28 ก.พ. เวลา 03:03 • ข่าวรอบโลก

บาร์บาร่า เดลี่ เบกเคแลนด์ มารดาผู้สังวาสกับบุตรชาย

ดาวสังคมผู้เด่นดังในเรื่องความงามแห่งนิวยอร์ก เป็นนางแบบที่ปรากฏโฉมในนิตยสารที่มีชื่อเสียงอย่าง Vogue และ Harper’s Bazaar ได้รับเชิญให้เข้าร่วมงานเลี้ยงของสังคมชั้นสูง แถมได้เดทกับเศรษฐีผู้มั่งคั่งมากหน้าหลายตาที่นิยมชมชอบเธอ สุดท้ายเธอลงเอยกับทายาทมหาเศรษฐีผู้ร่ำรวย และมีลูกชายหนึ่งคน
1
นี่คือด้านภายนอกที่ดูสวยหรูของ บาร์บาร่า เดลี่ เบกเคแลนด์ (Barbara Daly Baekeland) แต่ในอีกด้านของชีวิตจริงมิได้สวยงามเช่นนี้ เธอมีปัญหาสุขภาพจิต ชีวิตครอบครัวที่นอกใจกัน พ่อแม่ที่ละเลยลูก การหย่าร้าง และมีจุดจบด้วยน้ำมือของลูกชายตัวเองที่มีปัญหาทางจิต สาเหตุส่วนหนึ่งคงมาจากการที่ผู้เป็นแม่ต้องการแก้ปัญหาลูกชายเป็นเกย์ด้วยการล่อลวงให้ลูกมีเพศสัมพันธ์กับตัวเอง
อะไรจะสะเทือนขวัญและน่าสะอิดสะเอียนเช่นนี้ เรื่องนี้มีที่มาเป็นเช่นไรลองมาอ่านกันดู
  • ชีวิตแม่
บาร์บาร่า เดลี่ เกิดเมื่อปี 1922 ที่เมืองเคมบริดจ์ รัฐแมสซาชูเซ็ตส์ สหรัฐอเมริกา
ตอนที่มีอายุได้ 11 ปี พ่อของเธอฆ่าตัวตายในรถของตัวเองที่โรงจอดรถ พอได้รับเงินประกันชีวิตของพ่อ แม่จึงพาเธอย้ายไปอยู่ที่นิวยอร์ก
ไม่แต่เฉพาะพ่อ แม่ของบาร์บาร่าก็มีปัญหาด้านสุขภาพจิต ซึ่งบาร์บาร่าเองก็มีปัญหานี้เช่นกัน และเป็นคนไข้ส่วนตัวในการรักษาของจิตแพทย์
ด้วยความที่เป็นสาวน้อยหน้าตาสวยงาม คนจึงจดจำเธอเรื่องความงามและกลายเป็นสาวสังคม เธอเป็นนางแบบให้กับนักวาดรูป และเป็นนางแบบในนิตยสาร Vogue และ Harper’s Bazaar
สถานะทางสังคมและรูปโฉมที่งดงามทำให้เธอได้รับเชิญไปร่วมงานเลี้ยงของแวดวงชั้นสูงอยู่บ่อยครั้ง จึงทำให้เธอได้พบปะพูดคุยกับชายหนุ่มผู้มีอันจะกินมากมายและออกเดทกับชายเหล่านี้
บาร์บาร่าพยายามพาตัวเองเข้าสู่วงการฮอลลีวู้ดเพื่อเป็นดาราแต่ไม่ประสบความสำเร็จ เธอได้รับเชิญให้ไปเทสต์หน้ากล้องเพื่อแสดงภาพยนตร์ แม้เส้นทางสายนี้จะไม่พาเธอไปสู่ดาราฮอลลีวู้ด แต่ก็ได้นำเธอให้ได้เป็นเพื่อนกับพี่สาวของชายที่เธอจะได้แต่งงานในอนาคต คอร์เนเลีย เบกเคแลนด์ (Cornelia Baekeland) ผู้ใฝ่ฝันจะเป็นนักแสดงแนะนำให้รู้จักกับบรูกส์ เบกเคแลนด์ (Brooks Baekeland) ซึ่งตอนนั้นเป็นนักบินฝึกหัดอยู่
ตระกูลเบกเคแลนด์ ปู่และหลาน ๆ ที่มีบรูกส์เป็นหนึ่งในนั้น (wikipedia)
  • ชีวิตแต่งงานและครอบครัว
เมื่อไม่ได้เป็นดาราดังของฮอลลีวู้ดตามที่ตั้งใจ บาร์บาร่าก็แต่งงานกับบรูกส์ซึ่งเป็นทายาทตระกูลเบกเคแลนด์ ตระกูลนี้ทำธุรกิจด้านการผลิตพลาสติก โดยการแต่งงานของทั้งคู่เป็นไปอย่างรีบร้อน เพราะบาร์บาร่าบอกกับบรูกส์ว่าเธอตั้งท้อง ซึ่งความจริงมิได้เป็นเช่นนั้น
พวกเขาสร้างครอบครัวในอพาร์ทเมนต์อันหรูหราในแถบ Upper East Side ของนิวยอร์ก และจัดงานเลี้ยงมื้ออาหารเย็นอันหรูหราให้กับเพื่อน ๆ ซึ่งเป็นบุคคลสำคัญในแวดวงสังคม
เมื่อเวลาผ่านไป กลายเป็นที่รู้กันดีว่าบาร์บาร่าเป็นคนที่มีบุคลิกภาพไม่มั่นคง ระเบิดอารมณ์หยาบคายออกมา มีอารมณ์ซึมเศร้าอย่างรุนแรง และดื่มหนัก ทั้งเธอและสามีต่างมีความสัมพันธ์นอกสมรสกับคนอื่นมากมายหลายคน
ทั้งคู่มีลูกชายเพียงคนเดียว ชื่อว่าแอนโทนี (Anthony) หรือเรียกกันในชื่อเล่นว่า โทนี ตอนที่บาร์บาร่าอายุได้ 24 ปี
ครอบครัวเบกเคแลนด์มีไลฟ์สไตล์ที่มุ่งแสวงหาความสุขและความเพลิดเพลินในชีวิต โดยวัน ๆ เอาแต่เข้าร่วมงานเลี้ยงอันสุดเหวี่ยง เดินทางท่องเที่ยวทั่วโลกโดยหอบลูกชายวัยเด็กเล็กไปด้วย พวกเขาตระเวนไปทั่วยุโรป มีบ้านและคฤหาสน์ที่ลอนดอน ปารีส และหลายส่วนของอิตาลี และที่อื่น ๆ ในยุโรปมากมาย แต่ที่ปักหลักส่วนใหญ่คืออพาร์ตเมนต์ในปารีส
สามีภรรยาคู่นี้ใช้ชีวิตอย่างหรูหรา สร้างความสำราญให้กับแขกที่มาร่วมงานเลี้ยง และมีความสัมพันธ์นอกสมรส ครั้งหนึ่งที่งานเลี้ยงบรูกส์ไปตกหลุมรักลูกสาวของนักการทูตอังกฤษที่อายุน้อยกว่าเขาถึง 15 ปี เขาจึงขอหย่า บาร์บาร่าจึงพยายามฆ่าตัวตาย บรูกส์จึงยุติความสัมพันธ์ครั้งนั้นไป
  • ชีวิตลูกกับพ่อแม่
เด็กชายแอนโทนีเติบโตมาโดยมีพ่อแม่ที่เพิกเฉยต่อลูกและสนใจแต่เรื่องตัวเอง
แอนโทนีเริ่มทดลองมีความสัมพันธ์กับผู้ชายด้วยกัน(ที่ไม่ได้มีเพียงคนเดียว)ตั้งแต่อายุประมาณ 14 ปี
เมื่อบาร์บาร่าพบว่าแอนโทนีเป็นเกย์เธอรู้สึกเป็นกังวลมาก
ในระหว่างที่ครอบครัวเบกเคแลนด์กำลังพำนักอยู่ที่สเปน แอนโทนีในวัย 20 ก็เริ่มเกี่ยวข้องกับหนุ่มไบเซ็กส์ซวลชาวออสเตรเลียที่มีนามว่า เจก คูเปอร์ (Jake Cooper) ความสนใจในชายผู้นี้ทำให้แอนโทนีใช้เงินถางทางไปสู่แวดวงของเจกที่เต็มไปด้วยยาเสพติด การดื่มกิน และลัทธิลึกลับ แล้วก็ตกหลุมรักเจกอย่างรวดเร็ว
พอรู้เรื่องนี้บาร์บาร่ารู้สึกตื่นกลัว จึงพยายามเยียวยารักษาการเป็นเกย์ของลูกชาย ด้วยการชักจูงให้ ซิลวี่ (Sylvie) สาวฝรั่งเศส (บ้างก็ว่าเป็นสาวสเปน) ที่เป็นเพื่อนกับแอนโทนีมาแต่งงานกับลูกชายของเธอ แต่ไม่สำเร็จ
เมื่อเป็นเช่นนี้ บาร์บาร่าก็ตัดสินใจหันไปให้แอนโทนีใช้บริการกับโสเภณีที่จ้างมา แต่ก็ไม่สำเร็จเช่นเดิม บาร์บาร่าจึงมีแผนการใหม่ โดยเธอบอกกับสามีก่อนที่จะแยกทางกันว่า “เธอรู้ไหม ฉันจะทำให้โทนี่พ้นจากการรักเพศเดียวกันถ้าฉันแค่พาเขาขึ้นเตียง”
เหตุที่ไม่สำเร็จในการจับคู่เพราะสาวคนนี้กลับมีความสัมพันธ์กับสามีของเธอไปเสียงั้น พอรู้ความจริงบาร์บาร่าจึงพยายามฆ่าตัวตายอีก แต่บรูกส์เกินจะทนกับพฤติกรรมของเธอแล้ว ทั้งคู่จึงหย่ากันในปี 1968 ซึ่งการหย่าทำให้บาร์บาร่ามีอาการซึมเศร้าอย่างรุนแรงและพยายามฆ่าตัวตายอีก แต่มีเพื่อนมาช่วยไว้ได้ทัน
บรูกส์แต่งงานกับซิลวี่และมีลูกชายหนึ่งคน ต่อมาก็หย่ากัน และบรูกส์แต่งงานใหม่เป็นรอบที่สาม ส่วนบาร์บาร่าก็มีความสัมพันธ์กับชายคนใหม่แต่อยู่กันได้ไม่นานเพียง 6 สัปดาห์ก็เลิก แต่เธอยังหมกมุ่นกับชายผู้นี้อยู่และติดตามอย่างไม่ลดละ ทำแม้กระทั่งเปลือยร่างสวมแค่ชุดคลุมขนสัตว์เดินเท้าเปล่าบนหิมะผ่านสวน Central Park ไปสั่งให้ชายผู้นั้นเปิดประตูอพาร์ตเมนต์ให้
5
แม่กับแอนโทนีในวัยเด็ก (allthatsinteresting.com)
  • ชีวิตที่แตกสลาย
สิ่งที่บาร์บาร่าพูดกับบรูกส์ในครั้งนั้นไม่ใช่เรื่องที่พูดกันเล่น ๆ แต่เธอทำจริง โดยในระหว่างที่พวกเขาไปพักผ่อนวันหยุดที่เมืองมายอร์กา (Majorca) หลังจากการหย่ากับสามีแล้ว แม่วัย 47 ปีผู้นี้ได้ดื่มเหล้าย้อมใจล่อลวงลูกชายที่เมายาขึ้นเตียง หรืออีกนัยหนึ่งคือเธอข่มขืนลูกชายของตัวเอง หลังจากนั้นยังเอาเรื่องนี้ไปคุยโอ้อวดกับบรรดาเพื่อนฝูงด้วย
วิธีการบำบัดของบาร์บาร่าไม่เพียงแต่ไม่ประสบความสำเร็จ แต่ยิ่งทำให้ทุกอย่างเลวร้ายยิ่งกว่าเดิม
แอนโทนีได้สืบทอดปัญหาสุขภาพจิตมาจากสายทางแม่ และแสดงอาการมาตั้งแต่อายุยังน้อย ซึ่งเป็นที่กังวลของครอบครัวและเพื่อนฝูงมาก ซึ่งบรูกส์ผู้เป็นพ่อเคยห้ามไม่ให้ลูกชายรักษาตัวกับจิตแพทย์เพียงแค่เพราะเขามีทัศนคติว่าอาชีพจิตแพทย์นั้นไร้ศีลธรรม
