1 มี.ค. เวลา 18:01 • หนังสือ

ความสุข is here

หนังสือความสุข is here 48 วิธี ที่จะทำให้คุณมีความสุข
เขียนโดย อะคิระ อุเอะนิชิ
แปลโดย โชว์เดียร์ มามุติพงศ์
สำนักพิมพ์ฟรีมายด์
หากชีวิตทุกวันนี้ เราเจอแต่เรื่องตึงเครียด กดดัน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องความสัมพันธ์กับผู้คนรอบข้าง และถูกถาโถมด้วยข้อมูลข่าวสารต่างๆ ในโลกโซเชียล ทำให้จิตเราวิ่งวุ่นไม่ได้หยุดพัก
เมื่อเราได้เปิดหนังสือเล่มนี้ จะพบกับภาพแมวเหมียวที่ดักรอเราอยู่ในแต่ละหน้า ดูแล้วผ่อนคลาย และมีความสุข ประกอบกับการได้อ่านข้อความดีๆ ในเล่ม ที่อ่านง่าย รับรู้ง่าย เข้าใจง่าย จึงสามารถช่วยเพิ่มพลังบวกให้กับจิตใจได้
สิ่งที่ได้จากเล่มนี้คือ...
PART 1 เพิ่มความมั่นใจให้ตัวเอง
• รู้จักรักตัวเอง มองหาข้อดีของตัวเอง ชื่นชมและปลอบโยนตัวเอง ให้อภัยตัวเองในข้อเสีย ข้อผิดพลาด
• เพิ่มสิ่งที่ตัวเองชอบ ลดสิ่งที่ตัวเองไม่ชอบ ความชอบของแต่ละคนแตกต่างกันไป ค้นหาว่าเราสนุกเมื่อได้ทำอะไร อยู่ในสภาพแบบไหนเราถึงจะมีความสุข เพียงความสุขของเราไม่สร้างความเดือดร้อนให้ใคร ก็ลงมือทำเลย
• ทฤษฎีความสำเร็จ ชีวิตเราเปลี่ยนแปลงได้ตามที่เราคิด "ถ้าเราคิดว่าเป็นไปไม่ได้ มันก็เป็นไปไม่ได้ ถ้าเราคิดว่ามันสำเร็จ มันก็จะสำเร็จ" ทุกอย่างเป็นไปได้ และมันจะต้องไปได้ดี เพียงเราเชื่อมั่น
• ถ้าอยากมีความสุข ต้องสานสัมพันธ์กับตัวเอง เป็นมิตรกับตัวเราให้มากที่สุด ใส่ใจและให้ความสำคัญ กับตัวเอง ปลอบใจตัวเอง อ่อนโยนกับตัวเอง รักตัวเอง ให้กำลังใจตัวเอง
• เมื่อโอกาส และความสุขมาถึง ให้กล้าที่จะเปิดรับ จงก้าวผ่านความกลัว ทุกคนมีสิทธิ์ที่จะเปิดรับความสุขและไขว่คว้าความสุขมาไว้ในมือ
• หากเรากำลังอยู่ในระหว่างทางการเดินเข้าหาความฝัน แม้ยังไปไม่ถึง หรือยังไม่เป็นไปอย่างที่เราคิดฝัน ไม่ใช่เรื่องน่าเศร้า ไม่จำเป็นต้องปฏิเสธสิ่งที่เราอยากเป็น ถ้าเรามีเป้าหมาย ความพยายามจะนำเราไปสู่หนทางที่ดีเอง เรากำลังเติบโต
• ถ้าไม่มีความมั่นใจ ก็จงสร้างมันขึ้นมา ด้วยการเชื่อมั่นในตัวเอง ทำตามที่เราเชื่อมั่น สั่งสมประสบการณ์ความสำเร็จเล็กๆ น้อยๆ จับความรู้สึกที่ว่า "ถ้าลงมือทำ ก็ทำได้" จะเป็นแรงผลักดันให้เราลงมือทำเรื่องต่อไปเรื่อยๆ ยิ่งเรามั่นใจมากขึ้น ความเป็นไปได้ก็ขยายขอบเขตไปได้มากยิ่งขึ้นด้วย
• ก่อนสิ้นสุดวันในแต่ละวัน ลองชมตัวเองที่ได้พยายามมาทั้งวัน การชมตัวเองจะทำให้เราเป็นคนมองโลกในแง่ดี สักวันเราจะมองเห็นคุณค่าที่แท้จริงของตัวเองได้
PART 2 เติมกำลังใจเพื่อให้เดินหน้าต่อไป
• ปัญหาทุกอย่างล้วนมีความหมาย ทำให้เราได้เรียนรู้ เพื่อให้เราเป็นคนดีกว่าที่เป็นอยู่
