Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
ดั่งเม็ดทราย
•
ติดตาม
2 มี.ค. 2024 เวลา 04:25 • สุขภาพ
โรงพยาบาลมหาวิทยาลัยนเรศวร
"ปริญญาสองใบ"
ที่เมืองไทยเคยมีข่าวเกรียวกราวมาก คือมีดาราคนหนึ่งซึ่งมีชื่อดังมากเป็นคนดำเนินรายการคนค้นคน ดร.อภิวัฒน์ วัฒนางกูร มาเรียนที่อเมริกา เป็นคนเพอร์เฟค ทำงานทุกอย่างต้องดูดีที่สุด แม้กระทั่งล้างจานล้างเสร็จแล้วแกต้องเอามาดมดูว่าสะอาดจริงมั้ย กลับไปเมืองไทยก็ไปเป็นอาจารย์มหาวิทยาลัย มีแฟนก็จีบดาวมหาวิทยาลัยต้องให้ดีที่สุด เวลาแกไปเสนองานอะไรต่างๆ เขียนไว้สามแผน แผนที่หนึ่งลูกค้าไม่ซื้อ แกเสนอแผนที่สอง แผนที่สองลูกค้าไม่ซื้อ แกเสนอแผนที่สาม ใครไปดีลงานกับแกติดทุกราย
แกมีบ้าน มีรถ มีลูก มีภรรยา มีธุรกิจ มีชื่อเสียง แกมีทุกอย่าง วันหนึ่งแกพักผ่อน หลังจากที่ทำงานแบบไม่ได้พักเลย ลูกเมียไปขอพบบอกไปเจอพ่อที่ออฟฟิส
วันหนึ่งแกไปพักที่ปากช่อง ตื่นขึ้นมากลางวันล้มฟุ๊บลงไป ภรรยาพาเข้าโรงพยาบาล ตรวจพบมะเร็ง พอพบปุ๊บเป็นระยะสุดท้ายเลย จริงๆ เค้าก็เตือนตลอด แต่พอไม่มีเวลาไปตรวจมันก็แก้ไม่ได้
แกไปนอนป่วยอยู่ที่โรงพยาบาล แล้วก็สารภาพให้รายการคนค้นคน บันทึกชีวิตแก ก่อนจะเสียชีวิต แกก็ไปนอนให้พ่อแม่เช็ดเนื้อเช็ดตัว แกก็บอกว่าสังเวชตัวเองมากแทนที่ลูกจะได้ดูแลพ่อแม่
ก่อนจะเสียชีวิตแกให้สัมภาษณ์หนังสือพิมพ์คมชัดลึก บอกว่า พ่อผมเคยบอกว่า เกิดเป็นคนต้องได้ปริญญาสองใบ
1. ปริญญาใบที่หนึ่ง "ปริญญาวิชาชีพ"
เราจะต้องทำมาหากินเป็น กินอิ่ม นอนอุ่น ล้วงไปในกระเป๋าแล้วมีเงินใช้ อยากจะนอนมีบ้านเป็นของตัวเอง แค่นี้คือ "ปริญญาวิชาชีพ"
2. "ปริญญาวิชาชีวิต"
ซึ่งเป็นปริญญาใบที่สองที่พ่อแกบอกไว้ แกบอกว่าผมสอบตกโดยสิ้นเชิง ผมเป็นดอกเตอร์จากอเมริกาได้ปริญญาวิชาชีพ แต่ปริญญาวิชาชีวิตสอบตก! เพราะอะไร? เพราะทำงานจนป่วยตาย !!
ก่อนที่จะเสียชีวิตแกได้สารภาพว่าผมได้เตรียมทุกอย่าง บ้าน รถ เพื่อมอบมันให้กับลูก และภรรยา แต่ในวันที่ผมมีทุกสิ่งทุกอย่าง ผมกลับลืมมอบอีกหนึ่งอย่างให้กับลูกและภรรยา สิ่งนั้นคือ ผมลืมมอบตัวเองให้เป็นของขวัญกับลูก และเมีย เพราะทำงานหนักจนกระทั่งป่วยตาย นี่คือลืม "ปริญญาวิชาชีวิต"
ธรรมะเราจะต้องมี ถ้าเราไม่มีธรรมะ เราจะกลายเป็นหุ่นยนต์เท่านั้นเอง ที่ทำงานแทบล้มประดาตายแล้วสุขภาพไม่ดี
ดังนั้น เมื่อเราทุกคนทำงานแล้ว อย่าลืมชั่วโมงสุขภาพของตัวเองในแต่ละวัน แต่ละวันควรจะมีเวลาดูแลตัวเอง ดูจิต ดูใจตัวเอง ว่าเราเอ๊ะมันทุกข์ มันทุกข์มากเกินไปรึเปล่า แบกเรื่องโน้น เรื่องนี้ เกินไปหรือเปล่า พยายามลดลงในแต่ละวันๆ เพื่อที่ว่าอะไร? เพื่อที่ว่าเราจะได้ปริญญาสองใบในชีวิต หนึ่ง "ปริญญาวิชาชีพ" เราทำมาหากินจนประสบความสำเร็จร่ำรวยมั่งคั่ง มีเงินมีทองใช้ มีบ้านอยู่ แต่ต้องไม่ลืมปริญญาใบที่สอง "ปริญญาวิชาชีวิต" คือวิชาธรรมะ สำหรับจะดูแลชีวิตใ
ห้ดำเนินอยู่ในทางสายกลาง ไม่ทุกข์
อยากเที่ยวให้ได้เที่ยว อยากพักให้ได้พัก อยากทำบุญให้ได้ทำบุญ ลูกหลานมาหาก็ให้ได้มีเวลากับลูกกับหลานบ้าง อย่าวิ่งไปจนซ้ายสุด ขวาสุด และมารู้สึกตัวอีกทีจนล้มเจ็บใหญ่ ไม่ดี
เพราะอะไร? เพราะสิ่งสูงค่าทีสุดในชีวิตของเรา คือ สุขภาพ และชีวิตที่ดี สุขภาพที่เราไม่เจ็บไข้ได้ป่วย คนที่สุขภาพดีดื่มน้ำธรรมดาก็อร่อย
หากบุญกุศลอันใดจะเกิดได้จากการเผยแพร่เรื่องราวผู้บันทึกก็ขอให้กุศลผลบุญนี้ จงเป็นไปเพื่อประโยชน์สุขเพื่อปัญญาของเพื่อนผู้ร่วมวัฏฏะทุกท่าน และขอให้ ดร.อนุวัฒน์ ไม่ว่าจะไปอยู่ภพไหนหนใดก็ขอให้มีปัญญาเท่าทันต้นเหตุแห่งทุกข์เช่นที่ท่านได้ถ่ายทอดเรื่องราวเตือนสติผู้อื่นไว้.
..ขอขอบพระคุณในข้อคิดดีดี..
บันทึก
1
1
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย