6 มี.ค. เวลา 19:00 • การ์ตูน

Delicious in Dungeon

ผมนึกว่าจะไม่มีอนิเมะเรื่องใหม่มาเขียนแนะนำแล้ว เพราะหลาย ๆ เรื่องที่ผมดูอยู่ตอนนี้ก็เป็นอนิเมะที่ต่อมาจากฤดูกาลที่แล้ว เช่น ฟรีเรน ฯ หรือ หมอยา ฯ ซึ่งคนที่ดูอยู่ก็รับรู้จากฤดูกาลที่แล้วว่ามันเป็นอนิเมะที่ยอดเยี่ยมมาก ระหว่างที่ผมไล่ดูรายชื่ออนิเมะใหม่อีกรอบ ไปเจอตัวอย่างอนิเมะเรื่องหนึ่งเข้า เกิดความสนใจอย่างบอกไม่ถูกครับ นั่นคือ Delicious in Dungeon หรือ Dungeon Meshi
ผมโดนตกด้วยภาพและสไตล์อนิเมชั่นก่อนเลยครับ หลังจากดูสองตอนแรกจบไป ผมก็รู้ทันทีว่าอนิเมะเรื่องนี้มันพิเศษ และเป็นอีกเรื่องหนึ่งที่ผมตั้งหน้าตั้งตาดูทุกสัปดาห์ ณ ตอนที่เขียนอยู่นี้ เรื่องนี้ออกมาแล้ว 9 ตอน แต่ผมคิดว่ามันคงไม่สายเกินไปที่จะมาเขียนถึง เพราะเข้าใจว่า เรื่องนี้มี 24 ตอน ก็คือ 2 คอร์
ผมไม่ใช่สายแฟนตาซี เท่าไหร่ แม้ว่าจะรู้จักกับ Lord of the Ring เป็นพื้นฐาน แต่ก็ชอบเพราะการดำเนินเนื้อเรื่องและตัวละครมากกว่าองค์ประกอบของโลกแฟนตาซี แม้ว่าจะเล่นเกมสาย JRPG บ้าง แต่ก็เล่นเพราะเหตุผลอื่น ๆ ดังนั้น มันไม่จำเป็นจะต้องเป็นโลกแฟนตาซี แต่ที่ชอบอนิเมะอย่างฟรีเรน ฯ นั่นก็เพราะว่ามันโฟกัสที่เรื่องของตัวละครที่อยู่ในโลกแฟนตาซีเท่านั้น
ข้อคิด: อย่าลงดันตีมังกรตอนหิว
Delicious in Dungeon เล่าเรื่องของกลุ่มนักผจญภัยกลุ่มหนึ่งที่ต้องเดินทางไปช่วยน้องสาวของพระเอกในดันเจี้ยน เรื่องเปิดมาด้วยฉากต่อสู้กับมังกรแดงที่ดูน่าจะเดือด แต่ไม่นาน บทพูดของพระเอกอย่าง ไลออส ก็กล่าวว่า “เราหิว” เท่านั้นแหละครับ ผมก็รู้ได้ทันทีว่า มันไม่ใช่อนิเมะที่ซีเรียสอะไร
แม้ว่าอนิเมะจะดำเนินอยู่ในโลกแฟนตาซี แต่ผมเห็นองค์ประกอบที่ดูสมจริงมากเกินกว่าที่ควร และนั่นอาจจะเป็นเหตุผลที่ผมชอบเรื่องนี้ มีองค์ประกอบเรื่องการบริหารจัดการเงินและทรัพยากรต่าง ๆ ในการเดินทางลงดันเจี้ยน และนั่นเป็นเหตุผลที่กลุ่มตัวเอกจะต้องตัดงบอาหาร แล้วไปหาเอาข้างหน้า หมายความว่า พวกเขาจะไปกินสัตว์ประหลาดในดันเจี้ยนเป็นอาหารนั่นเอง!
รายละเอียดเกี่ยวกับดันเจี้ยนในเรื่องนี้คิด ทำ และอธิบายออกมาได้อย่างดีเยี่ยมครับ มีตั้งแต่ชีววิทยาของสิ่งมีชีวิตในดนเจี้ยน ไปจนถึงระบบหวงโซ่อาหารของสิ่งมีชีวิตต่าง ๆ ในดันเจี้ยน เกร็ดความรู้ที่ไม่มีประโยชน์ในโลกจริงเท่าไหร่ แต่ก็ทำให้ชีวิตในเรื่องมีระบบและลึกซึ้งมากขึ้น
การดำเนินเนื้อเรื่องดูจะไม่ซีเรียสอะไรครับ เหมือนเป็นการ์ตูนแก็กทั่ว ๆ ไปที่ครึ่งตอนหนึ่งเกี่ยวกับประเด็นหนึ่ง อีกครึ่งตอนเกี่ยวกับอีกประเด็นหนึ่ง พอรู้ว่าความตายไม่ใช่เรื่องน่าเกรงกลัวอะไรในเรื่องนี้ เพราะว่ามีเวทย์มนต์คืนชีพได้เหมือนในเกม ก็คิดซะว่าดูเพลิน ๆ แต่เมื่อเรื่องดำเนินต่อไปเรื่อย ๆ เดินทางลึกลงไปเรื่อย ๆ ผมสัมผัสได้ว่ามันมีเนื้อเรื่องที่กำลังค่อย ๆ ฟักตัวอยู่ แต่แม้กระนั้น เรื่องก็คงความเป็นคอมเมดี้อยู่เสมอ ไม่ว่ามุก บนสนทนา และสไตล์อนิเมชั่น
ผมคิดว่ามันเป็นการผสมผสานที่ดีนะครับ มันทำให้ผู้ชมเกิดคำถาม และอยากจะติดตาม แต่ไม่ทำให้มันซีเรียสมากจนเกินไป ทำให้ดูเอาเพลิน ๆ สนุก ๆ โดยที่ไม่ไร้สาระ ที่สำคัญก็คือ การดำเนินเรื่องที่ค่อยเป็นค่อยไป แต่เราสัมผัสได้ว่า เมื่อเราเดินทางลึงลงไปในดันเจี้ยน ความอันตรายก็ยิ่งเพิ่มมากขึ้น มอนสเตอร์โหดขึ้น
ทำไมเขาไม่ให้ไลออสปลูกต้นไม้กินคนกันน้า
พูดถึงเรื่องงานภาพ ผมไม่รู้เรื่องมาก่อนว่าอนิเมะเรื่องนี้มีที่มาที่ไปอย่างไร แต่เมื่อดูไปตอนแรกคิดว่า ทำไมมันคุ้นจังเลยแหะ ค่ายที่ทำเรื่องนี้จะต้องมีชื่อเสียงแน่ ๆ และเป็นงานภาพที่มีเอกลักษณ์มาก ๆ มีชื่อหนึ่งผุดขึ้นมาในหัว นั่นคือ Trigger ผมไปเปิดดู พบว่าใช่จริง ๆ ครับ Delicious in Dungeon สร้างโดยค่าย Trigger ที่มีชื่อเสียงเรื่องความแปลกอยู่แล้ว เช่น Kill La Kill อนิเมะที่ได้ชื่อว่าเป็นผู้กอบกู้วงการอนิเมะ และเร็ว ๆ นี้มี Cyberpunk: Edgerunner
ค่าย Trigger แม้ว่าจะได้ชื่อเสียงเรื่องความแปลก แต่ก็เป็นค่ายที่สามารถดึงเอาศักยภาพของความเป็นอนิเมชั่นหรือการ์ตูนออกมาได้อย่างเต็มที่ ในยุคนี้ที่อนิเมะดี ๆ คืออนิเมะที่สมจริงในเรื่องของงานภาพ เราอาจจะลืมไปว่า ที่เรากำลังดูอยู่ก็คือการ์ตูน Trigger ไม่ลืมสิ่งนั้นครับ และใช้ประโยชน์ของข้อเท็จจริงที่ว่า เขากำลังทำการ์ตูนอยู่ ตัวละครไม่ได้สมจริงในเรื่องของลายเส้น แต่การแสดงออกทางสีหน้าและท่าทางที่เวอร์เกินจริงเป็นเอกลักษณ์ของการ์ตูน และค่ายนี้ดึงมาใช้ประโยชน์ได้อย่างเยี่ยมยอดอยู่แล้วครับ
มื้อแรก
