19 ก.พ. เวลา 16:00 • ไลฟ์สไตล์
เนเธอร์แลนด์

แต่งงานยังไงให้สุขใจและไม่สิ้นเปลือง Style ชาวดัตช์

วันนี้แอดจะมาเล่าเรื่องงานแต่งงานของทั้งคนในครอบครัวและเพื่อน ๆ ชาวดัตช์ในประเทศ Netherlands ให้ฟังค่ะ
การแต่งงานของคนที่นี่มักจะเกิดจากการยินยอมพร้อมใจกันทั้งสองฝ่ายและโดยส่วนใหญ่จะผ่านการใช้ชีวิตร่วมกันมาสักระยะหนึ่งและมีการเรียนรู้ซึ่งกันและกันจนมั่นใจว่าคนนี้คือคนที่อยากจะใช้ชีวิตร่วมกันจริง ๆ
ในระหว่างการอยู่ด้วยกันนั้น พ่อแม่ของทั้งสองฝ่ายรับรู้นะคะ บางคนอยู่กันจนมีลูกกันแล้วค่อยมาแต่งก็มีค่ะ
การแต่งงานนั้นโดยส่วนใหญ่จะเกิดขึ้นหลังจากที่ทั้งสองคนมีความพร้อมในเรื่องการเงินพอประมาณแล้วนะคะ ทั้งคู่จะมีการแพลนงานกันว่าจะจัดงานแบบไหน อะไรยังไง โดยที่ทั้งคู่จะทำการออกค่าใช้จ่ายกันเองนะคะตามแต่ที่พวกเขาจะตกลงกัน แต่ก็มีบางคนเหมือนกันที่ฝ่ายผู้ชายเป็นฝ่ายออกค่าใช้จ่ายทั้งหมด ทั้งนี้ทั้งนั้นจะไม่ไปเดือดร้อนพ่อแม่ตนเองนะคะ
สำหรับคนเป็นพ่อเป็นแม่จะให้เงินช่วยบ้างไปตามแต่ฐานะของแต่ละคน ที่นี่ไม่ได้มีสินสอดทองหมั้นอะไรนะคะแต่บางคนหากพ่อแม่มีฐานะก็จะให้เงินลูกไว้ก้อนหนึ่งซึ่งก็แล้วแต่ลูกว่าจะเอาเงินนั้นไปจัดงานหรือจะเอาไว้เป็นขวัญถุงในการสร้างเนื้อสร้างตัว มีเหมือนกันที่บางคนได้สองก้อนก่อนแต่งกับหลังแต่งงาน
แขกที่จะเชิญก็จะเชิญเฉพาะคนที่แต่ละฝ่ายคิดว่าสำคัญและคนที่จะมางานแต่งจะต้องได้รับเชิญเท่านั้นค่ะ
แขกในงานฝ่ายเจ้าบ่าวเจ้าสาวจะเอามารวมกันว่ากี่คน ส่วนซองแต่งจะแยกกันไปนะคะว่านี่เป็นแขกของเจ้าบ่าว นี่เป็นแขกของเจ้าสาว หลังจากนั้นพวกเขาจะเอาเงินมารวมกันหรือแยกก็ตามแต่ที่ตกลงกันไว้ล่วงหน้าค่ะ
งานแต่งแบบจัดเต็มก็จะมีพิธีเหมือนในหนังเลยค่ะ เจ้าบ่าวเจ้าสาวนั่งมาบนรถสวย ๆ มาจอดที่โบถส์ เข้าโบถส์ ชุดเจ้าบ่าวดูสง่างามส่วนชุดเจ้าสาวก็ดูสวยอลังการณ์
พ่อแม่ฝ่ายเจ้าบ่าวเจ้าสาวและเพื่อน ๆ จะมีการพูดอวยพร หลังจากนั้นก็จะมีการยกแชมเปญอวยพรและร่วมรับประทานอาหารร่วมกัน
