Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
FINstories - เล่าเรื่องเงิน ให้เป็นเรื่องง่าย
•
ติดตาม
20 ก.พ. 2024 เวลา 04:20 • หุ้น & เศรษฐกิจ
สรุป..มุมมองการลงทุนในตลาดจีน และอินเดีย (Cr.FINNOMENA)
เพื่อนคนไหน สนใจลงทุนในตลาดจีนและอินเดียช่วงนี้ ลองแวะมาฟังมุมมองของทีมนักวิเคราะห์จากFINNOMENA กันก่อน วันนี้น้องกระดุมการเงินจะนำมุมมองเหล่านี้มาสรุปให้ฟัง
สถานการณ์ตอนนี้ระหว่างจีนและอินเดีย
MSCI เพิ่มน้ำหนักตลาดหุ้นอินเดียในการคำนวณดัชนี
MSCI มีการปรับสัดส่วนของอินเดีย (เส้นสีเขียว) ปรับขึ้นตลอดสวนทางกับจีน (เส้นสีแดง) ที่ลดสัดส่วนลงมาเรื่อยๆ จนเหลือ 25%
IMF คาด GDP อินเดียโตแกร่งกว่าจีน 2.1%
จากรูปด้านบนเราจะเห็นว่า..ส่วนต่างของการเติบโตทางเศรษฐกิจของจีน และอินเดีย จะกว้างขึ้นเรื่อยๆ
Manufacturing PMI อินเดียแข็งแกร่งกว่า
ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อภาคการผลิต (Manufacturing PMI) ทั้งจีน และอินเดีย มีแนวโน้มขยายตัวได้อีก แต่อินเดีย มีโอกาสเติบโตได้มากกว่า
อินเดีย แข็งแรง และแข็งแกร่งกว่าเดิม
จีน ทรงๆ ไม่ได้แข็งแกร่งมากขึ้น
Service PMI อินเดียแข็งแกร่ง และยังเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง
ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อภาคการบริการ (Service PMI) แข็งแกร่งทั้งอินเดีย และจีน
แต่อินเดียแข็งแกร่งมากกว่าทั้งระดับ PMI และอัตราการเปลี่ยนแปลง
ความเชื่อมั่นผู้บริโภคของอินเดียฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง
ความเชื่อมั่นผู้บริโภคของอินเดียเพิ่มขึ้นสูงกว่าก่อนเกิดโควิดเรียบร้อยแล้ว
แต่ความเชื่อมั่นผู้บริโภคของจีนยังอยู่ในระดับต่ำอยู่ จีนยังไม่ฟื้น
ในระยะยาว..ใครพร้อมมากกว่ากัน ?
ประชากรวัยทำงานของอินเดียเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง สวนทางกับจีน
โครงสร้างประชากร จำนวนวัยแรงงานของจีน ผ่านจุดสูงสุดไปแล้ว ส่วนจำนวนประชากรของอินเดียจากคาดการณ์ปี 2030 จะเริ่มแซงจีน และจะขยายตัวต่อเนื่องไปอีก ส่วนจีนหลังปี 2030 ประชากรวัยแรงงานของจีนจะลดลงเรื่อยๆอย่างรวดเร็ว
จีนมีหนี้นอกภาคการเงินเยอะ
ตัวเลขหนี้สินนอกภาคการเงิน จีนมีหนี้ส่วนนี้เยอะกว่าค่าเฉลี่ยใน Emerging Market หนี้ส่วนใหญ่อยู่ในภาคธุรกิจ ครัวเรือนและหนี้สาธารณะ ตามลำดับ
ส่วนอินเดีย หนี้นอกภาคการเงิน ยังอยู่ในระดับต่ำกว่าค่าเฉลี่ย
หลังโควิด ต่างชาติเข้ามาลงทุนในจีนลดลงอย่างมีนัย
อดีตเคยมีเม็ดเงินจากต่างชาติไหลเข้ามาลงทุนในจีนเยอะ แต่ตอนนี้้เม็ดเงินต่างชาติไหลออกเรื่อยๆ ตั้งแต่เกิดโควิด
ส่วนอินเดีย เม็ดเงินจากต่างชาตอเข้ามาลงทุนทรงๆประมาณค่าเฉลี่ยตลอดไม่ได้โดดเด่น
แต่หากเปรียบเทียบกันตอนนี้ อิเดียก็ยังโดดเด่นกว่าจีน
สัดส่วนอุตสาหกรรมในจีนและอินเดียต่างกัน
กลุ่มอุตสาหกรรมในอินเดีย ส่วนมากจะอยู่ในภาคการเงิน และเทคโนโลยี
ส่วนกลุ่มอุตสาหกรรมส่วนใหญ่ในจีนจะอยู่ในภาคการบริโภคทั่วไป
แต่ถ้ามองภาพวมทั้งหมดแล้ว อินเดียมีการกระจายภาคอุตสาหกรรมมากกว่าจีนที่กระจุกตัว
หุ้นอินเดียไม่เคยถูก
Valuation อินเดีย แพงกว่าค่าเฉลี่ยมาตลอด แต่กำไรก็โตขึ้นเรื่อยๆ
หุ้นจีน All China ถูกแล้ว ถูกอีก
หุ้นจีน All China ถูกแล้วถูกอีก ไม่โต แต่ไม่อยู่ที่เดิม กำไรน้อยลงไปอีก
Valuation หุ้นฮ่องกงถูก
Hang Seng หุ้นฮ่องกง (H-share) 10 ปีที่ผ่านมากำไรลดลง แต่ลดลงในอัตราที่น้อยกว่า All China
A-share ลงไม่ลึกเท่าตลาดจีนอื่น แต่กำไรลดลง
A-share เป็นตัวเดียวที่พอจะปรับตัวขึ้นได้ แต่ทุกปีกำไรลดลง 6 ปีติดต่อกันแล้วที่กำไรลดลง
เราลองมาดูในมุมมองเชิงสถิติกันบ้าง
ถ้าลงทุนในจีนตอนนี้ดี P/Eต่ำ มีโอกาสได้ผลตอบแทนมากขึ้น
จากรูป ถ้าเราลงทุนในอินเดีย MSCI India ที่ P/E 22.3 เท่า คาดหวังผลตอบแทนได้ที่ 5-6%
ถ้าเราลงทุนในจีน MSCI China ที่ P/E 8.6 เท่า คาดหวังผลตอบแทนได้ที่ 15-16%
ถ้าเราลงทุนในฮ่องกง HSI ที่ P/E. 7.5 เท่า คาดหวังผลตอบแทนได้ที่ 15-16%
ตามทฤษฎี ยิ่งเราลงทุนใน P/E สูง เราจะมีโอกาสได้รับผลตอบแทนที่คาดหวังน้อยลง
แต่ถ้าเราลงทุนใน P/E ต่ำ เรามีโอกาสได้รับผลตอบแทนที่คาดหวังมากขึ้น
สรุปแล้ว..หากต้องการลงทุนระยะสั้นเน้นเก็งกำไรแนะนำลงทุนในจีน
แต่หากต้องการลงทุนสะสมระยาวแนะนำลงทุนในอินเดีย
ขอบคุณข้อมูล และมุมมองการวิเคราะห์จากทาง FINNOMENA 💛
ถ้าเพื่อนๆเห็นว่าโพสต์นี้เป็นประโยชน์ ฝากกดไลค์ กดแชร์ และเป็นกำลังใจให้น้องกระดุมการเงินด้วยน้าาา 🥰
#มุมมองการลงทุน
#กองทุนรวม
#น้องกระดุมการเงินเล่าเรื่องกองทุน
#น้องกระดุมอินเทรนด์
ติดต่อเรา
openlink.co
FINstories
Financial x Stories เล่าเรื่องการเงินให้เป็นเรื่องง่าย...เข้าใจได้ทุกคน 📬 fin.stories2468@gmail.com
การลงทุน
เศรษฐกิจ
การเงิน
บันทึก
1
1
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย