19 ก.พ. เวลา 16:48 • ภาพยนตร์ & ซีรีส์

"Hard Days" 2023

เมื่อคนดวงตก โคจรมาพบกัน
ในวันที่หนักหน่วงที่สุดก่อนพ้นปี
การต่อสู้เพื่อเอาชีวิตรอดจึงบังเกิด
"Hard Days" 2023
ผลงานรีเมคภาพยนตร์อาชญากรรม ระทึกขวัญ ที่ดัดแปลงจากต้นฉบับ A Hard Day ของเกาหลีในปี 2014 ซึ่งครั้งนี้ได้ Michihito Fujii ผู้กำกับมือดีแดนอาทิตย์อุทัยที่ฝากผลงานขึ้นหิ้งมาแล้วมากมาย ทั้ง A Family (2021) และ The last 10 years (2022) มานั่งแท่นกำกับและร่วมเขียนบทด้วยตัวเอง อีกทั้งยังได้ 2 นักแสดงหนุ่มสุดเข้ม อย่าง จุนอิจิ โอคาดะ (The Fable, Hell Dogs) และ โก อายาโนะ (A Family, Homunculus, Love Deeply) ที่ได้ฤกษ์งามยามดีในการโคจรมาพบกันในครั้งนี้
เรื่องราวของนายตำรวจ คุโด ยูจิ (Junichi Okada) สารวัตรที่รับสินบนยากูซ่า จนเรื่องกระพือไปเข้าหูฝ่ายสอบสวนกิจการภายในของกรมตำรวจ ขณะที่เขากำลังเร่งรีบท่ามกลางคืนฝนกระหน่ำในช่วงสิ้นปี ก็ดันเผลอขับรถไปชนคนตาย หนำซ้ำสายโทรศัพท์ที่ดังขึ้นยังบอกว่าแม่ของเขาได้เสียชีวิตลงอย่างกระทันหัน
ทุกอย่างจึงประเดประดังถาโถมเข้ามาอย่างไม่ปราณี แต่เรื่องเฮงซวยยังไม่จบแค่นั้น เมื่อคนที่เขาขับรถชนตายดันไปมีเอี่ยวกับการฟอกเงินของผู้มีอิทธิพล ทำให้คุโดที่พยายามจะซ่อนศพเพื่อทำลายหลักฐานนั้นถูกตามล่า และเจ้าหน้าที่ฝ่ายสอบสวนกิจการภายในอย่าง ยาซากิ (Go Ayano) ก็มีทีท่าว่าจะล่าไม่ปล่อย
เรียกได้ว่าเป็นเรื่องราวตลกร้ายของวันสุดแสนเฮงซวยแบบฝนตกขี้หมูไหลสมชื่อเรื่อง หนังพยายามตอกย้ำความซวยของเหล่าตัวเอกแบบซวยแล้วซวยอีก และก็พาคนดูลุ้นไปตามๆ กัน ซึ่งตัวละครหลักในเรื่องนั้นล้วนไม่มีใครดีหรือเลวอย่างสุดโต่ง ทั้งนายตำรวจคุโด และเจ้าหน้าที่ฝ่ายสอบสวนยาซากิ ล้วนเป็นตัวละครสีเทา ที่พอหนังพาไปเห็นความซวยของพวกเขาก็พาให้อยากเอาใจช่วยทั้งคู่
การดำเนินเรื่องโดยรวมถือว่าค่อนข้างกระชับ รวดเร็ว ไม่น่าเบื่อ มีพล็อตทวิสต์ออกมาให้ลุ้นกันเป็นระยะๆ ส่วนตัวแล้วไม่เคยดูเวอร์ชั่นต้นฉบับของเกาหลี เลยทำให้คล้อยตามไปกับหนังได้ไม่ยาก ด้านงานภาพ องค์ประกอบ ซาวด์แสงสีก็ไว้ใจผู้กำกับฟูจิอิได้สบายๆ และยิ่งการได้เห็นสองนักแสดงหนุ่มที่ถือว่ามาแรงเบอร์ต้นๆ ของญี่ปุ่นได้มาปะทะกัน ทำให้ตัวหนังดูสนุกขึ้นอีกเป็นเท่าตัว
