ไม่จำคำผู้ใหญ่ ศีรษะไม้ใจโยโส
ที่ดีมีอะโข ข้าขอโมทนาไป
พาราสาวะถี ใครไม่มีปรานีใคร
ดุดื้อถือแต่ใจ ที่ใครได้ใส่เอาพอ
ผู้ที่มีฝีมือ ทำดุดื้อไม่ซื้อขอ
ใส่คว้าผ้าที่คอ อะไร่ล่อก็เอาไป
ข้าเฝ้าเหล่าเสนา มิได้ว่าหมู่ข้าไทย
ถือน้ำร่ำเข้าไป แต่น้ำใจไม่นำพา
หาได้ใครหาเอา ไพร่ฟ้าเศร้าเปล่าอุรา
ผู้ที่มีอาญา ไล่ตีด่าไม่ปรานี
ผีป่ามากระทำ มรณกรรมชาวบูรี
น้ำป่าเข้าธานี ก็ไม่มีที่อาไศรย
ข้าเฝ้าเหล่าเสนา หนีไปหาพาราไกล
ชีบาล่าลี้ไป ไม่มีใครในธานี
กาพย์พระไชยสุริยา “บ้านเมืองวิบัติเพราะผู้คนไม่อยู่ในธรรม” ผลงานของสุนทรภู่
เมืองไทยทุกวันนี้เหมือน สาระถี ไม่มีใครปรานีใคร ผู้คนพลเมืองเกือบทุกท้องถิ่นในทุกภูมิภาคถูกแย่งที่ทำกิน ที่อยู่อาศัย และทรัพยากรธรรมชาติจนสิ้นเนื้อประดาตัว
เสาหลักทั้งสามของการปกครองที่เรียกว่า ประชาธิปไตย คือ อำนาจนิติบัญญัติ รัฐบาล และตุลาการ หมดสภาพ ระส่ำระสายไปตกอยู่ในเงื้อมมือของกลุ่มทรราช อันประกอบด้วยนักการเมืองที่ชั่วร้าย ข้าราชการที่ทุจริต นักวิชาการที่ขายตัวต่อทุนข้ามชาติที่เหนือรัฐและเหนือตลาด
สถาบันทางศาสนาก็ไม่เหมือนเดิม เพี้ยนไปทางไสยศาสตร์และบริโภคนิยมในหมู่อลัชชีที่แข่งที่อยู่อาศัย และขับไล่ผู้คนในชุมชนที่อยู่มาแต่ดั้งเดิม สถาบันที่รักษาความมั่นคงภายในเช่นตำรวจก็เป็นมิจฉาชีพ...
“หาได้ใครหาเจ้า ไพร่ฟ้าเศร้าเปล่าอุรา
ผู้ที่มาอาญา ไล่ตีด่าไม่ปรานี”…
#สยามเทศะโดยมูลนิธิเล็กประไพวิริยะพันธุ์
ติดตามบทความ วิดีโอ และรายการต่างๆ เพิ่มเติมได้ที่
Official Web : https://siamdesa.org
โฆษณา