5 มิ.ย. เวลา 12:00 • ท่องเที่ยว

เวียดนาม : มาเที่ยวบแบบไม่รู้.่าอะไรเลย 4

มาถึงตอนสุดท้ายที่กว่าจะมาเขียนต่อให้จบซะที(โว้ย)นะครับ ขออภัยทุกท่านด้วยครับที่หายไปเลย
เพราะด้วยความที่ตามปกติแล้ว วันสุดท้ายมันต้องอลังการสุดๆ ในการเที่ยวแต่ละครั้ง
แต่ครั้งนี้จะแตกต่างออกไปครับ เพราะมันร้อนนนนนนนนนนน
ต่อให้คุ้นเคยกับอากาศจากบ้านเราอยู่บ้าง แต่ร้อนก็คือร้อนฮะ...
ก่อนที่จะออกไปเที่ยววันสุดท้าย ขอเล่าเรื่องที่พักก่อนนะ
...ลืมเลย
เพราะเมื่อวานก็ถึงที่พักกันดึกเกินไป เลยไม่ได้เก็บรายละเอียดของที่พักสักเท่าไหร่เลยครับ
มาเก็บอีกทีก็ตอนเช้านี่แหละที่ได้สังเกตุอะไรบ้าง
ที่พักในคืนนี้ มีชื่อว่า M Village ที่น่าจะมีหลายสาขาพอสมควร และเพราะหัวหน้าทัวร์เป็นคนจัดการ เลยไม่รู้ว่ามันร่มรื่นดีมากขนาดนี้ และคืนนี้เราพักกันที่สาขาชื่อ The Garden
เขียนว่าคืนนี้ แต่รูปเป็นตอนเช้า...
แต่เรื่องน่าสนใจคือ เรามาตามหมุดในกูเกิลแมพครับ
แล้วหมุดที่ตามมา มันอยู่คนละซอยกับที่ตั้งจริง.....
มารู้เพราะว่าเราเดินเข้าซอยไปแบบโง่ๆ กัน แล้วมองหาอะไรก็ไม่เจอที่มันจะบอกว่าเป็นชื่อ M Village เลย
จนมีคนเวียดนามที่เขาได้ยินเราคุยๆ กันที่อยู่ในซอยที่เราเข้าไปผิดบอกทางให้ใหม่
...เขินเลย
...อะ สุดท้ายก็มาถูกซอยแล้วนะ
จากนั้น เมื่อเข้ามาในซอยก็จะเจอประตูทางเข้า
และมันก็เป็นประตูที่ต้องกดเปิดจากด้านใน ซึ่งมีกริ่งให้กดเรียกพนักงานให้เปิดให้ด้วยแหละนะ
แต่เพราะไม่มีใครสักคน และตอนนั้นก็มองไม่เห็นกริ่งด้วยครับ เราเลยยืนอึ้งกิมกี่ซีเซ็กฉ่ายกันอยู่หน้าประตูนั่นแหละ
...ตอนนั้นก็ไม่รู้แล้ว ว่าจะเข้าไปยังไงดี แต่โชคดีหน่อยที่มีคนออกมารออาหารอยู่หน้าประตูพอดี และเขากดกริ่งให้
ก็ดีใจอยู่หรอกนะที่มีคนช่วย...แต่ก็ไม่มีใครมาเปิดประตูให้
เอาแล้วกู
 
...หน้าเริ่มมุ่ยแล้ว เพราะคิดอยู่แล้วนะว่าเขากลับบ้านกันไปแล้วใช่มั้ย?
แล้วชั้นจะได้เข้าไปนอนมั้ย?!
เข้ามาแล้วก็จะเจอบรรยากาศแบบนี้แหละ
จากนั้นคนที่รออาหารอยู่ก็เปิดประตูเข้าไป เรานั้นจึงถือวิสาสะเข้าไปเลย!
