Toward the Never-Ending Stars : สู่ดวงดาวที่ไม่มีวันดับ ตอนที่ 4 : บทพิสูจน์ฝีมือ
ภายหลังจากที่ ณวัช พัฒนาเชื้อเพลิงไฮเปอร์กอลิกต้นแบบ "ไฮเปอร์ฟิวเมท" ขึ้นมาสําเร็จแล้ว เขาก็ได้จัดส่งตัวอย่างเชื้อเพลิงให้กับศูนย์เทคโนโลยีอวกาศแห่งชาติ เพื่อทําการทดสอบและรับรองมาตรฐานผลิตภัณฑ์อย่างเป็นอิสระ
ห้องปฏิบัติการของศูนย์อวกาศแห่งชาติ ได้ทําการวิเคราะห์และทดสอบเชื้อเพลิงไฮเปอร์ฟิวเมทตามมาตรฐานสากลอย่างเข้มงวด ประเมินสมบัติหลากหลายด้าน เช่น ค่าความหนาแน่น ค่าความร้อน ความคงตัวทางเคมี ค่าการนําไฟฟ้า การวิเคราะห์ธาตุ และฤทธิ์ไฮเปอร์กอลิก เป็นต้น
การทดสอบเหล่านี้มีความจําเป็นเพื่อยืนยันว่าไฮเปอร์ฟิวเมทมีเสถียรภาพทางเคมี และคุณสมบัติที่เอื้อต่อการนําไปใช้งานอย่างถูกต้องและปลอดภัย
นอกจากนี้ ทางห้องปฏิบัติการยังได้ทําการทดสอบประสิทธิภาพของเชื้อเพลิงอย่างละเอียด ด้วยการสร้าง Test Rig และจําลองสภาวะการทํางานจริงของเครื่องยนต์จรวด ไม่ว่าจะเป็นอัตราการไหล ระยะเวลาการเผาไหม้ อุณหภูมิ ความดัน และการให้แรงขับดัน เปรียบเทียบกับเชื้อเพลิงไฮเปอร์กอลิกตัวอื่นๆ
หลังจากการทดสอบอย่างละเอียดรอบคอบแล้ว ทางห้องปฏิบัติการก็ได้จัดทํารายงานสรุปผลการทดสอบ โดยชี้ให้เห็นถึงจุดเด่นของไฮเปอร์ฟิวเมทในหลายด้าน เช่น ความปลอดภัยสูง ประสิทธิภาพดีเยี่ยม ความคงตัวของสมบัติเชิงกลและเชิงกายภาพ ต้นทุนต่ํา ซึ่งถือได้ว่าเหนือกว่ามาตรฐานเชื้อเพลิงไฮเปอร์กอลิกทั่วไปอย่างมาก
ด้วยหลักฐานเชิงประจักษ์จากการทดสอบอย่างรอบด้าน ศูนย์เทคโนโลยีอวกาศแห่งชาติ จึงได้ออกใบรับรองมาตรฐานผลิตภัณฑ์ให้กับ “ไฮเปอร์ฟิวเมท”
ถือเป็นการยอมรับถึงคุณภาพและมาตรฐานของเชื้อเพลิงอย่างเป็นทางการ และหนึ่งก้าวสําคัญของ ณวัช ในอีกไม่นาน ไฮเปอร์ฟิวเมทจะได้ถูกนําไปใช้ในภารกิจอวกาศจริง ซึ่งเป็นจุดมุ่งหมายสูงสุดในการพัฒนาเชื้อเพลิงของเขานั่นเอง
หลังจากไฮเปอร์ฟิวเมทผ่านการรับรองมาตรฐานผลิตภัณฑ์จากห้องปฏิบัติการอิสระแล้ว ณวัชจึงได้วางแผนทําการทดลองใช้งานจําลองอีกครั้งในสภาวะใกล้เคียงจริง เพื่อเตรียมความพร้อมสําหรับภารกิจอวกาศจริงในเร็ววัน
การทดลองใช้งานจําลองนี้มีเป้าหมายเพื่อประเมินสมรรถภาพและเสถียรภาพของเชื้อเพลิงเมื่อใช้งานในภาวะจริงเป็นเวลานานๆ ตลอดจนเพื่อตรวจหาจุดบกพร่องหรือปัญหาที่อาจเกิดขึ้น