• หากตอนนี้กำลังทุกข์ ให้รู้ว่ามีความรู้สึกเติมเต็มที่งดงามรอเราอยู่ข้างหน้า หลังจากก้าวผ่านมันไปได้
• หาความสุขให้กับตัวเองด้วยตัวเราเองก่อน เมื่อตัวเรามีความสุข เราก็จะทำให้คนอื่นมีความสุขได้ด้วยเช่นกัน
• ไม่ต้อง "เป็นตัวเองที่สุดยอด" ตลอดเวลาก็ได้ เศร้าบ้าง ร้องไห้บ้าง หยุดพักบ้างก็ได้ แล้วกลับมาเป็นตัวเองที่แข็งแกร่งอีกครั้งเมื่อไหร่ก็ได้
• ยิ่งเรากล่าวขอบคุณในเรื่องดีๆ มีความสุข ที่เกิดขึ้นกับเรา เรื่องที่ทำให้รู้สึกอยากขอบคุณมากกว่านี้จะเกิดขึ้น แต่เมื่อใดที่รู้สึกไม่ดี เราจะไม่ต่อว่าตัวเอง เพราะมันจะยิ่งดาหน้าเข้ามา
• ไม่เปรียบเทียบตัวเองกับคนอื่น ตัวเราก็คือตัวเรา แค่ก้าวไปข้างหน้าตามจังหวะของตัวเองก็พอ
• หากเรากังวลจนทำให้รู้สึกคิดลบ ให้พยายามหาคำพูดเชิงบวกมาใช้ แล้วจะรู้สึกว่าเราคิดบวกได้อย่างน่าอัศจรรย์ พลังแห่งคำพูดแค่เปล่งเสียงออกมาก็สามารถเปลี่ยนสถานการณ์ได้
• เวลาที่ใจและสมองเต็มไปด้วยความรู้สึกโกรธ ให้สูดลมหายใจเข้าไปลึกๆ ถามตัวเองดูว่าทำไมจึงโกรธ ให้ความโกรธค่อยๆ จางหายไป เติมเต็มด้วยความสงบสุขแทน
PART 3 สร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับคนรอบข้าง
• คนที่อยู่รอบๆ ตัวเรา คือผู้คนที่พบเจอโดยข้ามผ่านความบังเอิญ จงยอมรับอย่างไร้เงื่อนไขและเคารพตัวตนของพวกเขา ให้ความสำคัญกับทุกคน กระทั่งผู้คนที่จะได้พบเจอในอนาคต
• พลังแห่งการสบสายตา Eye Contact คือการสื่อสารส่งผ่านความรู้สึกผ่านการสบประสานสายตาโดยไม่ต้องเอ่ยคำพูดใดๆ ช่วยย่นระยะห่างทางหัวใจได้ การมีสติกับการแสดงออกทางแววตานั้นเป็นเรื่องสำคัญ ดวงตาแห่งความเมตตา อ่อนโยนและความรัก จะสร้างความสุขให้ผู้คน ทำให้เราเป็นคนมีเสน่ห์น่าดึงดูด
ในยามที่จิตใจเราเหนื่อยล้า ให้คิดถึงดวงตาของเรา สายตาอ่อนโยน...ที่สร้างความสุขให้กับผู้คน
• หากอยากเดินหน้าต่อไปอย่างราบรื่น เราจำเป็นต้องเชี่ยวชาญในการติดต่อสัมพันธ์กับผู้อื่น
• คำพูดก็เป็นตัวตัดสินภาพลักษณ์ของคนคนนั้นเองในขั้นตอนแรก คำพูดคือความใส่ใจ ให้ระวังเรื่องคำพูด ใช้คำพูดสุภาพ ให้เกียรติคนอื่น และใช้คำพูดที่ดีกับตัวเอง เป็นการเพิ่มพลังบวกให้ตัวเราด้วย จะดึงเอาคนที่มีพลังบวกเหมือนกันเข้ามาหาเรา เรียกว่าเป็นคนมีเสน่ห์
• คนที่กำหนดตารางชีวิตของเรา คือตัวเรา ถ้าเหนื่อยกับการสร้างสัมพันธ์กับผู้คน ให้ลดเวลาพบเจอผู้คนไปเลย ไม่ต้องฝืนพยายาม เราให้ความสำคัญกับตัวเอง อยากพักให้ตัวเองได้พัก
• คนเรามักชอบและให้ความสำคัญกับ "ผู้ที่คอยรับฟังและเข้าใจคนอื่น" ถ้าคุยไม่เก่ง ตอบสนองอารมณ์ของอีกฝ่ายไม่เก่ง ก็จงเป็น "ผู้รับฟังที่ดี"
PART 4 เติมเต็มจิตใจด้วยพลังบวก
