4 มี.ค. เวลา 03:00 • หุ้น & เศรษฐกิจ
WealthMagik

ความแตกต่างระหว่าง ETF หุ้น และ กองทุนรวม

  • ซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ / ราคาซื้อขาย
ETF และหุ้น มีการจดทะเบียนซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ สามารถซื้อขาย แบบ Real Time ผ่านตลาดหลักทรัพย์ได้เลย คือ สามารถซื้อขายตามราคาตลาด ณ ขณะนั้นได้ทันที จำนวนขั้นต่ำที่ใช้ซื้อขายของ ETF คือ 100 หน่วย และหุ้น 100 หุ้น ค่าใช้จ่ายในการซื้อขายต่ำกว่ากองทุนรวม เพราะไม่มีค่าธรรมเนียมการอื่น ๆเพิ่มเติม นอกจากค่าธรรมเนียมการซื้อการขายเพียงอย่างเดียว
1
ซึ่งจะถูกคิดก็ต่อเมื่อมีการซื้อขายในตอนนั้นเลย ส่วนกองทุนรวม ไม่มีการจดทะเบียนซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ ไม่ว่าจะซื้อขายในเวลาไหนก็ตาม จะทราบราคาซื้อขาย ณ สิ้นวันทำการ End Of Day สามารถซื้อขายผ่านบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน จำนวนเงินลงทุนขั้นต่ำขึ้นอยู่กับแต่ละกองทุน หรือบางกองทุนไม่กำหนดจำนวนเงินขั้นต่ำในการซื้อขายแล้ว
  • ผลตอบแทนและความเสี่ยง
ETF / กองทุนรวม จะมีสินทรัพย์ให้เลือกลงทุนตั้งแต่สินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงต่ำอย่างเช่นตราสารหนี้ ไปจนถึงสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงสูงอย่างหุ้น จึงทำให้มีระดับความเสี่ยงตั้งแต่ต่ำไปจนถึงสูง จึงทำให้อัตราผลตอบแทนมีหลายระดับอยู่ที่สินทรัพย์ที่เราเลือกลงทุน ส่วนหุ้นเป็นหลักทรัพย์ที่มีความเสี่ยงสูงอยู่แล้วแต่ผลตอบแทนที่ได้กลับมาก็สูงตามเช่นกัน
  • การกระจายการลงทุน
ETF สามารถกระจายการลงทุนได้ คล้ายกับกองทุนรวม เช่น ถ้าหากลงทุนใน ETF อ้างอิงตาม SET 50 ก็เปรียบเสมือนเราได้กระจายการลงทุนไปยังหุ้น 50 ตัว จึงทำให้ มีการกระจายความเสี่ยงไปในตัวได้อีกด้วย มีผู้จัดการกองทุนช่วยบริหารจัดการกองทุนให้ ส่วน หุ้น ไม่มีการกระจายการลงทุน เพราะการซื้อหุ้น 1 ตัว เท่ากับการลงทุนไปเพียง 1 บริษัทเท่านั้น หากต้องการกระจายการลงทุนก็จะต้องซื้อหุ้นหลายๆ ตัว
  • ผู้ดูแลสภาพคล่อง
ETF มีผู้ดูแลสภาพคล่อง (Market Maker) ที่คอยเสนอราคาซื้อ-ขาย ระหว่างวันจากการที่มีการซื้อขายตลอดเวลา เป็นการลงทุนที่อ้างอิงกับดัชนี จึงต้องมีผู้ดูแลสภาพคล่องอยู่ตลอดเพื่อเพิ่มสภาพคล่องในการลงทุน เพื่อช่วยให้ราคาซื้อขายสดคล้องกับการขึ้นลงของดัชนีอ้างอิง หุ้นและกองทุนรวม ไม่มีผู้ดูแลสภาพคล่อง โดยราคาหุ้นจะขึ้นอยู่กับความต้องการซื้อและความต้องการขายของนักลงทุนล้วนๆ ส่วนกองทุนรวมจะมีผู้จัดการกองทุนคอยดูแล
โฆษณา