29 ก.พ. เวลา 09:31 • สุขภาพ

วัคซีนงูสวัด: ความรู้ใหม่ล่าสุด

งูสวัด (Herpes Zoster) เป็นโรคที่เมื่อเกิดขึ้นกับใครแล้ว จะทิ้งร่องรอยโดยเฉพาะความเจ็บปวด ที่ยืดเยื้อเรื้อรัง และค่อนข้างรุนแรงมาก
3
วิธีดีที่สุดคือ การป้องกันไม่ให้เป็นโรคนี้ ซึ่งมีวัคซีนที่สามารถป้องกันงูสวัดได้ โดยมีความรู้ล่าสุดพอสรุปได้ดังนี้
1
1) วัคซีนป้องกันงูสวัดมีอยู่ 2 ชนิด คือ
1.1 ชนิดเชื้อเป็น เริ่มใช้ตั้งแต่ปี 2549
1.2 ชนิด Recombinant ใช้ตั้งแต่ปี 2560
1
2) วัคซีนแบบดั้งเดิมคือชนิดเชื้อเป็นนั้น
ฉีดได้ในคนอายุ 60 ปีขึ้นไป
โดยฉีดเข็มเดียว เข้าชั้นใต้ผิวหนัง
ไม่สามารถฉีดในคนที่มีภูมิคุ้มกันบกพร่องได้
ปัจจุบันพบว่าเมื่อฉีดผ่านไปแล้ว 7-8 ปี ระดับภูมิคุ้มกันจะลดลงจนป้องกันโรคไม่ได้
1
3) วัคซีนชนิดใหม่คือ Recombinant
ฉีดในคนอายุ 50 ปีขึ้นไปได้
เมื่อฉีดไปแล้วจนถึงปัจจุบัน ยังสามารถป้องกันได้
โดยมีประสิทธิภาพในการป้องกันจากงานวิจัย 97% และประสิทธิภาพในการใช้จริงอยู่ที่ 85%
ฉีด 2 เข็ม ห่างกัน 2-6 เดือน เข้าชั้นกล้ามเนื้อ
1
4) ถ้าเคยฉีดวัคซีนแบบเดิมคือชนิดเชื้อเป็นมาแล้ว จะสามารถฉีดวัคซีนแบบใหม่ได้ด้วย โดยควรฉีดห่างกันอย่างน้อย 2 เดือนขึ้นไป
1
5) วัคซีนแบบใหม่ สามารถฉีดร่วมกับวัคซีนอื่นได้ เช่น วัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่ ป้องกันปอดอักเสบ ป้องกันบาดทะยัก และป้องกันตับอักเสบ เป็นต้น
3
6)ในผู้ป่วยเบาหวาน ซึ่งจะมีความเสี่ยงในการเป็นงูสวัดเพิ่มมากขึ้น ถ้าผู้ที่ไม่ได้เป็นเบาหวานติดงูสวัดแล้ว ก็จะมีโอกาสเป็นเบาหวานเพิ่มขึ้นด้วย
1
7) ในผู้ป่วยโรคหัวใจ จะมีความเสี่ยงเป็นงูสวัดมากขึ้น และถ้าผู้ที่ยังไม่เป็นโรคหัวใจ เมื่อเป็นงูสวัดแล้ว ก็จะมีโอกาสเป็นโรคหัวใจเพิ่มขึ้น
1
วัคซีนป้องกันงูสวัดจึงมีประโยชน์ ควรพิจารณาฉีดชนิด Recombinant ในผู้ที่มีอายุ 50 ปีขึ้นไป โดยฉีด 2 เข็ม ห่างกันอย่างน้อย 2-6 เดือน เพื่อหลีกเลี่ยงการเป็นงูสวัด
3
โฆษณา