Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
KPBB88
•
ติดตาม
17 ก.พ. เวลา 04:35 • หุ้น & เศรษฐกิจ
Nvidia vs AMD: ชิปเทพเจ้าแห่ง A.I. ใครจะครองตลาด?
สวัสดีครับเพื่อนๆ สายเทคทุกคน! วันนี้ผมมีเรื่องมันส์ๆ มาเล่าเกี่ยวกับวงการปัญญาประดิษฐ์ (AI) ที่กำลังร้อนแรงสุดๆ โดยเฉพาะเรื่องชิปเทพเจ้าที่เป็นหัวใจสำคัญในการประมวลผลข้อมูลอันมหาศาล นั่นก็คือชิป AI
ก่อนอื่นต้องบอกเลยว่าเจ้าพ่อในวงการนี้หนีไม่พ้น เอ็นวีเดีย (NVDA) เบอร์ใหญ่ที่ครองส่วนแบ่งตลาดชิปกราฟิกสำหรับ AI (GPU) ไปถึง 92% เลยทีเดียว ความสำเร็จนี้ต้องยกเครดิตให้การตัดสินใจที่ชาญฉลาดตั้งแต่เนิ่นๆ ด้วยการส่งชิปไปให้ OpenAI เพื่อฝึกเจ้าแชทบอทสุดฮิตอย่าง ChatGPT นั่นเอง
แต่เอ็นวีเดียก็ไม่ได้หยุดนิ่ง เขาเดินหน้าคว้าชัยชนะต่อไปด้วยกลยุทธ์เด็ดๆ อย่างการเร่งเครื่องนวัตกรรม และยังมีข่าวลือว่าเตรียมบุกตลาดชิป AI แบบสั่งทำพิเศษอีกด้วย ด้วยเหตุนี้เองนักวิเคราะห์จึงฟันธงว่ากำไรของเอ็นวีเดียจะพุ่งกระฉูดถึง 102% ต่อปีในอีก 5 ปีข้างหน้า!
ตลาดชิป AI เองก็ไม่น้อยหน้า คาดว่าจะเติบโตถึง 37.5% ต่อปีจนถึงปี 2029 สร้างรายได้มหาศาลถึง 147 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ ไม่แปลกใจเลยที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าเอ็นวีเดียจะเติบโตแบบก้าวกระโดด ซึ่งการเติบโตครั้งนี้เองที่จะช่วยให้อัตราส่วนราคาต่อรายได้ (P/E ratio) ที่สูงถึง 40 ของเอ็นวีเดียดูสมเหตุสมผล
อย่างไรก็ตาม ยังมีอีกหนึ่งผู้เล่นสำคัญอย่าง เอเอ็มดี (AMD) ที่ตอนนี้มีมูลค่าการซื้อขายที่ถูกกว่าเอ็นวีเดียพอสมควร (P/E 12.3 เท่า) AMD มีแววว่าจะแจ้งเกิดในปีนี้ได้ไม่ยากด้วยการเป็นคู่แข่งตัวฉกาจของเอ็นวีเดีย
อาวุธลับของ AMD ก็คือชิป AI ที่มีราคาที่สู้ยื้อได้ แถมยังสเปคแรงไม่แพ้กัน AMD เปิดตัวชิปซีรี่ส์ MI300 Instinct สำหรับดาต้าเซ็นเตอร์เมื่อธันวาคมที่ผ่านมาเพื่อท้าชนเอ็นวีเดีย ข่าวดีก็คือชิปเหล่านี้ได้รับความสนใจจากลูกค้าอย่างล้นหลาม AMD คาดการณ์ว่าจะทำรายได้จากชิป AI 3.5 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ ในปี 2024 เพิ่มขึ้นจากเดิมที่คาดการณ์ไว้ 2 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ
แต่คริสโตเฟอร์ แดเนลีย์ นักวิเคราะห์จากซิตี้กรุ๊ป (อ้างอิงโดย Tom's Hardware) มองว่า AMD ประเมินศักยภาพด้านรายได้จากชิป AI ต่ำเกินไป แดเนลีย์ คาดการณ์ว่า AMD น่าจะขายชิป AI ได้ถึง 5 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ ในปี 2024 และพุ่งไปถึง 8 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ ในปีถัดไป เหตุผลที่ทำให้มองโลกในแง่ดีก็มีอยู่ 2 ประการ
ประการแรก ลิซ่า ซู ซีอีโอของ AMD ได้กล่าวในการประชุมกับนักวิเคราะห์เมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมาว่า AMD มี "กำลังการผลิตเพิ่มเติมเพื่อรองรับความต้องการที่เพิ่มขึ้น" เปรียบเทียบกับเอ็นวีเดียที่ลูกค้าต้องรอชิป AI นานถึง 52 สัปดาห์ ไม่แปลกใจเลยที่ลูกค้าจะหันมาหา AMD เพื่อเติมเต็มช่องว่างด้านอุปทาน
ประการที่สอง ชิป AI ของ AMD มีราคาที่แข่งขันได้ดี แม้จะมีสเปคที่ไม่ธรรมดาเมื่อเทียบกับของเอ็นวีเดีย แม้ AMD จะยังไม่เปิดเผยราคาอย่างเป็นทางการ แต่ซิตี้กรุ๊ป ประเมินว่า AMD ขายชิปประมวลผลเรือธง MI300 ให้กับไมโครซอฟท์ที่ราคา 10,000 เหรียญสหรัฐฯ ลูกค้ารายอื่นๆ จ่ายประมาณ 15,000 เหรียญสหรัฐฯ สำหรับชิปตัวนี้ที่อัดแรมความเร็วสูง (HBM) ถึง 192 กิกะไบต์
เทียบกับชิป AI H100 ของเอ็นวีเดียที่มี HBM 80 กิกะไบต์ ขายกันที่ราคา 30,000-40,000 เหรียญสหรัฐฯ แถมชิป H200 รุ่นใหม่ของเอ็นวีเดียที่จะมาถึงก็จะมี HBM รุ่นล่าสุดถึง 141 กิกะไบต์
สรุปคือ AMD งัดกลยุทธ์ราคาที่ถูกกว่า แถมให้แรมเยอะกว่า เหมาะกับการฝึกโมเดลภาษาขนาดใหญ่ ทำให้ AMD กำลังสร้างพื้นที่ของตัวเองในวงการชิป AI อย่างจริงจัง
แล้วผลลัพธ์จะเป็นยังไง? ถ้า AMD ขายชิป AI ได้ตามที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ รายได้ของ AMD อาจพุ่งไปถึง 27.3 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ ในปี 2024 ซึ่งจะส่งผลให้ราคาหุ้น AMD ปรับตัวขึ้น 20% และอาจพุ่งไปถึงเป้าหมายสูงสุดที่นักวิเคราะห์ประเมินไว้ที่ 270 เหรียญสหรัฐฯ เลยทีเดียว!
ใครจะเป็นแชมป์ชิป AI ในอนาคต? ตอนนี้ยังบอกไม่ได้ แต่มวยถูกคู่นี้ดุเดือดแน่นอน เพื่อนๆ สายเทคอย่างเราอดใจไม่ไหวที่จะติดตามกันต่อเลยใช่มั้ยครับล่ะครับ
Referrence
https://finance.yahoo.com/news/think-missed-nvidia-1-artificial-163100312.html
การลงทุน
ตลาดหุ้น
หุ้น
บันทึก
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2024 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย