2 มี.ค. 2024 เวลา 11:03 • ความคิดเห็น

9 ข้อสำคัญ บอกลานิสัยผัดวันประกันพรุ่ง

มาดูไปพร้อมๆกันครับว่า อะไรที่ทำให้คนเราไม่มีวินัย จนติดนิสัยผัดวันประกันพรุ่งอยู่เรื่อยๆ แล้วอย่าลืมเช็คด้วยนะครับว่าคุณอยู่ในข้อไหนบ้าง?
1.ติดอยู่กับอดีต หลายคนไม่รู้ด้วยซ้ำว่า เขาปล่อยให้อดีตยังตามหลอกหลอนเขาอยู่ หนึ่งในสาเหตุที่คาดไม่ถึงคือการ ดื้อเงียบ หลายคนที่พ่อแม่เข้มงวดกับคุณมาก ไม่ทำตามหรือไม่ทำทันที ถ่วงเวลาไว้สักหน่อย เช่น พ่อแม่สั่งให้ทำการบ้าน คุณก็ยังไม่ทำเพราะรู้สึกอยากเอาชนะ อยากต่อต้าน แม้วันนี้คุณโตแล้ว พ่อแม่ก็ไม่ได้ยุ่งกับคุณ แต่คุณยังติดนิสัยดื้อเงียบอยู่โดยที่คุณไม่รู้ตัว จนทำให้คุณกลายเป็นคนผัดวันประกันพรุ่งนั่นเอง
2.กลัวความสำเร็จ แปลกใจใช่ไหมครับว่า มันมีด้วยเหรอคนที่กลัวความสำเร็จ บอกเลยครับว่ามี เพราะบางคนมีความเชื่ออย่างแรงกล้าว่า สำเร็จเท่ากับภาระ เขาคิดว่าคนสำเร็จจะต้องเหนื่อย จิตใต้สำนึกของเขาไม่อยากให้เขาเป็นแบบนั้น เลยไม่ยอมลงมือทำให้ตัวเองสำเร็จสักที ถ้าคุณกำลังเป็นแบบนี้ วิธีแก้ไขก็คือ การใส่ภาษาให้ตัวเองใหม่ เช่น ถ้าคุณบอกตัวเองว่าสำเร็จเท่ากับภาระ ก็ให้เปลี่ยนภาษาจากลบให้เป็นบวก แล้วบอกตัวเองว่าสำเร็จเท่ากับสบาย อย่างนี้เป็นต้น
3.กลัวความล้มเหลว ตรงข้ามกับข้อ 2 เลยครับ คนเหล่านี้คิดว่าถ้าพยายามทำแล้วล้มเหลวล่ะ จะเกิดอะไรขึ้นบ้าง เขาจึงจินตนาการถึงชีวิตที่ล้มเหลวต่างๆนานา เขาจึงไม่กล้าลงมือทำ เพราะถ้าทำแล้วไม่สำเร็จฉันโดนด่าเละแน่เลย จึงใช้ข้ออ้างไม่มีเวลา ก็คือการผัดวันประกันพรุ่งไปเรื่อยๆนั่นเอง
4.กลัวว่าคนอื่นจะคิดอย่างไร จึงทำให้ตัวเองเลื่อนการลงมือทำออกไปเรื่อยๆ เช่นหลายคนอยากลาออกจากงาน แต่ที่ไม่กล้าเพราะกลัวว่าพ่อแม่จะคิดอย่างไร กลัวเพื่อนจะพูดไม่ดี หรือแฟนจะกังวลไหม ถ้าเจ๊งมีคนซ้ำเติม เลยทำให้คุณไม่กล้าลาออก หรือลงมือทำอะไรเสียที
5.โดนเวลาหลอก ลองมาดูตัวอย่างนี้ครับว่า ธันวาคม 2018ถึงกรกฎาคม 2019 และมิถุนายน 2018ถึงธันวาคม 2018 คุณคิดว่าข้อไหนมีเวลาเยอะกว่ากัน?ซึ่งถ้าดูกันดีๆแล้วมันเท่ากันคือ 6 เดือนเท่ากันนะครับ แต่เมื่อคนส่วนใหญ่เห็นข้อแรกว่าเป็นคนละปี รู้สึกว่ายังอีกนาน ยังมีเวลา อย่างนี้จึงชะล่าใจไม่ลงมือทำสักที
6.มี mindset แบบผู้แพ้ คือ ความคิดของเขามีแค่ ได้กับไม่ได้ สำเร็จกับไม่สำเร็จ เพียงเท่านั้น! เช่นต้องลดน้ำหนัก 10 กิโลกรัม คุณจะเริ่มมีความคิดแล้วว่ามันยาก อยากมีเงินร้อยล้านแล้วก็คิดว่ายาก งั้นไม่ทำหรอก วิธีการแก้คือ นำเป้าหมายนั้นมาซอยย่อย เช่นลดน้ำหนัก 10 กิโลกรัม งั้นคิดแค่เดือนละกิโลก็แล้วกัน อย่างนี้ช่วยได้มากนะครับ
7.กดดันตัวเองมากเกินไป ซึ่งหลายคนก็ไม่รู้ตัว พอคุณคิดว่า ฉันไม่เก่งพอ ฉันไม่ดีพอ ฉันทำไม่ได้ งั้นฉันไม่ต้องทำหรอก ไปดูทีวี ดู netflix ดีกว่า ต่อให้สิ่งนั้นดีแค่ไหน แต่จิตใต้สำนึกบอกว่าแกทำไม่ได้หรอก คุณก็จะไม่ทำสิ่งนั้น วิธีเปลี่ยนคือคุณต้องเมตตาต่อตัวเอง เปลี่ยนจากการกดดันตัวเอง เป็นการให้กำลังใจตัวเองแทนคับ
8.ไม่เห็นคุณค่าของเวลา ซึ่งคนส่วนมากเป็น ต้องบอกเลยว่าถ้าคุณไม่เห็นคุณค่าของชีวิตก็จะไม่เห็นคุณค่าของเวลาเช่นกัน เพราะความจริงแล้วมันคือเรื่องเดียวกัน ถ้าเวลาของคุณหมดก็เท่ากับชีวิตของคุณจบแล้วใช่ไหมครับ ถ้าคุณเข้าใจ และรู้คุณค่าของเวลา คุณจะไม่มัวเสียเวลาไปทำอะไรไร้สาระเลย เพราะเวลาคือทรัพย์สินที่มีค่ามากที่สุดในชีวิตของคุณ
9.HALT คือช่วงเวลาที่คุณเปราะบางที่สุด เช่น หิว โกรธ เหงา เหนื่อย อาจจะมองสิ่งเหล่านี้เป็นเรื่องพื้นๆง่ายๆ แต่นี่คือตัวการสำคัญที่รั้งคุณไว้ไม่ให้ทำอะไรสักที วิธีแก้ก็คือ
เมื่อคุณหิวก็กินซะกินดีๆด้วยล่ะ โกรธก็ปล่อยวาง เหงาก็ออกไปหาเพื่อน เหนื่อยก็พัก แก้ไขง่ายๆ ตรงไปตรงมาอย่างนี้เลยครับ เมื่อคุณหายแล้ว คุณจะมีแรง มีพลังกลับไปลุยชีวิตต่อ แต่นี่ยังเป็นการแก้ไขเชิงรับ ดีที่สุดคือแก้ไขเชิงรุก คือป้องกันไม่ให้มีอาการเฮิร์ทแต่แรก
ขอบคุณผู้อ่านที่เมตตาทุกๆท่านครับ ที่อ่านบทความนี้จนจบผู้เขียนหวังว่า บทความนี้จะมีประโยชน์ต่อใครหลายๆคน
ผู้อ่านสามารถกดติดตาม เพื่อไม่ให้พลาด บทความดีๆครั้งต่อไป "หาญจะเล่าให้ฟัง" ขอบคุณคับ
โฆษณา