BYD กำลังจะยึดตลาดรถยนต์ญี่ปุ่น
BYD ประกาศจะส่งรถยนต์ไฟฟ้าตีตลาดในญี่ปุ่นเพิ่มทุกปี ปีละ 1 รุ่น โดยในปี 2023 ที่ผ่านมาได้เปิดตัวไปแล้ว 2 รุ่น คือ Atto 3 และ Dolphin รวมยอดขายประมาณ 1,700 คัน และในเดือนมิถุนายน 2024 จะเปิดตัวขายรุ่น Seal เพิ่มอีก 1 รุ่น โดยตั้งเป้ายอดทำยอดขายทะลุ 30,000 คัน และเปิดโชว์รูมให้ครบ 100 แห่งให้ได้ภายในปี 2025 (ปัจจุบันมีประมาณ 50 กว่าแห่ง)
กระแสรถไฟฟ้ากำลังลุกลามไปที่ญี่ปุ่นอย่างช้าๆ เนื่องจากในยอดขายรถยนต์ส่วนตัวทั้งหมดในปี 2023 มีเพียง 2% เท่านั้นที่เป็นรถไฟฟ้า แต่ BYD มั่นใจว่าการตอบสนองที่ช้าของกลุ่มอุตสาหกรรมรถสันดาปญี่ปุ่น ไม่ว่าจะ Toyota, Honda, Mitsubishi ฯลฯ นั้นจะเป็นแต้มต่อและข้อได้เปรียบให้ BYD สามารถขยายตัวได้ดีในตลาดญี่ปุ่น
ผู้บริหาร BYD คนหนึ่ง (Lue Xueliang) เชื่อว่าสาเหตุที่ยอดขายรถ EV
ในญี่ปุ่นมีน้อยไม่ใช่เพราะคนญี่ปุ่นไม่อยากใช้รถไฟฟ้า แต่เป็นเพราะตลาดรถยนต์ในญี่ปุ่นเต็มไปด้วยรถสันดาป และมีตัวเลือกที่เป็นรถ EV น้อย ทำให้ BYD ตั้งใจจะเติมเต็มในจุดที่ขาดหายไปนี้
ขณะนี้กระแสตอบรับที่มีต่อ BYD ในเอเชียตะวันออก และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ค่อนข้างดี ยอดขายเติบโตอย่างก้าวกระโดด จนคู่แข่งในวงการรถยนต์หลายๆบริษัทเริ่มแสดงความกังวล อย่าง Mercedes-Benz ที่เคยประกาศแผนจะหันมาขายรถ EV เต็มตัวภายในปี 2030 ก็เพิ่งพับแผนดังกล่าวทิ้งไป เพราะยังปรับตัวไม่ทัน ส่วน Ford ก็ขอชะลอโครงการพัฒนารถไฟฟ้าออกไปก่อนไม่มีกำหนด Apple ที่ว่าจะทำรถ EV ก็ประกาศล้มโปรเจ็คไปแล้ว
ตอนนี้ภาพรวมของยอดขายในตลาดรถยนต์ทั่วโลก BYD ถือว่ามีกราฟการเจริญเติบโตค่อนข้างสวยงาม แทบจะแซง Nissan บริษัทรถยนต์อันดับ 3 ของญี่ปุ่นไปได้แล้ว Nikkei ประเมินว่าในอีกไม่กี่ปี ยอดขายของ BYD อาจเติบโตมาเทียบชั้นกับ Honda ได้ เพราะระยะความต่างของยอดขายมันแคบลงเรื่อยๆในช่วงหลายปีมานี้ และจะกลายเป็นภัยคุกคามที่สำคัญต่ออุตสาหกรรมรถยนต์ญี่ปุ่นในอนาคต ทำให้ Toyota ที่มียอดขายเป็นอันดับท็อปโลกถึงกับเป็นกังวล
credit ภาพจาก Nikkei
Source: SCMP, Nikkei, BBC
- 1
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