โดยเฉพาะการได้เห็นอะไรแปลกใหม่ อย่างจุนอิจิ โอคาดะ ในบทตำรวจชั้นผู้น้อย คนธรรมดา ที่แม้ว่าที่ผ่านตาล่าสุดมานั้นก็มีแต่บทนักฆ่ามาดนิ่ง หรืออย่างโก อายาโนะ ที่มาเล่นบทตัวร้าย แบบจิตๆ ถือว่าเป็นสีสันชวนตื่นตาได้ไม่น้อยเลยทีเดียว
แต่ถ้าหากจะพูดถึงข้อเสียของหนังเรื่องนี้อย่างน่าเสียดายเลยก็คือความดีงามสมจริงที่ปูมาทั้งเรื่องนั้น ต้องมาพังทลายลงในช่วงไคล์แม็กท้ายเรื่อง ที่ในช่วงแรกอุตส่าห์เล่าเรื่องเกี่ยวกับความซวยที่ใครๆ ก็เกิดขึ้นได้ แต่ในซีนท้ายๆ กลับเลือกที่จะโชว์ความเวอร์วังอลังการ ชนิดที่ต้องอุทานว่า WTF!! เลยทำให้ฉากจบของหนังดูดรอปลงไปพอสมควร ถึงแม้ว่าจะเข้าใจที่ทีมผู้สร้างต้องการจะตอกย้ำความซวยของตัวเอก แต่ยังไงมันก็ดูหลุดโลกเกินไปอยู่ดี ไม่รู้ว่าเวอร์ชั่นต้นฉบับเกาหลีปี 2014 จบเหมือนกันอย่างนี้หรือเปล่า
แต่ก็ไม่ได้มีแต่ข้อติเท่านั้น ในส่วนที่ชอบก็มีมากมาย นอกจากฉากแอ็คชั่นที่กำกับออกมาได้อย่างมีชั้นเชิงแล้ว การเล่าตัวละคร ยาซากิ (โก อายาโนะ) ที่ให้อารมณ์กึ่งๆ ตัวร้าย กึ่งๆ พระรองยังถือว่ามีสเน่ห์มาก การเลือกสลับฉากย้อนอดีตแล้วมาบรรจบความบรรลัยในช่วงสิ้นปี ถือว่าเป็นการขยี้หนังได้อย่างดีทีเดียว ใครที่คิดว่าตัวเองต้องเจอกับวันที่หนักหนาสากรรจ์แล้ว ลองแวะมาดูเรื่องนี้ คุณอาจจะเทียบความซวยกับพวกเขาเหล่านี้ได้แบบไม่ติดฝุ่น
ใดๆ ที่กล่าวมาทั้งหมด "Hard Days วันโหด" ก็ถือว่าเป็นหนังที่ดี ตื่นเต้น ลุ้นระทึก ดูสนุกได้แบบเพลินๆ แต่ส่วนตัวแล้วก็ไม่ได้รู้สึกว่าขึ้นหิ้งขนาดนั้น จะดูก็ได้จะข้ามก็ไม่ติดอะไร แต่ในฐานะแฟนของเฮียโอคาดะกับคุณโก อายาโนะ พอได้เห็นทั้งคู่มาร่วมจอเดียวกันแล้วก็ยากที่พลาด ซึ่งถ้านับแค่การแสดงก็ต้องให้เลยว่าของจริง ถ้าไม่ติดความกาวในช่วงท้ายก็คงเป็นอีกเรื่องที่ต้องตราตรึง แต่สำหรับเรื่องนี้เอาไป 6/10 ก่อนแล้วกัน
โฆษณา