และหลังจากได้ร่วมหลับนอนกับแม่สุขภาพจิตที่เอาแน่เอานอนไม่ได้ของแอนโทนีได้แย่ลงอย่างรวดเร็ว แอนโทนีมีอาการพารานอยด์และโกรธเกรี้ยว แพทย์หลายคนวินิจฉัยว่าเขาเป็นโรคจิตเภท
แอนโทนีเอาเรื่องนี้ไประบายกับเพื่อนคนหนึ่งว่า “ฉัน *** กับแม่ตัวเอง ฉันไม่รู้ว่าจะทำยังไงดี ฉันรู้สึกสิ้นหวังมาก”
หลังจากนั้นแอนโทนีก็เริ่มคุกคามแม่ของตน กวัดแกว่งมีดใส่แม่เวลาที่โต้เถียงกัน
แอนโทนีพยายามฆ่าแม่ของตัวเอง โดยพยายามเหวี่ยงแม่ลงไปบนท้องถนนให้รถเหยียบที่บ้านในลอนดอน แต่โชคดีที่แอนโทนีแรงไม่ถึงและมีเพื่อนมาช่วยเธอ แอนโทนีถูกจับในข้อหาพยายามฆ่าแต่บาร์บาร่าไม่เอาความ จากนั้นจึงมีการส่งเขาไปโรงพยาบาลจิตเวชเพื่อรักษาตัวก็ไม่นานก็ถูกปล่อยออกมา แล้วทำการบำบัดรักษาที่บ้านแทน จิตแพทย์ผู้บำบัดกังวลกับสภาวะของแอนโทนีมาก และได้เตือนบาร์บาร่าว่าลูกชายกำลังจะฆ่าเธอ แต่บาร์บาร่าไม่เชื่อคำเตือนนี้
  • ชีวิตมาถึงจุดจบ
ในปี 1972 วันที่จิตแพทย์ผู้บำบัดเตือนก็มาถึง แอนโทนีในวัย 26 ปีใช้มีดทำครัวแทงแม่ของตัวเองจนถึงแก่ความตายทันทีที่บ้านของพวกเขาในย่านเชลซีที่กรุงลอนดอน บาร์บาร่าเสียชีวิตด้วยเงื้อมมือของลูกชายตัวเองในวัย 51 ปี
แอนโทนีถูกจับในสถานที่เกิดเหตุ และสารภาพว่าตนเองเป็นฆาตกรฆ่าแม่ ตอนที่ตำรวจมาถึงเขาอยู่ในอาการสงบและเพิ่งวางสายจากการสั่งอาหารจีนมาทาน เขาถูกส่งตัวเข้าโรงพยาบาลจิตเวช ในอีก 8 ปีต่อมาเขาถูกปล่อยตัวและเดินทางกลับบ้านที่อเมริกา แอนโทนีในวัย 33 ปี บินกลับนิวยอร์กเพื่อไปอาศัยอยู่กับยายวัย 87 ปี
ณ ที่นั้น เขากลับไปเพื่อพยายามฆ่ายายของตนเองด้วยมีดทำครัวหลังจากอยู่ได้เพียง 6 วัน เขาโทษยายว่าเป็นต้นเหตุที่ทำให้แม่ตาย ยายถูกทุบตีและถูกแทง 8 ครั้งและกระดูกหักหลายแห่ง แต่รอดชีวิตมาได้ เขาจึงถูกจับด้วยข้อหาพยายามฆ่า และถูกจองจำในเรือนจำ
เรื่องนี้จบลงตรงที่แอนโทนีฆ่าตัวตายในเรือนจำด้วยวัย 35 ปี โดยเอาพลาสติกมัดคลุมหัวเพื่อให้เขาหายใจไม่ออก
เรื่องราวเช่นนี้ถูกนำไปสร้างเป็นภาพยนตร์ชื่อว่า Savage Grace ในปี 2007
แอนโทนีในวัยหนุ่ม (Findagrave.com)
อ้างอิง :

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา