18 ก.พ. 2024 เวลา 05:45 • สุขภาพ

กิมจิ เครื่องเคียงยอดฮิต มีโปรไบโอติกช่วยสุขภาพลำไส้ แต่โซเดียมสูง!

เวลาไปกินปิ้งย่างสิ่งที่ขาดไม่ได้ คือ “กิมจิ” ที่ช่วยชูรสของวัสถุดิบและตัดเลี่ยนได้เป็นอย่างดี แต่รู้หรือไม่? หากกินแต่พอดีช่วยปรับปรุงสุขภาพได้!
กิมจิ (김치) เครื่องเคียงขึ้นชื่อของเกาหลีและญี่ปุ่น มีรสเปรี้ยวสดชื่น นิยมกินกับหมูย่างและผักเพื่อตัดเลี่ยน จนเกิดเป็นวัตนกรรมการกิน และแปรรูปอาหารอย่างหลากหลาย เช่น ข้าวผักกิมจิ ต้มซุปกิมจิ เป็นต้น โดยกิมจิทำจากผักกาดขาวและหัวไชเท้า และผักอื่นๆนวดเกลือและใส่เครื่องเทศหมักทิ้งไว้ปรุงรสด้วยเครื่องเทศต่างๆ ซึ่งเป็นหนึ่งในอาหารหมักดองที่ผู้เชี่ยวชาญแนะนำให้กินเพื่อปรับปรุงและส่งเสริมการทำงานของลำไส้
กิมจิ
เพราะในระหว่างการหมักในอุณหภูมิห้อง2-3วัน จะเกิดกระบวนที่ทำให้เกิดแบคทีเรียกรดแลคติกจะช่วยเพิ่มระดับของแบคทีเรียที่ดีในลำไส้ รวมทั้งแลคโตบาซิลลัส รวมทั้งเกิดการสลายน้ำตาลในผัก ส่งผลให้อาหารมีรสเปรี้ยวและอุดมด้วยโปรไบโอติก อีกทั้งกิมจิยังอุดมไปด้วยวิตามิน A, C และสารต้านอนุมูลอิสระด้วย
ประโยชน์ของกิมจิ
  • ช่วยปรับปรุงสุขภาพของลำไส้
  • อาการท้องผูกดีขึ้น
  • ลดการอักเสบ
  • ส่งเสริมระบบภูมิคุ้มกัน
  • ช่วยลดน้ำหนัก
  • เพิ่มภูมิคุ้มกันให้กับร่างกาย
คุณค่าทางโภชนาการกิมจิ 100 กรัม
  • พลังงาน 24 กิโลแคลอรี
  • ใยอาหาร 1.8 กรัม
  • โซเดียม 1,600 มิลลิกรัม
อย่างไรก็ตาม กิมจิยังคงเป็นอาหารหมักดองที่กินมากก็ไม่ดี อีกทั้งยังมีโซเดียมสูงมาก จึงไม่ควรกินมากหรือบ่อยเกินไป อาจส่งผลเสียต่อสุขภาพระยะยาว เช่น โรคความดันโลหิตสูง โรคไต รวมถึงอาการบวมน้ำตามร่างกาย ฉะนั้นควรกินแบบเครื่องเคียงเพิ่มรสชาติให้อาหาร ไม่เกิน 2 ช้อนโต๊ะหรือไม่เกิน 100 กรัมต่อวัน พร้อมเลือกกินอาหารให้ครบทุกกลุ่ม หลากหลาย ในปริมาณที่เหมาะสม เพื่อให้ได้สารอาหารครบถ้วน ควบคู่ไปกับดื่มน้ำสะอาดอย่างเพียงพอและออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอด้วย
ขอบคุณข้อมูลจาก : สำนักโภชนาการ กรมอนามัย
ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมที่เว็บไซต์ https://www.pptvhd36.com
และช่องทาง Social Media
โฆษณา