ใครที่จัดเต็มสูตรแบบงานกลางคืนด้วยก็จะมีการเต้นรำเปิดฟลอร์ของคู่บ่าวสาว หลังจากนั้นคนในงานก็จะพากันไปโยกย้ายส่วยสะโพกกัน
แต่บางงานก็จะจัดกันแบบเรียบง่ายค่ะ แค่นับจำนวนคนที่ทั้งสองฝ่ายอยากให้มาร่วมงาน คัดเอาเฉพาะคนที่สำคัญจริง ๆ คือเป็นคนที่ตัวเองรักและต้องการให้เป็นส่วนร่วมในความสุขครั้งนี้จริง ๆ
สำหรับเรื่องเงินใส่ซองโดยส่วนใหญ่เจ้าบ่าวเจ้าสาวจะไม่ค่อยให้ความสำคัญค่ะเพราะมักจะให้ความสำคัญในเรื่องต้องการให้คนที่ตัวเองรักหรือเคารพนับถือมาเป็นสักขีพยานในความสุขครั้งนี้เท่านั้น
เคยเห็นเพื่อนบางคนอยู่ในวัยที่เริ่มสร้างตัวแต่อยากจะแต่งงานและให้เพื่อน ๆ ที่ตัวเองรักมาเป็นสักขีพยานด้วย ก็จะบอกกันไปตรง ๆ นะคะ ว่าจะจัดงานที่ไหนเช่นบางคนตั้งเต้นท์จัดงานในสวนสาธารณะค่ะ โดยจะมีการแจ้งหน่วยงานท้องถิ่นนั้นนะคะ
ที่เคยเห็นก็จะมีซุ้มอาหารโดยให้แขกเอาอาหารมาคนละหม้อหรือคนละถาดค่ะ บางคนก็ช่วยเรื่องเครื่องดื่มจำพวกไวน์ แชมเปญหรือเบียร์ อะไรพวกนี้ค่ะ
บางอย่างเจ้าบ่าวเจ้าสาวไม่ได้ขอนะคะแต่พวกเพื่อน ๆ นี่ล่ะค่ะรู้ว่าสถานการณ์เป็นอย่างไรและพร้อมที่จะเต็มใจให้เจ้าบ่าวเจ้าสาวที่พวกเขารักได้มีความสุขกันอย่างเต็มที่ในงานแต่งงานโดยไม่ต้องมากังวลเรื่องงานเลี้ยงค่ะ
ในงานอาจจะมีการเปิดเพลงเบา ๆ โดยมากจะจัดกันแค่ประมาณ 3 - 5 ชั่วโมง นี่เต็มที่แล้วค่ะ หากว่าเป็นการใช้สถานที่ข้างนอกนะคะ
บางงานก็อาจจะจัดงานแต่งบนเรือค่ะ ล่องไปตามคลองก็ได้บรรยากาศดีไปอีกแบบค่ะ คนอาจจะไม่มากนักแต่ความรักความอบอุ่นจากผู้ร่วมงานนั้นเต็มท้วมท้นเลยค่ะ
งานแต่งงานถือว่าเป็นงานมงคล เป็นการเริ่มต้นชีวิตคู่จริง ๆ เพราะฉะนั้นจึงควรเริ่มต้นอย่างมีความสุข โดยไม่ต้องไปทุกข์เพราะไปกู้หนี้ยืมสินมาจัดงานแต่งงานค่ะ
ป.ล. เป็นแค่ประสบการณ์ส่วนตัวนะคะ ส่วนใครมีแฟนเป็นชาวดัตช์แล้วอยากจะทำตามประเพณีไทยก็ไม่ต้องกังวลค่ะ แค่อธิบายให้เขาฟังก่อนเพื่อให้เขาได้ทำความเข้าใจและเตรียมพร้อม...ทุกอย่างก็จะได้ไม่มีปัญหาอะไรในภายหลังค่ะ
โฆษณา