21 ก.พ. 2024 เวลา 16:18 • สุขภาพ
ปูเสื่อรอ …..น่าจะอีกสักสิบปี ….องค์ความรู้ทางการแพทย์ไม่เคยได้มาเร็ว แต่ด้วยเทคโนโลยี ถือว่าใช้เวลาสั้นมากในการเรียนรู้โควิดิ และได้อานิสงส์ ได้เรียนรู้เรื่อง cytokines strom แบบถึงพริกถึงขิง แล้วรักษากันแบบกรองเลือดสู้กันเลย ไปจนถึงเรื่องของระบบทางเดินหายใจล้มเหลว หรือแม้แต่แนวทางการดูแลคนไข้ที่มีภาวะช็อคแบบต่างๆ การให้สารน้ำ
เทคนิคการใส่ท่อช่วยหายใจเพื่อป้องกันการแพร่กระจายเชื้อ การใส่ท่อแบบรวดเร็วโดยใช้ยานำสลบช่วย
แล้วไม่ใช่แค่โควิด หลายเชื้อทำแบบนี้ได้ โควิดทำให้การสู้กับภาวะเหล่านี้ทางการแพทย์ถูกพัฒนาแบบก้าวกระโดด รวมถึงการพัฒนาวัคซีนใหม่ในอีกหลายโรค และเป็นวิกฤติที่ทำให้คนไทยหันมาสนใจวัคซีน หมอเด็กอธิบายพ่อแม่เด็กง่ายขึ้น ไปจนถึงหมอผู้ใหญ่สนใจใช้วัคซีนให้คนแก่ หรือคนที่ควรได้มากขึ้น
ทุกอย่างเกิดจากการสะสมข้อมูล ทดลอง วิจัย ถกเถียง เปลี่ยนไปเปลี่ยนมาขึ้นกับหลักฐานที่มีอ้างอิงในมือตอนนั้น ตรวจ วัด ทดลอง เฝ้าสังเกตุปรากฏการต่างๆ บางทีเรื่องเดียวกัน ผ่านไปสิบห้าปี เปลี่ยนสามรอบ
บางครั้งเรื่องเดียว ผ่านไปยี่สิบปีถึงได้คำตอบที่เดิมเว้นเป็นช่องว่าไว้มากมาย เช่นโรคไข้เลือดออก จากที่เคยเรียบแบบแทบไม่รู้เลยว่ากลไกของโรค หรือพยาธิวิทยาของโรคเกิดจากอะไร จนถึงทุกว่านี้มาไกลถึงวัคซีน และแนวทางการดูแลอย่างเข้าใจพยาธสรีวิทยาลึกซื้งมากขึ้น ….
วัคซีนโควิด รอไปค่ะ ข้อสรุปน่าจะอีกหลายปี ตอนนี้ ยังไงคนที่เสี่ยงตายจากความรุนแรงของโรค วัคซีนยังมีประโยชน์ ….
ความรู้ทางการแพทย์มีทั้งส่วนที่เป็นความจริงเที่ยงแท้ ไม่แประเปลี่ยน กับส่วนที่เปลี่ยนไปตามความสามารถของคนที่จะเรียนรู้ ในวันนี้ กับอีก สิบปีข้างหน้า มันไม่เหมือนเดิม ….
แต่ต้องยอมรับว่า เราผ่านโควิดมากันได้เพราะวัคซีน ถ้าไม่มีวัคซีน ก็จะยาวนานและตายมากกว่านี้
เลือกเรียนเด็ก กะท่องตารางวัคซีนเด็กครั้งเดียวแล้วใช้ทั้งชีวิต …ที่ไหนได้ นับไปห้าปีหลังเรียนจบ เปลี่ยนมาตลอด นับวันมีแต่จะเปลี่ยนจะมากขึ้นๆๆๆๆๆๆๆ
โฆษณา