23 ก.พ. เวลา 11:00 • ข่าวรอบโลก

โอกาสลงทุน ‘การขนส่งห้องเย็น’ ในเวียดนาม

‘การขนส่งห้องเย็น’ เป็นที่ต้องการอย่างมากในเวียดนาม เนื่องจากความสนใจที่จะ ‘นำเข้า’ อาหารประเภทที่ต้องเก็บไว้ในที่มีความเย็นเพิ่มมากขึ้น
ตลอด 10 ปี ที่ผ่านมา เศรษฐกิจเวียดนามก้าวหน้าขึ้นมาก เพราะได้รับแรงสนับสนุนจากความตกลงการค้าเสรีต่าง ๆ ซึ่งความตกลงการค้าเสรีเหล่านี้ไม่เพียงแต่ส่งเสริมด้านการส่งออกแต่ยังช่วยผลักดันการเติบโตอย่างรวดเร็วในภาคธุรกิจการนำเข้าอาหารระดับ high-end อีกทั้งการซื้ออาหารในปัจจุบันก็ค่อนข้างง่ายและรวดเร็วผ่านช่องทาง e-commerce ต่าง ๆ
ขณะที่ สภาอาหารทะเลแห่งนอร์เวย์ระบุว่าเวียดนามเป็นตลาดผู้บริโภคที่ใหญ่ที่สุดของอาหารทะเลจากนอร์เวย์ ซึ่งมีการซื้อประมาณ 50,000 ตัน ในปี 2565 นอกจากนี้ เวียดนามได้กลายเป็นผู้นำเข้าเนื้อวัวรายใหญ่จากสหรัฐอเมริกา ออสเตรเลียและญี่ปุ่นซึ่งเนื้อวัวนำเข้าเหล่านี้เป็นที่นิยมเพราะเข้าใจว่านำมาทำอาหารง่ายกว่าเนื้อวัวภายในประเทศ
สำหรับนมและผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับนมที่นำเข้ามาก็ได้รับความนิยมเช่นกัน โดยเวียดนามนำเข้านมและผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับนมมูลค่ามากกว่า 358,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ จากนิวซีแลนด์ในปี 2565 ซึ่งชีสจากฝรั่งเศสและไอศกรีมจากอิตาลีก็ได้รับความนิยมอย่างมากในหมู่ผู้บริโภคชาวเวียดนามด้วย
ด้วยเหตุนี้ การขนส่งห้องเย็นจึงมีความสำคัญสำหรับจัดเก็บอาหารที่ต้องควบคุมอุณหภูมิ เพื่อตอบโจทย์ความนิยมในอาหารเหล่านี้ที่เพิ่มมากขึ้นด้วย
โอกาสการลงทุน
ตลาดการจัดเก็บและการขนส่งแบบควบคุมอุณหภูมิของเวียดนามถูกคาดการณ์ว่าจะมีอัตราการเติบโตเฉลี่ยต่อปี 12.24% ภายในปี 2572 และจากที่ความต้องการอาหารสดและอาหารแช่แข็งภายในประเทศที่เพิ่มขึ้น จึงทำให้ธุรกิจนี้มีศักยภาพที่จะเติบโตอย่างมหาศาลในอนาคต โดยบริษัทที่เข้าร่วมในธุรกิจขนส่งห้องเย็นของเวียดนามคาดว่าจะเติบโตอย่างรวดเร็วในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า เนื่องจากความต้องการอาหารสดและอาหารแช่แข็งเพิ่มสูงขึ้น และบริษัทต่างชาติสามารถเข้ามาในตลาดนี้ได้หลายทาง ดังนี้
ตู้บรรจุสินค้า
ปัจจุบันตลาดขนส่งห้องเย็นในเวียดนามแบ่งออกเป็น 4 กลุ่ม ได้แก่ ทางรถไฟ ทางอากาศ ทางถนนและทางน้ำ โดยทางรถไฟ ทางถนนและทางน้ำ เป็นกลุ่มที่ใช้บ่อยที่สุด เนื่องจากมีความสามารถที่จะขนย้ายสินค้าจำนวนมากที่อยู่ในตู้บรรจุสินค้าขนาดใหญ่ได้ ดังนั้นนักลงทุนต่างชาติจึงสามารถพิจารณาที่จะจัดหาตู้บรรจุสินค้าที่มีเครื่องทำความเย็นที่มีคุณภาพสูงให้กับบริษัทโลจิสติกส์ของเวียดนาม โดยตู้บรรจุสินค้าควรจะมีระบบแจ้งอุณหภูมิและสามารถปรับอุณหภูมิใหม่ได้แบบ real-time
พลังงานไฟฟ้าสีเขียว
นักลงทุนต่างชาติสามารถหาโอกาสการลงทุนในโลจิสติกส์สีเขียว (Green Logistics) โดยการลงทุนในการพัฒนารถบรรทุกและรถตู้เก็บความเย็นไฟฟ้าและขายให้กับบริษัทในท้องถิ่นก็อาจจะให้ผลกำไร และในปัจจุบันรัฐบาลของเวียดนามมีนโยบายสนับสนุนโครงการที่เกี่ยวกับ ESG ด้วย
การเปลี่ยนเป็นดิจิทัล
การนำเทคโนโลยีที่ทันสมัยมาใช้ในการขนส่งห้องเย็นในเวียดนามนับว่ามีความสำคัญต่อการปรับห่วงโซ่อุปทานให้เหมาะสม ลดต้นทุนการดำเนินงาน และเพิ่มประสิทธิผลโดยรวม ซึ่งปัจจุบันธุรกิจจำนวนมากในเวียดนามที่นำ Digital Solutions เข้ามารวมอยู่ในการดำเนินงานมีค่อนข้างน้อยซึ่งส่วนใหญ่เป็นเพราะอุปสรรคด้านเงินลงทุน เพราะกระบวนการ digital transformation จำเป็นต้องใช้เงินทุนจำนวนมาก ดังนั้นจึงเป็นโอกาสของผู้ให้บริการซอฟต์แวร์ด้านการจัดการโลจิสติกส์ที่มีความคุ้มค่า
ทั้งนี้ เนื่องด้วยคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นและรายได้ที่เพิ่มมากขึ้นของประชากรของเวียดนามที่มีประมาณ 100 ล้านคน ทำให้ความต้องการอาหารที่คุณภาพสูงซึ่งจำเป็นต้องเก็บไว้ในที่เย็นมีแนวโน้มที่จะเพิ่มขึ้น ดังนั้นธุรกิจขนส่งห้องเย็นจึงไม่เพียงแต่สำคัญต่อการลดของเน่าเสียและเพื่อให้มั่นใจได้ว่าอาหารมีความสดใหม่ แต่ยังเปิดโอกาสการลงทุนที่น่าสนใจและสร้างประโยชน์ให้แก่นักลงทุนต่างชาติอีกด้วย
อย่างไรก็ดี นักลงทุนต่างชาติที่สนใจในตลาดขนส่งห้องเย็นควรเข้าไปสำรวจโอกาสทางธุรกิจด้วยตัวเอง เพื่อให้เห็นภาพของธุรกิจให้ชัดเจนยิ่งขึ้น และเพื่อให้นักลงทุนได้รับข้อมูลตลาดและสภาพเศรษฐกิจเชิงลึกของเวียดนาม นักลงทุนสามารถขอรับคำปรึกษาเบื้องต้นได้ที่ทีม AEC Connect ของธนาคารกรุงเทพ ที่ AECconnect@bangkokbank.com
ที่มา Investment Opportunities in Refrigerated Transportation in Vietnam (vietnam-briefing.com)
โฆษณา