ณวัชจึงร่วมมือกับศูนย์เทคโนโลยีอวกาศแห่งชาติ พัฒนา Test Rig และระบบจําลองขั้นสูงขึ้นมา สามารถจําลองสภาวะการทํางานของเครื่องยนต์จรวดได้อย่างใกล้เคียงความเป็นจริง
Test Rig ตัวนี้ถูกออกแบบอย่างพิถีพิถัน มีความแม่นยําและเสถียรภาพสูง โดยมีระบบควบคุมอัตโนมัติซึ่งคอยจัดการปัจจัยต่างๆ อาทิ อัตราการไหลของเชื้อเพลิงและออกซิไดเซอร์ ความเร็ว ความดัน และอุณหภูมิ ให้ใกล้เคียงสภาวะการทํางานของเครื่องยนต์จริงมากที่สุด
นอกจากนี้ ยังมีอุปกรณ์ตรวจวัดขั้นสูงหลากหลายประเภทคอยเฝ้าติดตามสมรรถนะ เพื่อเก็บข้อมูลเชิงลึกสําหรับการวิเคราะห์ประสิทธิภาพของเชื้อเพลิงในภายหลัง สิ่งเหล่านี้แสดงให้เห็นถึงความแตกต่างอย่างชัดเจนระหว่าง Test Rig ซึ่งมีขีดความสามารถสูงกว่ามาก เมื่อเทียบกับ เครื่องมือขั้นพื้นฐานในห้องปฏิบัติการของ ณวัช
โดยเริ่มต้นจากการทดสอบ Basic Performance อาทิ ความดัน, อุณหภูมิ, ความเร็วรอบ, ค่า Specific Impulse, แรงขับดัน ก่อนค่อยๆ เพิ่มพารามิเตอร์และความซับซ้อนให้ใกล้เคียงขึ้นเรื่อยๆ
นอกจากนี้ ทางทีมยังได้จําลองสภาวะฉุกเฉินต่างๆ ที่อาจเกิดขึ้นระหว่างปฏิบัติการจริง เช่น การสูญเสียกําลังขับเคลื่อนบางส่วน, ความดันเชื้อเพลิงตกกระทันหัน, ความเสียหายอย่างไม่รุนแรงเนื่องจากการชนวัตถุ ซึ่งช่วยให้เห็นถึงขีดจํากัดและระดับความเสี่ยงต่างๆ
การทดสอบดําเนินไปหลายเดือน ทั้งทดลองที่ระดับความดันบรรยากาศปกติและในห้องปฏิบัติการจําลองสภาวะไร้น้ําหนัก ผลที่ได้คือ ไฮเปอร์ฟิวเมทสามารถทํางานได้อย่างมีเสถียรภาพ ให้แรงขับสม่ําเสมอ แม้ภายใต้ภาวะวิกฤตหรือสภาพแวดล้อมที่เลวร้ายที่สุด
ความสําเร็จของการทดสอบนี้ ทําให้ทางศูนย์อวกาศฯ มั่นใจในการนําไฮเปอร์ฟิวเมทไปใช้งานจริง ซึ่งจะช่วยประหยัดต้นทุน รวมถึงลดความเสี่ยงอันตรายที่อาจเกิดจากความล้มเหลวของภารกิจในอวกาศได้อีกด้วย
นับเป็นอีกก้าวสําคัญของ ณวัช และไฮเปอร์ฟิวเมท ที่จะช่วยผลักดันให้เทคโนโลยีอวกาศของไทยก้าวสู่ระดับสากล ซึ่งในไม่ช้านี้ทั้งคู่จะได้ร่วมเดินทางไปสํารวจดวงดาวนับล้านดวงในห้วงอวกาศกว้างไพศาลด้วยกัน
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