ไม่งั้นไม่ได้นอนแน่ๆ
แต่สิ่งที่เจอก็กลายเป็นความว่างเปล่าแหละ เพราะที่ฟรอนท์ไม่มีใครอยู่เลย
ความหงิดเลยเริ่มเข้ามาให้ใจเสียบ้างแล้ว
เรานั้นก็นึกอะไรไม่ออกนอกจากให้หัวหน้าทัวร์เรานั้นติดต่อไปทางอะโก้ด่า แต่ก็มานึกออกทีหลังว่าเขาน่าจะมีเว็บหลักนะ แล้วก็ได้เจอปุ่มกดแชท Messenger ด้วย
เลยได้กดพิมพ์คุยและให้เขามารับลูกค้า(ซะที)
ซึ่งไม่คิดอีกหรอกว่าจะนาน เพราะก็เกือบยี่สิบนาทีอะ กว่าจะได้เข้าห้อง
อะ จบเรื่องเหตุการณ์ลุ้นๆ ไปแล้วแล้ว
มาว่ากันเรื่องที่พักต่อ
ที่นี่เองดูเป็นฟีลหอพักมากๆ เลยนะ เพราะทั้งสี ต้นไม้ บรรยากาศ และห้องซักผ้าที่มีพร้อม มันเลยดูเหมือนหอเด็กมหา'ลัย ยังไงไม่รู้สิ แต่เป็นที่ที่ดีเลยครับ
หากใครมองหาที่พักแบบสงบๆ ดีๆ ฟีลแบบโฮสเทลเล็กๆ น้อยๆ เราว่าที่นี่ดีเลยนะครับ
บรรยากาศสงบ ต่างกับถนนข้างนอกที่โคตรวุ่นวาย
มีมุมเครื่องดื่มฟรีให้ด้วยนะครับ ครบครันเลย
วาร์ปมาที่ปัจจุบัน
เช็คเอาท์ และก็ฝากกระเป๋าแล้ว ทีนี้ วันนี้เราจะมาเคลียร์มิชชั่นที่เหลือกัน!
แต่ทุกสิ่งทุกอย่าง ต้องเริ่มต้นด้วยการไปแลกเงินก่อน! ใช้ไอ้ที่แลกๆ มาก่อนหน้านี้หมดแล้วจย้า อุแง
จากนั้นก็แวะเข้าไปเดินเล่นดูในตลาดเบ๊นถั่ญอีกทีครับ เพราะวันแรกที่มาถึงก็แค่เดินผ่านๆ ไม่ได้ดูละเอียดเท่าไหร่
จากที่เดินเข้าไปดู มันก็คือตลาดศูนย์กลางในการหาซื้อของฝากและร้านอาหารครับ
มันจะอารมณ์คล้ายๆ กับตลาดต้นพยอมที่เชียงใหม่อะ
นึกออกใช่มะ?
มีทุกอย่างให้เลือกสรร และที่จำได้ติดหูจนถึงตอนนี้ ก็คือแพทเทิร์นการขายของของเหล่าคนขาย ที่เหมือนที่ไทยเด้ะๆ ที่ชอบพูดทำนองว่า "สวัสดี บลาๆๆๆ เฮลโล่ว"
อะไรแบบนี้เลย
เหมือนลอกกันมาเด้ะๆ
แต่สิ่งที่เจอแบบโหดๆ ก็คือร้านอาหารนี่แหละ
เราไปตรงจุดที่เป็นตรงสี่แยกในตลาด แล้วก็มองๆ ดูอาหาร ดูราคาที่ร้านนึง ทีนี้ ร้านอื่นๆ ก็ "เข้ามารุม" จนแทบจะกระชากแขนลูกค้ากันอยู่แล้ว!
เรารู้สึกว่ามันน่ากลัวมาก(ไรวะ ฮ่าๆๆ)เลยชวนกันเดินหนีออกมาเลย
...และมิวายโดนตีตูดมาอีกหนึ่งที............
ใช่ นั่นแหละ
อะไรกันวะ ฮ่าๆๆๆ
ด้วยความอลหม่าน วุ่นวาย และปริมาณคนที่แออัดมหาศาลมาก เลยไม่สามารถถ่ายรูปมาได้เลยครับ ขออภัย....
เราเลือกออกมาแล้วก็ไปหาที่อื่นแทนกันเลย เพราะกลัวโดนล้วงกระเป๋าครับ มารุมกันขนาดนั้นกลัวโดนเนียนเอา
หัวหน้าทัวร์ก็เลยพาไปที่ร้าน "เฝอเวียดนาม" ที่มันมีหลายสาขาเหลือเกิน แต่สาขาที่มากินนี่อยู่ไม่ไกลจากตลาดนี้ครับ
ปัญหาหลักๆ ของทริปนี้ของเราคือ ลืมถ่ายรูปหน้าร้านทุกครั้งเลยครับ พอดีมีกล้องเยอะไปหน่อย แหะๆ
และเป็นร้านที่ได้มิชลินด้วยนะ
ซึ่งกลายเป็นว่า ไอ้ที่เขาแนะนำเนี่ย กินไม่เป็นครับ
ฮ่าๆๆ เด๋อด๋าเลย
ได้มาเป็นหม้อร้อนๆ และเนื้อกับผักแยกกันมาแบบนี้ครับ
คือไอ้ครั้นจะคุยเป็นภาษาอังกฤษก็ได้ แต่สมองประมวลผลไม่ทันครับ เลยเป็นว่า ช่างมัน เอาที่เข้าใจนี่แหละ
รสชาติดี ชนะเลิศครับ แถมเครื่อเคียงมีให้กินเยอะมาก(เกินไปเสียด้วยซ้ำ แต่อร่อย) ก็เลยได้อิ่มแบบผู้ดีกันไป(เกี่ยวไร ฮ่าๆ)
อาาาาาาาาห์ส์ / เป็นผลจากการใส่มั่วๆ ทั้งนั้นครับ อร่อยมาก
จากนั้นก็นั่งรถไปต่อที่แลนด์มาร์คถัดไปครับ
คอนโดร้านกาแฟครับ
ถ้าเอาให้ถูก ต้องเป็น Coffee Apartment ครับ
มุมนี้ได้ครบที่สุดแล้วครับ เลยได้มาประมาณนี้ครับ
แล้วนี่ก็เป็นที่ๆ ตัดสินใจยากอีกอันว่าชั้นจะเข้าร้านไหนดีวะ
และสุดท้ายก็ได้ร้านนี้ครับ
เข้ามาด้วยความคาดหวังว่าแอร์ร้านนี้น่าจะเย็น สุดท้ายก็พ่ายให้ความร้อนข้างนอกอยู่ดีครับ
สั่งกาแฟมาดื่มและนั่งพักขากันนิดหน่อย พอหายเหนื่อยแล้วก็ไปต่อที่รูปปั้นลุงโฮครับ
คนนึงกินเย็น คนนึงกินร้อน เช่นเคยครับ
สภาพที่ถ่ายรูปจากข้างในมาครับ ดูเหมือนแฟลตคลองจั่นยังไงไม่รู้ และทุกชั้นก็จะมีโปสเตอร์อะไรแบบนี้เพียบเลยครับ
บรรยากาศอีกนิดหน่อยครับ แล้วเราย้ายที่ไปต่อดีกว่า
ลงมาถึงจะมาเห็นว่ามีร้านชาร้านโปรดจากไต้หวันอยู่ข้างๆ ด้วยครับ / ....เสียใจเลยเพราะอดอีกแล้ว
