20 ก.พ. เวลา 17:46 • บันเทิง
จิตนั้นอาศัยอยู่ในเรือกายของคุณบิดามารดา เมื่อจะทำจิตให้นิ่ง ก็จับกายมานั่งให้นิ่ง เราก็ดูพระปฏิมากร เป็นตัวอย่าง ปั้นกายให้กายนิ่ง จิตก็จะนิ่งตามกาย .สิ่งที่ทำให้จิตไม่นิ่งก็คือ อารมณ์ สิ่งต่างที่เกิดขึนในเรือนกาย ล้วนเป็นอารมณ์ เวทนาเจ็บปวดที่เกิดขึ้นก็คือ อารมณ์ นิวรณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นก็เป็นอารมณ์ทั้งสิ้น มีสติสัมปชัญญะ..สังเกตุกาย สำรวจกาย ..สำรวจลมหายใจเข้าออก ..แต่งั้นแหละปัญหา การจะทำกายนิ่งจิตนิ่งได้ .ส่วนหนึ่งเป็นเรื่องของการฝึกหัด สะสมบุญกุศลบารมี .
มีพระที่เรานับถือท่านชอบยืน ทำกายนิ่ง จิตนิ่งเฉยๆ ทำยืนตั้งแต่หกโมงเย็น ไปขยับเขยื้อนกาย ก็ตอนเที่ยงคืน ท่านบอกว่า ทำไปเป็นวันคืนก็ทำได้ ท่านบอกว่า ..ฉันไม่ได้เพิ่งมากหัดทำชาตินี้ ฝึกหัดมาก็หลายชาติ ..นั่งสมาธิ ท่านก็นั่งพับเพียบ ..นั่งสมาธิ ..
คราวนี้ เรื่องของการทำกายนิ่ง จิตนิ่ง ไม่มีอารมณ์นึกคิดอะไร เราก็ดูรอยทั้งสี่ขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ยืน เดิน นั่ง นอน ไม่มีอารมณ์ปรุงแต่ง นึกคิดอะไร ..ไม่มีอารมณ์คิดเรื่องนั้นเรื่องนี้ นำพาจิต ออกไป..ไม่มีสติสัมปชัญญะรู้สึกตัวว่ากำลังทำอะไรอยู่
เมื่อเราจะมาเดิน เอารอยทั่งสี่มาฝึกหัด เราก็ควร นอบน้อม ขอนำกิริยาทั่งสี่นำมากระทำ ..มันเริ่มต้นตั้งแต่การกราบไหว้ ..สำรวจจิตสำรวมใจ จิตเรานั้นอยู่ในกาย ปกตินอนเนื่องไม่ค่อยตื่นขึ้นมา..เป็นจิตหลับใหล ก็ควรฝึกให้สติตื่นขึ้นก่อน ต้องหมั่นบอกตัวเอง พูดให้หูของเราได้ยิน เพื่อให้วิญญาณหู ส่งต่อไปให้จิตรับรู้ ว่ากำลังทำให่กายนิ่งจิตเฉย ต้องมีสติสัมปชัญญะตลอดในการฝึกหัดปฏิบัติ ..