ผมชื่นชอบในการบอกเล่าเรื่องราวมาก ๆ และสิ่งหนึ่งที่ขาดไม่ได้เลยในการเล่าเรื่องอะไรสักอย่างหนึ่งที่ทำให้เรื่องนั้นมีชีวิตชีวาก็คือตัวละคร หากมุกตลกของเรื่องไม่ได้มาจากเรื่องราว มันก็จะต้องมาจากตัวละครและเคมีของตัวละครเหล่านั้น Delicious in Dungeon ทำให้ผมคิดถึงอนิเมะตลกอีกเรื่องหนึ่งอย่าง KonoSuba ทั้งสองเรื่องบอกเล่าเรื่องราวผ่านตัวละครเหมือนกันครับ
Delicious in Dungeon มีตัวละครหลัก ๆ อยู่ไม่กี่ตัวครับ อย่างน้อยในตอนนี้ที่อนิเมะออกมา เรารู้จักอยู่ 5 ตัว ไลออส พระเอกของเรื่อง เป็นคนธรรมดา แกมีความฮาอยู่ที่ความหมกมุ่นในสัตว์ประหลาด และที่สำคัญที่สุด ความอยากรู้อยากเห็นและอยากกินของแก ผมว่าแกโลกจิตอ่อน ๆ ครับ
Laios
มาร์ซิลล์ (เป็นชื่อที่ผมคิดว่าเพราะมาก) เป็นเอล์ฟ และในการเล่นมุก นางเป็นตัวโดนของเรื่องนี้ครับ มาร์ซิลล์เป็นนักเวทย์ที่มีความสามารถ แต่เท่าที่เห็นยังไม่มีประโยชน์อะไรเลย (55555) มันทำให้คิดถึง เจ้าเทพอควาหน่อย ๆ ครับ นางเฉิดฉายตั้งแต่ตอนแรกเลย เพราะสีหน้านางในแต่ละฉากทำให้อดขำไม่ได้
Marchille (รูปหน้ามือถือใหม่ของผม เห็นแล้วอารมณ์ดี)
ชิลชัค เป็น ฮาล์ฟ-ฟุต ซึ่งจะคล้าย ๆ ฮอบบิทใน LOTR มีความสามารถในการสะเดาะกุญแจ และแก้ทางกับดักต่าง ๆ ในเรื่องนี้ผมมองแกว่าเป็น Straight man หรือก็คือตัวที่เล่นบทคนธรรมดาในมุกครับ แกดูธรรมดาที่สุดแล้ว ต่อมาไม่นานเรามี เซนชิ เป็นแคระที่มีความรู้และฝีมือในการทำอาหารจากสัตว์ประหลาดในดันเจี้ยน และเป็น แกเล่นเป็นตัวตลกหน้าตาที่มีโมเมนต์ฮา ๆ น่ารัก และน่านับถืออยู่หลายครั้งครับ
Senshi กับ Chilchuck
และสุดท้าย ฟาลิน น้องสาวของไลออส เรายังไม่รู้จักตัวละครนี้มากนัก เพราะเป็นเป้าหมายของกลุ่มพระเอกที่จะต้องเดินทางเข้าไปช่วยนางจากท้องมังกรแดง จากที่เห็นโดยคำบอกเล่า ฟาลินเป็นนักเวทย์ที่เก่งกว่ามาร์ซิลล์ และมีความเป็นแม่พระมาก ๆ ของกลุ่ม มันยิ่งทำให้ผมอยากเอาใจช่วยให้กลุ่มไลออสเดินทางไปช่วยฟาลินให้เร็วที่สุด หนึ่ง เพราะอยากให้เธอรอด และสอง อยากเห็นเธอในความบ้า ๆ บอ ๆ ของกลุ่มพระเอก
Falin
สุดท้ายแล้ว Delicious in Dungeon เป็นเรื่องที่ไม่ควรพลาดเลยไม่ว่ายังไงครับ เรื่องราวในโลกแฟนตาซีที่มีการคิดรายละเอียดมาอย่างดี ตัวละครที่บ้า ๆ บอ ๆ แต่ตลกเมื่ออยู่ด้วยกัน เป้าหมายน่าเอาใจช่วย เนื้อเรื่องที่สอดแทรกความจริงจังแต่ไม่ทิ้งความฮา งานภาพและอนิเมชั่นยอดเยี่ยมจากค่าย Trigger งานพากษ์ที่สมบทบาทตัวละคร เป็นอนิเมะที่ดูแล้วรู้เลยว่าผู้สร้างในส่วนต่าง ๆ มีความสนุกไปกับการทำอนิเมะเรื่องนี้ครับ เพราะคนดูอย่างผมก็รู้สึกสนุกไปด้วย
อย่าบอกนางว่านางกินอะไรไป
ไปดูกันนะครับผม Delicious in Dungeon หรือ Dungeon Meshi!
โฆษณา