สิ่งหนึ่งที่เห็นอีกอย่างตอนลงมาแล้วก็คือ "ร้านหนังสือ" นี่แหละครับ / เข้าไปดูว่าบ้านเขามีอะไรให้อ่านบ้าง / บรรยากาศดีพอสมควรครับ เว้นเรื่องอากาศเท่านั้นเลย
ตอนออกมาจากอพาร์ทเมนท์
ฝั่งที่เราไปถ่ายรูปอาคารนั่นแหละครับ ตรงนั้นน่าจะเป็นลานคนเมืองของเขาแหละ
เดินออกมาแล้วเราก็พึ่งพา Maps เพื่อพาเราไปห้าง แต่ก็ผ่านอนุสาวรีย์ลุงโฮจิมินห์ด้วย
และเห็นไกลๆ ว่า ที่ลานกิจกรรมที่ถัดจากเราไป เขามีซุ้มมังกรอยู่ ก็เลยแวะไปซะหน่อย แล้วค่อยข้ามถนนไปหาลุงโฮกัน
เนี่ยครับ มันมีอะไรแบบนี้อยู่ครับ แถมจนถึงวันนี้ก็ยังไม่ได้แปลเลยนะว่าเขาเขียนว่าอะไร / หัวมังกรขยับได้ด้วยแหละ
ถึงแล้วจ้า แต่กว่าจะได้แวะถ่ายรูปนี่ ร่างกายแทบสลายเป็นธุลี เพราะอากาศอย่างเดียวเลย
เสร็จด้วยความรวดเร็วเพราะแดดแรงเชี่ยๆ ครับ
เลยรีบเดินไปที่ห้าง Vincom ครับ อยู่ไม่ไกลเท่าไหร่
ตึกนี้แหละครับ / ดูไกลๆ มองเป็น UM Tower แถวๆ คลองตันได้เหมือนกันนะ
แต่อิฉันเจอตึกยูนิโคล่ก่อน เลยแวะเข้าไปอัพเดตหน่อยครับ และไม่น่าเชื่อว่าเจอจุดน่าสนใจด้วยแหละ
มุมนี้แหละครับ เพราะนี่คือมุมที่เราสามารถดีไซน์เสื้อได้เอง และก็สกรีนได้ทันทีเลยครับ เจ๋งมาก
ไม่เคยเจอเสื้อราคาหลักล้านมาก่อน ทีนี้สามารถพูดได้เต็มปากแล้วนะว่า "เสื้ออะไรตัวละเป็นล้าน"
เดินวนเวียนอยู่สักพักก็ไปสู่ห้างซะทีเหอะ
ห้างนี้ก็เป็นห้างคล้ายๆ กับห้างไทยเลยครับ มีวัตสัน(?), Matsumoto Kiyoshi เฉยเลย
และก็มีโรงหนังด้วยนะ
ถ่ายมานิดหน่อยเองครับ รอบๆ พื้นที่ดูไม่ค่อยเป็นมิตรกับการถ่ายรูปและวีดีโอสักเท่าไหร่ / Lock 'n Lock นี่น่าจะเดินได้ทั้งวันอะครับ
แต่ก็แปลกใจว่า หัวหน้าทัวร์บอกว่าไม่เห็นเจอซุปเปอร์มาร์เก็ตที่ขายของฝากเลยแฮะ
เลยไปถามทางกันจนรู้ว่ามันต้องลงลิฟต์ไป
และเมื่อเปิดมาก็เจอร้าน Winmart ครับ
....นี่มันซูเปอร์มาร์เก็ตลับรึไงกัน?
เนี่ย ถ่ายได้แต่ของเองครับ คนเยอะมากจนเกรงใจที่จะถ่าย ถึงแม้คนอื่นจะไม่เกรงใจก็ตามเถอะ
ก็ชอปปิ้งของฝากกันไปอย่างจุใจกัน ค่าเสียหายโดนไปเจ็ดแสนกว่า!!!!