เมื่อกายนิ่งได้ จิตนิ่งได้ ..ไม่มีอารมณ์ปรุงแต่งอะไรเกิดขึ้น ..กายมันก็นิ่งจิตนิ่งได้ จิตนิ่งได้ จิตก็ไม่มีอารมณ์อะไร กายก็นิ่ง จิตก็นิ่ง คราวนี้ เมื่อกายนิ่งจิตนิ่งได้ แสงของธรรม ก็วิ่งลงสู่จิต จิตที่มีแสงส่องลงมา
ก็เหมือนเรามีไฟฉายไปดูตรวจสอบ สิ่งต่างอารมณ์ต่างๆ มันไหลมาจากไหนเรื่องราวอะไร นั่นก็เหมือนจิต ..ที่เสมือนถือไฟฉาย ส่องเรื่องราวต่างๆที่เกิดขึ้นในเรือนกาย เราก็อาศัยสมาธินั้น ผลักดัน สิ่งที่ไหลมานำพาให้จิตสั่งกายไปสร้างกรรม. เมื่อส่งไปเจอะเจออารมณ์ เราก็รักษากายนิ่งจิตนิ่ง เพื่อให้อารมณ์กรรมนั้น ผ่านออกไปจากจิตจากกายที่เราอาศัยอยู่ หรือ ให้ละลายออกไป โดยรักษากายนิ่งจิตเฉย เมื่อทำได้เราก็ได้ คำว่า บารมี เค้าว่าสะสมบุญบารมี
คราวนี้ เรื่องกายนิ่ง จิตนิ่งนั้น เป็นเรื่องของบุญกุศลบารมี ที่จิตท่านสะสมมาดี ทำมามาก ..ท่านก็ทำกายนิางจิตนิ่งได้ เหมือนเป็นของง่าย ส่วนเราทำแทบตาย มันก็ยังไม่นิ่ง นั่นก็คือ เราต้องหมั่นสร้างบุญกุศล สละปัจจัยที่ เหน็ดเหนื่อยหามา
..เราก็แบ่งปันให้เป็นทานบ้าง บุญบ้าง ทำด้วยความเต็มใจ ..จิตเราก็มีคำว่า บุญเกิดขึ้น เหมือนกับว่า เราได้ค่อยหัดสละปัจจัยที่หามาได้ มายึดถือวัตถุปัจจัยนั้น เราก็เอามาแบ่งปัน ให้เกิดบุญกุศล พอจิตมีบุญ กายมันก็เบาจิตเบา เวทนากรรมไม่ค่อยรบกวน เราก็สามารถ ทำกายนิ่งจิตนิ่งได้
กายนิ่ง จิตนิ่งนั้น ..เป็นเรื่องราวของผู้ที่ฝึกหัดสะสมบุญกุศลบารมี..แล้วจิตที่ไม่รู้จักลดละอารมณ์ ไม่สามารถมาเดิน มายืน นิ่งๆเฉยๆ เอากายมาอยู่ในรอยขิงพระได้เลย
บางดวงจิตนั่งนอนยืนเดิน ท่องคาถาอาคมหากรรมได้ แต่ให้มาเดินในรอยของพระ มีแค่พุทโธสองคำ เค้าจะทำไม่ได้เลย คือ จะมาเดินยืนนั่งนอนในรอยของพระ ที่ท่านพ้นทุกข์ไปด้วยกิริยาทั้งสี่นี้ จะกระทำไม่ได้เลย มันจะร้อนรุ่มเป็นไฟ
คราวนี้เรามาดู ..เวลาที่เค้าพูด คำว่าปล่อยวาง เค้าพูดกันด้วยดู อารมณ์ เป็นแค่คำพูดว่า ปล่อยวาง
..คราวนี้ในการปล่อยวาง เค้าก็อาศัย การปฏิบัติปฏิบัติธรรม ..มากระทำขึ้น ..เช่นเดินจงกรม จิตก็ภาวนาพุทโธ หากมีเรื่องนั้นเรื่องนี้ คิดถึงบ้าน คิดถึงคนที่เรารัก คิดถึงพ่อแม่ เงินทอง ..ก็เอาจิตอยู่กับคำภาวนาพุทโธ ..ไม่ไปยึดอารมณ์ คิดถึงคนนั้นคนนี้ ที่จะมาเป็นลักษณะของคลื่น เป็นลักษณะของการพายเรือ โต้คลื่น ..การฝึกหัด ..เรื่องการพายเรือ นั้นก็จะทำให้ สติของจิต นั้นมีความเข้มแข็งขึ้น จิตมีกำลังขึ้น ..แต่นั้นแหละ มันก็ฝึกยาก แล้วก็หาผู้ที่จะชี้ให้ฝึกหัดได้ยาก ..
โฆษณา