• "เอาน่า ช่างเถอะ" คำพูดเมื่อเรารู้สึกกังวลใจ หม่นหมองกับเรื่องเล็กๆน้อยๆ จะช่วยเปลี่ยนวันให้สดใสขึ้นได้
• การก้าวไปข้างหน้าแม้เพียงก้าวเดียว ก็ทำให้เราเห็นทิวทัศน์ใหม่ๆได้ ลองหาแนวคิดและแนวทางปฏิบัติใหม่ๆ แล้วเติบโตไปทีละน้อย ฮึดสู้ไปข้างหน้า หันเข้าหาตัวเองในอนาคตที่อยากเป็น แค่ก้าวไป
• ความล้มเหลวไม่ใช่ปัญหา ปัญหาคือการตีความหมายที่ทำให้ความล้มเหลวเป็นโศกนาฏกรรมต่างหาก ทุกสิ่งทุกอย่างขึ้นอยู่กับมุมมอง ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น เราต้องยืนหยัดที่จะใช้ชีวิตให้สดใสดีกว่า
• ค่ำคืนที่รู้สึกกังวล คิดแค้นใจ หรือนึกถึงเหตุการณ์ที่ผิดพลาด ยิ่งคิดจิตใต้สำนึกเราก็ยิ่งมีความทรงจำที่เป็นลบมากขึ้น แค่ให้รีบเข้านอนซะ พอตื่นมาก็ไม่จำเป็นต้องกังวลอะไรแล้ว
• ความยากลำบาก ปัญหาที่กำลังพบเจออยู่ตอนนี้ เกิดขึ้นเพื่อให้เราประสบความสำเร็จในอนาคต
• เมื่ออยู่ในช่วงเวลาที่เลวร้าย เกิดเรื่องไม่ดี ให้คิดแต่เรื่องดีๆ อยู่ด้วยทัศนคติที่แข็งแกร่งว่า "เราจะปัดเป่าความชั่วร้ายออกไป" ความสุขรอเราอยู่หลังจากนี้
• เพราะยิ้ม เราจึงมีความสุข รอยยิ้มจะช่วยลดพลังลบเปลี่ยนเป็นพลังบวกในใจได้ แม้ทุกข์ใจ จงอย่าลืมรอยยิ้ม
PART 5 ทำฝันให้เป็นจริง
• เวลาเผชิญกับสิ่งท้าทายใหม่ๆ ขอให้เชื่อมั่นในตัวเอง ว่ามันเป็นไปได้ เราทำได้ ปักใจเชื่อว่า "มันจะต้องไปได้ดี" ความสำเร็จจะวิ่งเข้ามาหาเรา
• คนล้มเหลวมักหลงทาง มองไม่เห็นว่าตรงหน้ามีทางเลือกหลายทางให้เลือกเดิน การตกอยู่ในสภาพที่ไม่ทำอะไรเลยนั้น ทำให้เราไม่ได้ออกไปสู่อนาคตใหม่ๆ ลองเปิดหน้าต่างตรงหน้าดู ไม่มีอะไรน่ากลัวเลยสักนิด นอกหน้าต่างที่เราเปิดออกไป มีโลกใบใหม่รอเราอยู่
• สิ่งที่น่าเศร้าคือการไม่ได้ทำในสิ่งที่อยากทำ เลิกหาข้ออ้างทั้งปวง แล้วรวบรวมสติเพื่อสิ่งที่อยากทำ เริ่มทำสิ่งที่ทำได้ตั้งแต่วันนี้ ก่อนจะไม่มีโอกาสได้ทำ จะได้ไม่ต้องมานั่งเสียใจภายหลัง
• หากเรากล้าที่จะลงมือทำ ก็ถือว่าเราสำเร็จไปแล้ว 80% สิ่งสำคัญคือก้าวแรก ไม่มีใครรู้หรอกว่ามันจะสำเร็จหรือจะล้มเหลว แต่ถ้าเราเริ่มแล้ว ความเป็นไปได้ที่จะไปได้ดีมีมากแน่นอน
• ชีวิตมีแค่ครั้งเดียว เราเกิดมาย้อนเวลากลับมาไม่ได้ ใช้ชีวิตทุกวันเสมือนว่าวันนี้อาจเป็นวันสุดท้าย และใช้ชีวิตในแนวทางที่อยากจะเป็นจริงๆ
• หากอยากลองทำอะไรสักอย่าง ไม่ช้าไปหรอกที่จะเริ่ม เพราะวันนี้คือวันที่เรามีอายุน้อยที่สุดของชีวิตที่เหลืออยู่
• การจะทำความฝันให้เป็นจริงได้ ต้องมีการลงมือทำ และไม่มีข้อสงสัย อาศัยความกล้า ไม่ใช่แค่มัวแต่ฝัน แต่ขึ้นอยู่กับเรา พยายามจนถึงที่สุด อย่าล้มเลิกถอดใจ ฝันที่เป็นจริงรอเราอยู่
PART 6 ความสุข is here
• เวลามีความสุข เวลาได้แสดงศักยภาพ เวลาได้รับคำชม และเวลารู้สึกว่าตัวเองในตอนนี้คือที่สุด บอกกับตัวเองว่า ตัวเราเองในแบบที่สุดนี้ คือตัวเราที่แท้จริง เราจะรู้สึกรักตัวเองมากขึ้น
• ดร.โจเซฟ เมอร์ฟีย์ ผู้คิดค้นกฎแห่งความสำเร็จ กล่าวไว้ว่า "ถ้าหากมีคนที่ฝันถึงชีวิตโดยมีความมั่นใจและความสบายใจ กับคนที่หวังโดยมีแต่ความกังวลใจและความหวาดกลัว โชคชะตาที่เผชิญนั้นจะเป็นไปตามความคิดของแต่ละคนที่มีอยู่"
ถ้าคิดแง่บวก ก็จะมีเรื่องดีเกิดขึ้น แต่ถ้าคิดลบ ความไม่สบายใจจะติดตามมา แล้วก็จะเกิดเรื่องไม่ดี เรียกว่า "กฎดึงดูด" ถ้าพลังบวกในใจเราเพิ่มขึ้น พลังดึงดูดความสุขก็จะมากขึ้นด้วย
• สังเกตเรื่องราวความสุขรอบตัว และใส่ใจกับรอยยิ้ม ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น ถ้าเราคงรอยยิ้มไว้เสมอ หัวใจดวงไหนๆ ก็จะได้รับการดูแลรักษาไว้
• คนที่เป็นที่รักนั้น ก็มักจะมีดวงเรื่องเงินทอง เงินเป็นสิ่งที่เกิดมาจากคน เราต้องเชื่อมต่อสัมพันธ์ที่ดีกับผู้คน เพื่อให้คนอื่นแนะนำให้รู้จักผู้คน บอกข้อมูลที่เป็นประโยชน์ ทำให้เราโชคดีขึ้น
• คนที่มอบความรัก ทำสิ่งดีๆให้ผู้อื่น และทำให้ผู้อื่นมีความสุข คนคนนั้นก็จะได้รับสิ่งเหล่านั้นตอบ
เมื่อเราได้รับมา เราควรรู้จักตอบแทนบุญคุณ เราก็จะยิ่งมีความสุขมากขึ้น
• เรื่องราวต่างๆ ที่เกิดขึ้นรอบๆตัวเรานั้น ไม่ใช่แค่เรื่องบังเอิญ แต่มันคือสัญญาณที่ส่งมาบอกอะไรบางอย่าง เวลาเจอเรื่องไม่ได้ดั่งใจ ใช้สติพิจารณาแต่ละเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับตัวเรา ในนั้นมีคำบอกใบ้เพื่อให้ตัวเรามีความสุขซ่อนอยู่
• เวลาลังเลใจในการตัดสินใจเลือกอะไรบางอย่าง ให้ถามถึงวัตถุประสงค์ ต้องสงบนิ่งและคิดให้ดีๆ จะเห็นว่าอะไรที่มันจำเป็นจริงๆ
• เพียง "ขอบคุณ เรื่องราวดีๆ เล็กๆน้อยๆ รอบตัวที่เกิดกับเรา" ความสุขอีกมากมายจะตามมา
ความแตกต่างระหว่างความโชคดีกับโชคไม่ดี คือปัญหาในจิตใจ คนโชคดีนั้นจิตใจจะเต็มไปด้วยพลังบวก ตรงข้ามกันคนโชคร้ายก็จะมีจิตใจที่เต็มไปด้วยพลังลบ เพื่อเติมพลังบวกในใจเราให้เต็มได้นั้น จำเป็นต้องมี 3 อย่างต่อไปนี้
1) ใจที่มีความกระตือรือร้น มีความหวังและลงมือทำด้วยความมุ่งมั่นดี
2) ใจที่เต็มไปด้วยสุขนิยม คิดแบบมองโลกในแง่ดีและมีจิตใจที่ผ่อนคลาย
3) ใจที่คำนึงถึงผู้อื่น ให้ความสำคัญต่อคนอื่น มอบความสุข ความยินดีต่อผู้อื่น
พอใจเรามีพลังบวก แน่นอนว่าจะดูดเอาเรื่องราวดีๆเข้ามา และจะมีความสุขมากขึ้นทุกๆ วัน
หนังสือเล่มนี้เป็นเสมือนเพื่อนคุยกับเรา และเรายังรู้สึกเพลินไปกับภาพเจ้าแมวเหมียวในทุกหน้าของหนังสือด้วยค่ะ
สนใจหนังสือคลิกลิงก์ 👇
โฆษณา