สบายใจแล้ว ได้ของมาฝากคนที่บ้านกันเรียบร้อย
ดูเป็นคนรวยเลยครับ ฮ่าๆๆๆ
และเป้าหมายสุดท้ายก็เป็นโบสถ์คริสต์ครับ
นี่แหละครับ ถึงแล้ว
นี่น่าจะเป็นเป้าหมายหลักๆ ของการมาเจอสิ่งสวยๆ งามๆ ของที่เวียดนามนะครับ เพราะสังเกตุเห็นได้ว่ามีนักท่องเที่ยวหลายๆ คนมาเยี่ยมชมและถ่ายรูปกันเยอะแยะมากมายเลย
แต่ว่า...ไอ้เรานั้นจำชื่อไม่ได้อะ แหะๆ
เป็นโบสถ์สีชมพูที่ดูโดดเด่นสุดๆ ครับ แต่เข้าไปด้านในตัวโบสถ์ไม่ได้นะ เลยได้แต่ถ่ายรูปกันอยู่ด้านนอกแหละ
ระยะไกล(ฝั่งตรงข้าม)ถ่ายแล้วไม่สวยเลยครับ เลยเอายังงี้แหละ
ลงหัวหน้าทัวร์ซักแชะ
แล้วก็เจอมุมดีๆ ครับ / ข้างขวามือนี่คือร้านกาแฟที่มีมุมถ่ายรูปโบสถ์หลังนี้ที่ดีอยู่ครับ และด้วยความที่มันดัง คนมันเลยเยอะมากจนรำคาญครับ เราเลยไม่ได้ขึ้นไปตั้งแต่แรก / และนี่คือตอนกลับที่มาเจอมุมจากในซอยพอดีนั่นแหละ
และเมื่อจบแล้วก็ "เดิน" กลับที่พักกันอย่างทุลักทุเลครับ
ทำไงได้อะ มันร้อน
หน้าที่พัก มีร้านอะไรไม่รู้ด้วยครับ นี่แค่แวะถ่ายเฉยๆ
และสุดท้ายก็ถึงเวลากลับสู่โลกความจริง...อีกแล้วครับ
ซึ่งใจเราหลายๆ คนก็คงจะไม่อยากกลับหรอกเนอะครับ
ประเทศที่มีทั้งสภาพภูมิประเทศที่น่าสนุกตั้งหลายที่, เมืองที่ดูเหมือนจะไม่มีอะไร หรือดูแล้วเข้าใจยาก
แต่พอมาเที่ยวแล้วก็รู้สึกสนุกและเอ็นจอยไปกับมัน
...แต่ก็น่าแปลกใจที่ผมเองนั้น อยากรีบกลับบ้านมากเลยครับ
มันอาจจะไม่ใช่อาการที่คิดถึงบ้าน, เป็นพวกติดบ้านที่จะห่างจากบ้านไม่ได้เลยแต่อย่างใด
แต่เพราะว่าเครื่องบินมันดีเลย์อีกแล้ววววววว...
โว้ยยยยยยยยยยยย
ไม่รันทดสักเส้นทางไม่ได้รึง้ายยยยยยยย!!!
ขอบคุณทุกๆ ท่านที่อ่านจนจบครับ
หวังว่าจะชอบเรื่องนี้กันนะครับ และก็ฝากบล็อกท่องเที่ยวโง่ๆ แบบนี้ไว้ในความทรงจำด้วยนะครับ
พื้นที่โฆษณา
ผมและหัวหน้าทัวร์(แฟน)ได้ทำช่องยูถูบบันทึกการเดินทาง, รีวิวโรงแรม และท่องเที่ยวนู่นนี่ด้วยกันครับ
ฝากกดติดตามกันด้วยนะครับ
และมีเพจเฟซบุ๊คให้ได้คุยกันด้วยนะครับ เผื่อเราจะได้พูดคุย แนะนำ และสนับสนุน(?)กันได้ง่ายขึ้นนะครับ แหะๆ
ฝากติดตามกันด้วยอีกช่องทางนะครับ
โฆษณา