กองทุนรวมในพอร์ตติดลบเราควรจบ (กัน) ไหม ?
ส่วนมากการลงทุนในกองทุนรวมจะมีจุดประสงค์ให้คนลงทุนระยะกลางถึงระยะยาว 3-5 ปี แต่ทุกการลงทุนมีความเสี่ยงไม่ว่าจะเป็นกองทุนรวมก็ตามจะมีตั้งแต่ความเสี่ยงสูงจนถึงความเสี่ยงต่ำ ถึงแม้ว่าจะศึกษาข้อมูลการลงทุนมาดีขนาดไหน แต่ทุกการลงทุนย่อมมีความเสี่ยงซ่อนอยู่เสมอ อยุ่ที่ว่าเรารับความเสี่ยงได้สูงหรือต่ำมากแค่ไหน
สถานการณ์เมื่อปี 2566 ที่ผ่านมาไม่ว่าจะเป็น อัตราเงินเฟ้อที่ทรงตัวในระดับสูงยาวนานและต่อเนื่อง, ความขัดแย้งระหว่างประเทศ , ธนาคาร Silicon Valley Bank (SVB) ที่สหรัฐฯ ปิดกิจการ หรือ ความเสี่ยงต่อการเกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอย ทำให้กองทุนรวมปรับตัวลงอย่างหนักซึ่งสร้างความกังวลให้กับนักลงทุนไม่น้อย บางคนรีบขายกองทุนออกไปเพราะกลัวจะติดลบมากกว่านี้ แต่ก่อนที่จะตัดสินใจขาย มาดูวิธีที่ WealthMagik แนะนำก่อน แล้วค่อยตัดสินใจว่าควรเลือกทางไหนดี
- ถือต่อไป >> พิจารณาก่อนว่ากองทุนที่เราลงทุนไป มีโอกาสฟื้นกลับมาหรือไม่ในระยะยาว บางครั้งอาจจะเกิดจากสถานการณ์ที่เราควบคุมไม่ได้ เช่น สงคราม เศรษฐกิจ หากเป็นวิกฤตที่เกิดขึ้นระหว่างทางการลงทุนแค่ชั่วคราวก็ควรถือต่อไป เพราะถ้าลงทุนในสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงสูงก็มักจะมีความผันผวนในระยะสั้น
แต่ถ้าผ่านในระยะสั้นไปได้ ก็อาจจะทำให้กองทุนมีโอกาสสร้างผลกำไรกลับมาได้ หรือเดินหน้าลงทุนต่อไปแต่อาจจะเปลี่ยนมา DCA (Dollar Cost Average) เพราะเป็นการลงทุนแบบถั่วเฉลี่ยด้วยจำนวนเงินที่เท่ากันทุกงวดอย่างสม่ำเสมอ เป็นการสร้างวินัยทางการลงทุน และยังสามารถช่วยลดความเสี่ยงในการลงทุน เหมาะกับการลงทุนในระยะยาว
- ปรับพอร์ต >> ในการลงทุนควรมี 2 สินทรัพย์ขึ้นไปเพื่อกระจายความเสี่ยงในพอร์ตการลงทุนอยู่แล้ว สินทรัพย์ที่ลงไป ไม่มีสินทรัพย์ใดที่จะได้กำไรตลอด อาจจะเกิดวิกฤตจากสถานการณ์ต่าง ๆ ทำให้มูลค่าของสินทรัพย์ หรือผลตอบแทน ลดลงบ้าง ต้องปรับตัวตามสถานการณ์ ทำให้การลงทุนไม่เป็นไปตามแผน
อาจจะทำการ Rebalance portfolio คือปรับสัดส่วนการลงทุนให้กลับมาอยู่ในความเสี่ยงที่เรารับได้และผลตอบแทนที่เราคาดหวังไว้ตั้งแต่แรก เช่นเคยลงทุนในกองทุนรวมหุ้น 50 % กองทุนรวมตราสารหนี้ 50 % แล้วพบว่าตลาดมีความผันผวนสูง ทำให้ กองทุนรวมหุ้น 80 % กองทุนรวมตราสารหนี้ 20 % ก็ทำการ Rebalance portfolio ให้กลับมาอยู่ในสัดส่วนเท่าเดิม
- ขาย >> ถ้าพิจารณาจากปัจจัยหลาย ๆปัจจัยดูแล้วกองทุนที่เราลงทุนอยุ่ไม่มีแนวโน้มไปในทิศทางที่ดีขึ้น ติดลบหนักมาก บวกกับปัจจัยภายในหลาย ๆอย่าง เช่น นโยบายการลงทุนไม่ตอบโจทย์กับเทรนด์ในยุคปัจจุบันและอนาคต กองทุนเปลี่ยนนโยบายบ่อย
หรือผู้จัดการกองทุนเลือกสินทรัพย์ไม่ดี ก็อาจจะต้องขายทิ้งไปเลย แล้วนำไปซื้อสินทรัพย์อื่นแทนตามสถานการณ์ตลาด ยอมขาดทุนเพื่อไปหาสินทรัพย์ที่ให้ผลตอบแทนที่ดีขึ้น แต่จะเลือกลงทุนในสินทรัพย์ใดๆ ต้องคำนึงถึงความเสี่ยงที่ผู้ลงทุนรับได้
อย่างไรก็ตาม แอดมินอยากให้ทุกคนเข้าใจว่าการลงทุนมีความเสี่ยง อาจจะเกิดสถานการณ์ไม่คาดคิดได้เสมอ ฉะนั้นควรเลือกลงทุนในสินทรัพย์ที่เหมาะสมและความเสี่ยงที่เรารับได้ และควรศึกษาข้อมูลการลงทุนอย่างรอบคอบก่อนการลงทุน
- 3
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
